'พญ.ของขวัญ'ฟินและแรง(ไม่)แซงสติ | คมชัดลึก

 

                  "คนขับรถเก่งๆ เร็วๆ รู้จังหวะ จะปลอดภัยกว่าคนขับช้าแบบแม่บ้านหวานเย็นแล้วทำให้ชาวบ้านข้างหลังชนกันระเนระนาดนะ..."

 

                  คนเราเกิดมาชาติเดียวคิดทำอะไรก็ต้องรีบ...และเมื่อลงมือแล้วก็ต้องให้สุดๆ จริงไม่จริงแนะนำให้พิสูจน์ด้วยตัวเอง แต่ถ้าอยากหาตัวช่วยสนับสนุน ปะหน้าสาวสวย มั่นใจ และแอบเซ็กซี่อย่าง พญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ วินธุพันธ์ หรือในแวดวงสังคมเรียกติดปาก "หมอของขวัญ" ก็ลองกระแซะถามไลฟ์สไตล์ของเธอ รับรองรู้แล้วถ้าไม่อึ้งก็ต้องอ้าปากค้างทีเดียว ด้วยคุณหมอสาวเจ้าของคลินิกความงามชื่อดัง "ของขวัญ คลินิก" เป็นคนชัดเจน คิดเร็วทำเร็ว และสะท้อนตัวตนบางส่วนออกมาเป็นงานอดิเรกมันๆ อย่างการ "ขับโกคาร์ท" ท้าทายความกล้า...

                  หลังว่างจากการจับมีดผ่าตัดและงานบริหารกองโตบนโต๊ะทำงานอันเนื่องมาจาก 15 สาขาคลินิก หมอสาววัย 30 กะรัตต้นๆ ที่เพิ่งประกาศสละโสดสายฟ้าแลบกับสามีหนุ่ม (เกรียงไกร วินธุพันธ์) ที่เพิ่งคบหาดูใจกันได้ 24 วัน (เจ้าตัวบอกอย่างนั้น) มักพาตัวเองไปจดจ่ออยู่ที่สนามแข่งโกคาร์ท ภายในอาร์ซีเอ พลาซ่า เช่นเดียวกับวันนี้ที่สาวเจ้าปรากฏกายในเสื้อผ้าทะมัดทะแมงแสดงออกถึงความพร้อมในการขึ้นควบโกคาร์ทคันเก่ง

                  "ชอบรถมาตั้งแต่เด็กๆ ชอบดูแข่งรถ ชอบเอฟวัน ชอบซูเปอร์คาร์ ไม่ชอบเล่นตุ๊กตา เคเบิลสกี ดำน้ำก็ชอบ เวลาไปดูแข่งรถก็จะเห็นว่าเขาใช้ความสามารถมากๆ รุ่นพี่นักแข่งรถที่สนิทกันเขาเลยแนะนำให้เริ่มที่ขับโกคาร์ทก่อนเพราะเป็นการเริ่มต้นขับรถแข่งที่ดีที่สุด เราเลยค้นหาสนามแข่งที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ใกล้บ้าน สบาย แอร์เย็น ไม่น่ากลัวเกินไป ซึ่งที่นี่ก็โอเคระดับหนึ่ง เลยมาเป็นสมาชิกด้วย" คุณหมอหุ่นระหง ทักทายก่อนจะจัดแจงเลือกหมวกนิรภัยเสริมความมั่นใจในการขับขี่

