'อัจฉราวดี'ชวนทอดผ้าป่าซับน้ำตาชาวนา

              12ก.พ.2557 สืบเนื่องจากความตระหนักถึงความเร่งด่วนของปัญหาและความรุนแรงของผลกระทบโครงการรับจำนำข้าวที่มีต่อชาวนาไทยหลายล้านคนในขณะนี้ องค์กรโนอิ้งบุดด้าจึงประกาศจัดงานทอดผ้าป่า “โนอิ้ง บุดด้า ช่วยซับน้ำตาชาวนาไทย” เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความช่วยเหลือต่อพี่น้องเกษตรกร พร้อมทั้งเรียกร้องให้คนไทยทุกฝ่ายก้าวข้ามความแตกต่างทางการเมืองเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้ได้มากที่สุด

              เป้าหมายเบื้องต้นขององค์กรจะเน้นไปที่กลุ่มเกษตรกรที่อาศัยในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สุพรรณบุรี สิงห์บุรี และสุรินทร์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่กำลังเดือดร้อนเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ โดยเงินที่ได้จะนำมาตั้งเป็นกองทุนประทั้งชีพ มีการประสานงานแจกจ่ายเงินผ่านผู้นำชุมชนท้องถิ่นเท่านั้นเนื่องจากเป็นผู้รู้ปัญหาของสมาชิกชุมชนเป็นอย่างดี

              ขณะนี้องค์กรเตรียมส่งทีมงานด้านบรรษัทบริบาลหรือ Corporate Social Responsibility (CSR) เข้าไปพบและพูดคุยกับเกษตรกรที่มาประท้วงแล้วเพื่อจัดทำข้อมูลในการให้ความช่วยเหลือที่เหมาะสม และเพื่อให้แน่ใจว่าเงินถึงตัวผู้ที่เดือดร้อนอย่างแน่นอนโดยไม่ผ่านองค์การบริหารส่วนตำบลและองค์การบริหารส่วนจังหวัด

              “เราไม่ได้หวังว่าจะหาเงินจะมาแทนที่เงิน 140,000 ล้านบาทที่สูญเสียไปในโครงการ แม้เงินที่จะระดมได้เทียบไม่ได้เลยกับเงินที่ชาวนาเฝ้ารอ แต่อย่างน้อยเป็นการแสดงให้เห็นว่าเราห่วงใยและระลึกถึงความเป็นผู้มีคุณของแผ่นดินเสมอ แม้จะเปลี่ยนโชคชะตาไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็หวังอยากซับน้ำตาให้ แม้ว่าอาจจะซับได้เพียงหยดเดียวเราก็จะขอมุ่งมั่นทำ เพราะยังดีกว่ายืนอยู่เฉยๆ” อาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล ประธานและผู้ก่อตั้งองค์กรโนอิ้งบุดด้า  กล่าว

              ปัจจุบันนี้ องค์กรมีฐานผู้สนับสนุน 1,500 คนและในกลุ่มนี้มีขอบข่ายเพื่อนและพนักงานร่วมกว่า 10,000 คน ซึ่งจะช่วยกระจายข่าวสู่วงกว้าง อย่างไรก็ดี ตัวสมาชิกองค์กรและงานทอดผ้าป่าครั้งนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องทางการเมืองและการประท้วงขอระดมเงินโดยกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส.แต่อย่างใดทั้งสิ้น

              อาจารย์อัจฉราวดียืนยันว่า โนอิ้งบุดด้ายังคงเป็นองค์กรพุทธศาสนาที่ทางานด้านการปกป้องศาสนาเป็นหลัก แต่เพราะเล็งเห็นแล้วว่าความยึดมั่นในความคิดทางเมือง ผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้อง ผลกระทบจากการเลือกหรือไม่เลือกข้าง และการไม่ไว้เนื้อเชื่อใจซี่งกันและกัน กำลังเป็นอุปสรรคอย่างใหญ่หลวงต่อการช่วยเหลือเกษตรกร ทางองค์กรจึงตัดสินใจจัดงานนี้ขึ้นมาเพื่อเชื้อเชิญและเป็นช่องทางให้กับคนที่อยากช่วยและเป็นอิสระจากการถูกโยงกับการเมืองไม่ว่าจะเป็นประเด็นใดๆ ก็ตาม

              “วันนี้เมื่อคนในแผ่นดินพุทธเดือดร้อนจนถึงที่สุด ด้วยเมตตาธรรม เรามิอาจปล่อยวางได้ โดยเฉพาะคนที่เดือดร้อนเหล่านี้คือประชากรส่วนใหญ่และเป็นผู้ผลิตอาหารเลี้ยงคนทั้งประเทศ แต่กลับเป็นกลุ่มคนที่ยากจนและถูกเอารัดเอาเปรียบมากที่สุด ในฐานะคนไทย ถึงเวลาแล้วที่เราต้องสลัดทิ้งสีและหยุดเลือกข้างชั่วคราว เพื่อมาช่วยกันพยุงกระดูกสันหลังของชาติไม่ให้อ่อนเปลี้ยมากไปกว่านี้” อาจารย์อัจฉราวดี กล่าว

              อย่างไรก็ดี การขอความร่วมมือระดมทุนในองค์กรใหญ่ๆ เป็นไปอย่างยากลำบากหรือเกือบเป็นไม่ได้เลย เพราะไม่มีใครกล้าขยับในนามองค์กร ต้องทำในนามส่วนตนเท่านั้น เพราะต่างกลัวการถูกตรวจสอบจากดีเอสไอ หรือกลัวการป้ายสีทางการเมือง

              การทอดผ้าป่านี้จะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกคือ 24 กุมภาพันธ์ โดยไม่มีการจัดงาน เพียงเป็นการสรุปยอดแล้วนำเงินมาอนุโมทนาและจำหน่ายจ่ายแจกไปทันทีเป็นการช่วยผ่อนภาระเกษตรกรระลอกแรก ช่วงที่สองคือวันที่ 30 มีนาคม เวลา 09.00 น. ที่ธรรมสถาน อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เป็นการจัดงานถวายผ้าป่าเพื่อชาวนาไทย และนำเงินบริจาคทั้งหมดไปเยียวยาเกษตรกรต่อไป

               “เราขอเรียกร้องให้คนไทยมามีส่วนร่วมในการผ่อนภาระเกษตรกรจากหนักให้เป็นเบา ทางองค์กรรับรองว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้รับนี้มีระบบการจัดการอย่างถี่ถ้วน โปร่งใส และตรวจสอบได้ เพราะเราทราบดีว่าเป็นเงินที่มาจากน้ าใจของผู้ที่มีจิตศรัทธาในการให้อย่างแท้จริง” อาจารย์อัจฉราวดีกล่าวทิ้งท้าย