ข่าว

'โจ้'เข้ายิม...สร้างกล้ามเสริมไอเดีย

'โจ้'เข้ายิม...สร้างกล้ามเสริมไอเดีย

08 ก.พ. 2557

ขอเวลานอก : 'โจ้-ณัฐวุฒิ' เข้ายิม...สร้างกล้ามเสริมไอเดีย : เรื่อง กอบแก้ว แผนสท้าน / ภาพ อนันต์ จันทรสูตร

 

                          "พอเล่นเสร็จสมองปลอดโปร่ง อาจจะเป็นเพราะพอได้เล่นร่างกายหลั่งสารอะดรีนาลีนแล้วเรามีความสุข คิดโน่นคิดนี่ มีจินตนาการ มีความคิดสร้างสรรค์ได้ดี"

 

                          ชีวิตคนเราเอาแน่เอานอนไม่ได้ ดังนั้น เมื่อเจอสิ่งที่ใช่สำหรับตัวเองและไม่ทำความเดือดร้อนต่อใคร จึงไม่ควรปล่อยผ่านไปไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม...ดู "ทายาทหมื่นล้าน" ของบริษัทรับเหมาก่อสร้างชื่อดัง "โจ้" ณัฐวุฒิ ตรีวิศวเวทย์ เป็นตัวอย่าง เมื่อค้นพบว่า "การสร้างกล้ามเนื้อในยิม" ช่วยสร้างสุขแถมด้วยบุคลิกภาพ ความมั่นใจ และไอเดียเจ๋งๆ (ในบางครั้ง)ให้ตัวเอง เขาจึงจัดตารางชีวิตในช่วงเช้าของทุกวันให้กับการเข้าฟิตเนสอย่างต่อเนื่องมากว่า 10 ปี และยังคงยึดมั่นว่าจะปฏิบัติไปอีกนานเท่านาน

                          ที่ฟิตเนส เฟิร์ส สาขาโรงแรมแลนด์มาร์ค ซึ่งใช้เป็นสถานที่นัดพบและพูดคุยกับ "เลขานุการ และ ผู้จัดการสำนักกรรมการผู้จัดการใหญ่" บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) โดยเจ้าตัวเล่าว่าจากการถูกพ่อแม่ส่งไปใช้ชีวิตที่ประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่อายุ 15 ปี ทำให้ได้สัมผัสและค่อยๆ ซึมซับวิถีชีวิตหนุ่มมะกัน โดยเฉพาะการดูแลรูปร่างให้มีกล้ามเนื้อ จึงนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเล่นฟิตเนส

                          "ผมเริ่มเล่นฟิตเนสตั้งแต่ตอนเข้าเรียนปริญญาโท ประมาณปี 2004 จุดแรกของความสนใจ คือ ต้องการมีกิจกรรมกับเพื่อนๆ เพื่อเข้าสังคมช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ มีเวลาว่างไปกับเพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกสนานกันไป อีกอย่างคือ มันเป็นภาพลักษณ์ของสังคมตะวันตกที่ว่าหนุ่มๆ ต้องมีกล้ามเนื้อ ต่างจากทางฝั่งโลกตะวันออกที่หนุ่มๆ อาจจะชอบผอมๆ เพรียวๆ จริงๆ แล้วตอนนั้นผมผอมตัวเล็กมาก เล่นแป๊บเดียวเห็นผลก็เลยติดใจเล่นมาเรื่อยๆ อีกอย่างแอบภูมิใจในตัวเองว่าสามารถเปลี่ยนภาพลักษณ์ตัวเอง จากผอมแห้งแรงน้อยเป็นหนุ่มมีกล้ามเนื้อได้ ดูสุขภาพดีได้" หนุ่มโจ้เปิดฉากเล่าถึงต้นเหตุแห่งที่มาของกิจกรรมสุดโปรดของเขา พร้อมกับย้ำถึงความชอบของตัวเองว่า นับตั้งแต่เล่นฟิตเนสมานาน 10 ปีเขายังไม่เคยหยุดเล่นเกิน 1 อาทิตย์เลย