                  แน่นอนว่าไลฟ์สไตล์ลุยๆ กับผู้หญิงร่างบอบบางย่อมมีมุมมองการใช้ชีวิตที่แตกต่าง คุณหมอสาวเล่าว่า ตัวเองเป็นลูกไม้ใต้ต้นของคุณพ่อศัลยแพทย์ (นพ.วิเศษ ฟูจิตนิรันดร์) ส่วนคุณแม่ (ฉวีวรรณ ฟูจิตนิรันดร์) ทำธุรกิจเดินรถที่ชลบุรี ความที่เป็นลูกสาวคนโตของบ้านตั้งแต่บรรลุนิติภาวะก็หาเงินใช้เองตลอด จนเมื่อเรียนจบแพทย์ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒก็ทำงานที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งก่อนจะตัดสินใจลาออกด้วยรู้สึกว่าชีวิตนี้เป็นลูกน้องใครไม่ได้ แล้วลงขันกับเพื่อนเปิดคลินิกความงาม และด้วยความที่เป็นคนชัดเจน ตรงๆ นิสัยออกแมน ไม่นิยมความจุกจิกแบบผู้หญิง จึงชอบทำงานกับคนที่คล่องตัว เพื่อสะสางงานยุ่งๆ แต่ละวัน บางครั้งหากมีลูกค้าวีไอพีก็ต้องลงมือผ่าตัดเองด้วย

                  "เคยลุยงานตลอด 7 วัน เหนื่อยมากๆ ก็เลยลดระดับความรุนแรงเหลือ 5 วัน ว่างๆ ถ้าไม่ขับโกคาร์ทก็มีกิจกรรมล้านแปดเหมือนโฆษณาประกันชีวิตเลย คือตอนเด็กๆ คุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกมีความสามารถพิเศษแบบล้นเหลือ เลยจับลูกทำทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเล่นดนตรีไทย สากล เล่นวง เล่นเดี่ยว บัลเล่ต์ แจ๊สแดนซ์ แต่บัลเล่ต์คุณแม่ให้หยุดเพราะเกรงว่าเยื่อพรหมจารีจะขาดตั้งแต่เด็ก เลยเปลี่ยนไปเป็นเต้นรุมบ้าแทน สิ่งที่ทำไม่ได้เลยในชีวิตนี้คือร้องเพลง เพราะเป็นหอบหืดตั้งแต่เด็ก ทำหลายอย่างแต่ก็เอาอยู่ สำคัญอยู่ที่การมีแขนขาเพิ่มเพื่อให้งานเดินไปได้" คุณหมอนักบริหาร แจกแจงรูปแบบการทำงานที่ยังเอื้อให้มีเวลาทำในสิ่งที่ชอบได้

                  ว่าแล้วก็ไม่รีรอขึ้นควบโกคาร์ทคันเก่ง พร้อมสารภาพว่ารถแข่งเป็นแรงกระตุ้นชั้นดีให้อะดรีนาลีนสูบฉีด แต่ถึงจะเล่นมาได้เกือบสองปีแล้วฝีมือก็ยังไม่ถึง "ขั้นเทพ" มีรุ่นพี่ที่ขับชำนาญแนะว่าถ้าอยากดริฟท์ก็ต้องซ้อมให้มากๆ แรกๆ คงต้องฝึกเข้าโค้ง เปรียบเหมือนเป็นชั้นอนุบาลของรถแข่งก็คงไม่ผิดนัก เพราะ สำหรับมือใหม่การจะบังคับรถให้อยู่ค่อนข้างยาก ต้องรู้วิธีการควบคุม ต้องอาศัยพละกำลังมือที่จะเหวี่ยง ผู้ขับต้องเข้าใจอย่างถูกต้อง

                  "จริงๆ ผู้หญิงที่ขับโกคาร์ทเก่งจะได้เปรียบผู้ชายนะ เพราะน้ำหนักที่ห่างกันแค่กิโลเดียว ความเร็วต่างกันเยอะมากสำหรับรถแค่ 200 ซีซี ดังนั้นผู้ชายตัวเล็กๆ แต่ขับเก่งๆ รับรองรุ่งเลย ถามว่าเคยเจ็บไหมประมาณ 2 เดือนก่อนเข้าโค้งแล้วเอารถไม่อยู่ ตอนนั้นเมื่อยแขน ล้ามาก รถแหกโค้งชนขอบทาง ตัวกระเด็นออกมาแถไปทั้งแถบเลย พอแต่งงานคุณสามีรู้ก็สั่งห้าม บอกขอร้องละช่วยทำตัวอย่าตายได้ไหม อย่าผาดโผน ไม่ได้ตัวคนเดียวแล้วนะ ถ้าโสดๆ ล่ะก็เปรี้ยวไม่หยุดแน่" สาวผู้เนรมิตความงามสั่งได้ เผยนาทีชีวิต

