'พล.ร.ต.วินัย'มนุษย์กบตัวพ่อ'หน้าที่ผมคือปกป้องปชช. | คมชัดลึก

 

 

                   "การทำงานของมนุษย์กบ คือหน่วยรบพิเศษนักทำลายใต้น้ำจู่โจม เคลื่อนที่เร็วเหมือนกองโจร ซึ่งเป็นยุทธวิธีที่เหมือนทหารในสมัยของพระเจ้าตากกู้ชาติในอดีต โดยเฉพาะงานสงครามกองโจร ซึ่งเป็นงานของเรา"

 

                   นี่คือคำกล่าวนำพาให้รู้จักกับภารกิจอันน่าทึ่งของสุภาพบุรุษนักรบทหารเรือไทย พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ (ผบ.นสร.) วัย 57 ปี หรือผู้บังคับบัญชาหน่วยรบ 'มนุษย์กบ' ของกองทัพเรือก็เรียก และ ผบ.วินัย ก็ทำตัวเยี่ยง 'มนุษย์กบตัวพ่อ' ที่เปี่ยมด้วยความรักเกียรติและศักดิ์ศรีของชายชาติทหาร ส่วนในทางสากลหน่วยรบดังกล่าว ก็มักถูกเรียกว่า 'หน่วยซีล'  

 

                   หลังจากชื่อของ "หน่วยซีล" หรือ "มนุษย์กบ" แห่งกองทัพเรือไทย ตกเป็นข่าวฮือฮาขึ้นมาอีกครั้งในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะกองทัพ 'มวลมหาประชาชน' ของ กปปส. ปฏิบัติการชัตดาวน์กรุงเทพฯ  และหน่วยซีลก็ได้ส่งนายทหารปะปนเข้าไปหาข่าว และทำภารกิจหาข่าวเกี่ยวกับยาเสพติดในที่ชุมนุมด้วย 

 

                   แล้วนายทหารเรือระดับครูฝึกและลูกน้อง 'หน่วยซีล' ของ พล.ร.ต.วินัย 3 นาย ก็ถูกตำรวจ สน.นางเลิ้ง จับกุม รวมถึงการถูกป้ายสีเป็น 'ชายชุดดำ' มือปาระเบิด...

 

                   ยิ่งกว่านั้น การให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนของ พล.ร.ต.วินัย ทั้งเกี่ยวกับการปกป้องลูกน้อง ปกป้องกองทัพเรือ รวมทั้งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ยังเต็มไปด้วยท่วงทำนองที่แหลมคมบาดลึก ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ จนเรียกความสนใจจากสาธารณชน และเรียกความหวังให้แก่ กปปส.ขึ้นมาชั่วข้ามคืนก็ว่าได้ 

 

                   ผบ.หน่วยซีล เล่าปูมหลังชีวิตให้ฟังว่า เป็นลูกพลทหาร บ้านอยู่คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นลูกครึ่งมอญ มีพี่น้อง 3 คน ตนเป็นคนโต มีน้องสาว 2 คน 

 

                   ทั้งยังเล่าด้วยว่า "ทหาร" เป็นอาชีพในฝันของตน ตนเป็นลูกคนจน ไปสอบเป็นทหารปีแรกก็สอบเข้าไม่ได้ นอนร้องไห้ แต่ร้องไห้ไปก็ทำใจไป และเริ่มนับถอยหลัง 365 วัน แล้วหลังจากวันนั้น ก็ดูหนังสือทุกวันๆ วันละอย่างน้อย 1 วิชา 

 

ตอนนั้นที่บ้านไม่มีสตางค์ แม้กระทั่งกวดวิชา ครูที่สอนหนังสือท่านเห็นว่ามีรายได้น้อย สงสารที่ไม่ได้เรียนกวดวิชา ก็เลยเสียสละเงินให้ 30 บาท ท่านบอกเอาตังค์ครูไปซื้อหนังสือภาษาอังกฤษมาอ่าน ตนใช้ห้องสมุดในการอ่านหนังสือกวดวิชา ยืมหนังสือในห้องสมุดมาอ่านบ้าง

 

                   "ห้องสมุดคือที่กวดวิชาของผม และผมก็สอบได้ในปีที่ 2 ผมเชื่อว่าความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั้น" 

 