                          ถึงจะมีพลาดพลั้งบาดเจ็บจากการเล่นบ้างแต่ก็ไม่ได้ทำให้เสน่ห์ของการฟิตเนสจืดจางลง "โจ้" ณัฐวุฒิ เล่าว่าทุกครั้งที่เล่นฟิตเนส รู้สึกว่าร่างกายหลั่งสารอะดรีนาลีน ขณะเดียวกันยังเป็นช่วงเวลาที่ได้อยู่กับตัวเอง และมีสมาธิสร้างสรรค์ไอเดียเจ๋งๆ ได้บ่อยครั้ง

                          "ผลที่เห็นชัดเจนคือทำให้เราแข็งแรง มีบุคลิกภาพดี มั่นใจในตัวเอง แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะบอกคือ ทำให้สดชื่น พอเล่นเสร็จสมองปลอดโปร่ง อาจจะเป็นเพราะพอได้เล่นร่างกายหลั่งสารอะดรีนาลีนแล้วเรามีความสุข คิดโน่นคิดนี่ มีจินตนาการ มีความคิดสร้างสรรค์ได้ดี โปรเจกท์ใหม่ๆ บางครั้งปิ๊งไอเดียตอนขณะเล่นฟิตเนส ตอนที่ดูเรื่องออกบูธ ออกงาน ต้องการครีเอทีฟบ้าง เพราะต้องไปจัดนิทรรศการ บางทีเล่นๆ อยู่ความคิดทางด้านนี้ก็ปิ๊งขึ้นมา จริงๆ แล้วผมชอบเล่นเองคนเดียว มันทำให้ผมได้คิดโน่นคิดนี่ กินกาแฟ ยกเวตหนักๆ บางทีก็ได้ไอเดียใหม่ๆ ตอนเล่นฟิตเนส ที่สำคัญมันเป็นโมเมนต์ที่ผมรู้สึกว่าได้อยู่กับตัวเอง ผมไม่ชอบเล่นฟิตเนสกับเทรนเนอร์ ไม่ชอบเล่นกับคนอื่น" ทายาทคนสุดท้องในจำนวน 3 คนพี่น้อง ของ ปลิว-สายเกษม ตรีวิศวเวทย์ บอกถึงข้อดีที่เขาได้จากกิจกรรมสร้างกล้าม โดยไม่ลืมสะกิดเตือนถึงข้อควรระวัง หากผู้เล่นไม่ศึกษาถึงวิธีการใช้เครื่องมือแต่ละชนิดอย่างละเอียดรวมถึงการวอร์มร่างกายทั้งก่อนและหลังเล่นอาจทำให้บาดเจ็บตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงร้ายแรงถึงขั้นเล่นไม่ได้อีกเลย

                          เพราะหลักของการสร้างกล้ามอย่างถูกต้องนั้น ใช่ว่าแค่เล่นยิมเพียวๆ อย่างเดียว แต่ต้องมีเรื่องไลฟ์สไตล์ควบคู่ไปด้วย และ "ผู้บริหารหนุ่ม" เจ้าของดีกรีปริญญาโทเกียรตินิยม สาขาการเงิน จากมหาวิทยาลัยแสตมฟอร์ด ก็ไม่พลาดในการยึดปฏิบัติ