                  ถึงกระนั้นต่อให้เสี่ยงแค่ไหนหากใจรักก็ไม่ถอยง่ายๆ เจ้าตัวบอกสนามแข่งปิดเที่ยงคืน เลิกงานจะพยายามมาถึงให้ได้ก่อนสี่ทุ่ม ยิ่งมาเร็วได้ยิ่งดีจะได้มีเวลา แต่ละครั้งจะขับรอบละ 8 นาที สัปดาห์หนึ่งถ้าทำได้สักสองวันถือว่าวิเศษ แต่ตอนนี้สัปดาห์ละครั้งยังยาก คงต้องรอให้สามีเผลอถึงแวบมาได้!!

                  "เสน่ห์ของโกคาร์ทอยู่ที่เราอยู่กับความเร็วแล้วเราคอนโทรลได้ รู้จักมัน มันจะค่อนข้างฟิน คนขับรถเก่งๆ เร็วๆ รู้จังหวะ จะปลอดภัยกว่าคนขับช้าแบบแม่บ้านหวานเย็นแล้วทำให้ชาวบ้านข้างหลังชนกันระเนระนาดนะ ตัวเองก็ขับเร็วมากๆ ทั้งมอเตอร์ไซค์ รถเล็กรถใหญ่จับมาหมด แผลที่ได้มาก็พวกนี้ทั้งนั้น ด้านร่างกายมันคือการออกกำลังกายชนิดหนึ่ง ที่ทำให้กำลังแขนเราดีขึ้น ส่วนข้อคิดที่ได้จากการขับรถถ้าจะให้โยงเรื่องการใช้ชีวิตมันก็โยงได้หมดแหละ สังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยง เอาเป็นว่ากิจกรรมไหนที่เราจับแล้วแฮปปี้ มันก็ช่วยเติมเต็มชีวิตให้มีรสชาติขึ้น ปกติเป็นคนใจร้อนโชคดีที่ทำธุรกิจตั้งแต่เด็กจนตอนนี้ความใจร้อนลดลงมาก ในโลกของความเป็นจริงเราจะมาเอาแต่ใจตัวไม่ได้ ขึ้นอยู่กับเหตุและผล" เจ้าของคลินิกความงามซึ่งมีไอดอลอย่าง "เอ๋" ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม นักแข่งรถคนดังเป็นไอดอล ชี้ประโยชน์จากกิจกรรมโปรด

                  ซิ่งโกคาร์ทจนอะดรีนาลีนสูบฉีดพลุ่งพล่านหลายรอบ เธอลดความเร็วเทียบจุดเริ่มต้นอีกครั้งก่อนจะเอื้อนเอ่ยอย่างจริงจังว่า การขับรถเร็วไม่ใช่เรื่องผิด เพียงแต่อย่าลืมว่าคนเรามีแค่หนึ่งชีวิตและโอกาสแค่หนึ่งครั้ง ประสบการณ์ส่วนตัวเคยเห็นมามากที่พ่อแม่รวยเป็นหมื่นล้าน ขับเฟอร์รารีแต่พลาดเพียงเสี้ยววินาทีเป็นอัมพาตไปตลอดชีวิต ดังนั้นทำให้ฉุกคิดได้ว่าชีวิตมีคุณค่าแค่ไหน

                  เมื่อความเร็วและแรงแต่ไม่มีวันที่จะให้แซงสติดังก้องอยู่ในหัว โปรเจกท์ยักษ์อยากสัมผัส "วัน เมค เรซ" สักครั้งในชีวิตจึงขอพับไว้ก่อน เพราะคุณหมอนักแข่งย้ำชัดว่าต่อให้เป็นคนไม่แคร์ แต่ชีวิตจริงไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว สู้ควบซูเปอร์คาร์สวยๆ เปิดประทุนเร็วพอประมาณบนท้องถนนจะดีกว่า...