                   ส่วนว่า ทำไมเลือกเป็น 'มนุษย์กบ' พล.ร.ต.วินัย เล่าต่อว่า มันเป็นความท้าทายของลูกผู้ชาย คือ เราเห็นพี่ๆ นักเรียนนายร้อยติดร่มติดแรงเยอร์ เราก็อือ ทำไมนักเรียนนายร้อยเขามีเครื่องหมายความสามารถ ทำไมนักเรียนนายเรือไม่มีอะไรเลย พอย้ายมาอยู่ที่โรงเรียนนายเรือ เราก็เริ่มเห็นแล้วว่า กองทัพเรือมีหลักสูตรพิเศษเยอะมาก แต่เขาไม่ได้ให้เรียนตอนเป็นนักเรียน เขาให้เรียนตอนจบแล้ว ก็เลยตั้งใจตั้งแต่เป็นปี 1 เลยว่า เราจะต้องมาเป็นตรงนี้ให้ได้ ผมจบจากที่นี่แล้ว ก็ไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา ปี 2528 (Basic Underwater Demolition SEAL Training รุ่นที่ 131) และ Counter Terrorists Command Group ประเทศออสเตรเลีย ปี 2533 

 

                   พูดถึงเหตุการณ์ที่เป็นข่าวฮือฮา กรณี 3 ทหารหน่วยซีล ถูกจับ ผบ.หน่วยซีลชี้แจงว่า มันเป็นหน้าที่เราโดยตรงเลย งานการสงคราม มันต้องทำตั้งแต่ยามปกติ โดยเฉพาะงานข่าวจะต้องดำเนินการตั้งแต่ปกติ เพราะเมื่อถึงเวลาสงคราม หรือเมื่อถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันจะได้ใช้ได้เลย มันเป็นหน้าที่ของเรา

 

ทั้งยังกล่าวย้ำอย่างน่าสนใจว่า "มันยังไม่ถึงสงครามกลางเมือง แต่มันก็ใกล้เข้ามา ใกล้ถึงจุดที่มันจะมีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ครับ" 

 

                   ส่วนหนึ่งเป็นเพราะประชาชนเดือดร้อนใช่หรือไม่ ทหารจึงต้องออกมา ผบ.หน่วยซีล ขานรับทีนที

 

                   "ใช่ครับ ผมเป็นทหารของชาติ ทหารขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทหารของประชาชนชาวไทย ฉะนั้น ผมนิ่งนอนใจไม่ได้ครับ การบ่อนทำลาย ถามว่าเรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์ มีการบ่อนทำลายมาตลอด คนที่มีหน้าที่ ที่มีอำนาจ ทำไมคุณไม่ทำ ทำไมคุณไม่ทำเรื่องนี้ ทั้งๆ ที่มันเป็นหน้าที่ของคุณ คุณไม่ทำใช่ไหม แต่ทีเรื่องคนอื่นคุณทำเต็มที่ คุณเลือกปฏิบัติไม่ได้แล้ว มันเป็นสถาบันหลักของชาติ ประเทศไทยนั้น ขาดไม่ได้ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ใครจะมาแบ่งแยกไม่ได้"

 

                   ถามว่า วันนี้ประชาชนฝากความหวังไว้ที่ทหารได้หรือไม่ พล.ร.ต.วินัย กล่าวอย่างไม่ต้องคิด "ได้สิครับ เราเป็นทหารของพระราชา และทหารของประชาชน"

 

                   และถามว่า กลัวมั้ยกับผลกระทบที่จะตามมา คำตอบก็คือ "ไม่เป็นไร เพราะผมไม่ได้สนใจในเรื่องฟีดแบ็ก หรือผลกระทบใดๆ อยู่แล้ว ผมไม่ได้สนใจในตรงนั้น ผมสนใจว่า ความถูกต้องคืออะไร ความเป็นกลางไม่มี มีความถูกต้องกับความผิดเท่านั้น แยกแยะกันให้ได้ ไม่มีคำว่า เป็นกลางระหว่างความถูกกับความผิดครับ ธรรมะต้องชนะอธรรม เข้าใจมั้ยครับ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น วันนี้ผมพร้อมที่จะตาย พร้อมที่จะออก พร้อมที่จะเข้าคุกด้วย ไม่มีปัญหาสำหรับผมครับ ผมเป็นคนจริงจังกับชีวิตมานานแล้ว มาถึงจุดนี้ภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต" 

 

                   มาถึงตรงนี้ จึงไม่แปลกที่ พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์ ผบ.หน่วยซีล คนนี้ จะกลายเป็น "ความหวัง" ที่จะปลุกเร้าข้าราชการด้วยกันให้มีสำนึกอย่างที่เขาเป็น และเป็น "วีรบุรุษ" อีกคนหนึ่งของกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ไปแล้ว