                          "การสร้างกล้ามเนื้อไม่ใช่แค่การเข้ายิมเพียงอย่างเดียวแต่ต้องมีเรื่องของไลฟ์สไตล์ควบคู่ไปด้วย สมัยอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ผมเป๊ะมาก โดยเฉพาะเรื่องการกินอาหารเช้า สาย บ่าย เย็น วันละ 5 มื้อ มีสูตรคำนวณเลยว่าต้องกินโปรตีนกี่กรัมต่อน้ำหนักตัวเรา ก่อนนอนก็ต้องกินชีสสดไร้ไขมัน (cottage cheese) ไข่ไก่นี่จัดเต็มมาก แต่พอกลับมาเมืองไทยต้องทำงานในฐานะผู้บริหารมันไม่สะดวกที่จะมานั่งกินอาหารวันละ 5 มื้อ เลยต้องมีการปรับเปลี่ยน เหลือแค่วันละ 3 มื้อ แต่พยายามเน้นอาหารเพื่อสุขภาพ กินไข่ไก่วันละ 16 ฟอง มื้อเช้ากิน 8 ฟองกับอาหารเช้า นอกจากนี้ก็มีไก่ย่างวันละ 2 ชิ้น เพราะอาหารไทยไม่ค่อยเน้นโปรตีนมีแต่แป้งมากกว่า ผมเองจึงต้องหมั่นเสริมในจุดนี้เอง บางทีก็มีหมูย่าง เมนูไข่ก็พยายามครีเอทมากขึ้น กินแต่ไข่ขาวอย่างเดียวก็เบื่อ บางครั้งก็เอาใส่ก๋วยเตี๋ยวแทนเส้นเป็นการลดแป้งไปในตัว ไข่ขาวถือว่าเป็นโปรตีนชั้นเยี่ยมเพราะไม่มีไขมัน ส่วนไข่แดงกินแค่วันละ 2 ฟองเท่านั้นพอ ซึ่งเรื่องพวกนี้ผมใช้วิธีการศึกษาเองจากเว็บไซต์บ้าง จากหนังสือบ้าง ยูทูบบ้าง" หนุ่มกล้ามปูหน้าใสกิ๊ก แบ่งปันประสบการณ์แบบไม่หมกเม็ด

                          ด้วยความรักที่มีต่อการเข้ายิมเป็นทุนเดิมบวกกับความรู้ที่สั่งสมมานานปี ทำให้ บอสหนุ่มวัย 32 ปี เคยอยากทำธุรกิจฟิตเนสของตัวเอง ทว่าติดที่ต้องช่วยสานต่อธุรกิจของครอบครัว โดยรับหน้าที่หลายอย่างทั้งนโยบายรวมควบคู่กับดูเรื่องบรรษัทภิบาลประสานงานกับ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ นอกจากนี้ยังดูแลด้านนักลงทุนสัมพันธ์ รวมถึงการดูแลทางด้านซีเอสอาร์ทั้งในและนอกองค์กร จึงต้องชะลอโครงการในฝันของตัวเองไปก่อน

                          "ตอนแรกก็คิดอยากเปิดยิมเล็กๆ ของตัวเอง เพื่อว่าตอนเช้าจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปที่อื่น ขณะเดียวกันก็เหมือนต่อยอดจากสิ่งที่เราชอบให้เป็นรายได้ แต่ด้วยธุรกิจของครอบครัวค่อนข้างเยอะ ซึ่งผมเองก็อยู่ในช่วงต้องพยายามเรียนรู้งาน เนื่องจากเรียนมาทางด้านไฟแนนซ์ การเงิน แต่ที่บ้านทำงานรับเหมาก่อสร้าง ยิ่งคุณพ่อและครอบครัวพี่ชายคุณพ่อ ท่านทำมาได้เจ๋งมาก ดังนั้นในฐานะที่ผมเป็นรุ่น 2 ซึ่งมีโอกาสกว่าเยอะมาก ผมยิ่งต้องพยายามเรียนรู้และพิสูจน์ตัวเองว่าจะสามารถพาบริษัทไปให้ได้ไกลกว่าอีก ไม่ใช่แค่นอนกินเฉยๆ ก็เลยตัดใจ หันมาให้ความสนใจกับเรื่องนี้ก่อนดีกว่า เพราะยังไงซะในวันข้างหน้าก็ต้องเข้ามาดูแลอยู่แล้ว ส่วนเรื่องฟิตเนสคงต้องรอให้งานประจำนี้อยู่ตัวซะก่อน ตอนนั้นอาจจะรื้อความตั้งใจนี้ขึ้นมาใหม่ก็ย่อมได้" ณัฐวุฒิ ตรีวิศวเวทย์ เล่าถึงความมุ่งมั่นทั้งในเรื่องงานและเรื่องกิจกรรมซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่เขารักทั้งสองอย่าง