
'โรนัลโด'น้ำตารื้นขึ้นรับบัลลงดอร์
'คริสเตียโน โรนัลโด' หลั่งน้ำตาขึ้นรับรางวัล 'ฟีฟ่า บัลลงดอร์' นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปี แถมชูสปิริต 'ปีกหน้าบาก' ฟรองค์ ริเบรี สมควรได้รางวัลนี้เช่นกัน
สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า ประกาศรางวัล "ฟีฟ่า บัลลงดอร์" นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปี 2013 ที่จะได้ครอง "ลูกบอลทองคำ" ในงานกาลาดินเนอร์ กลางดึกวันจันทร์ที่ 13 มกราคม ที่เมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ปรากฏว่า คริสเตียโน โรนัลโด ปีกกัปตันทีมชาติโปรตุเกสของ รีล มาดริด ดับเบิลรองแชมป์ลาลีกา-สแปนิช คิงส์คัพ เป็นผู้ได้รับเลือก
ซึ่งโรนัลโด วัย 28 ปี ได้รับการลงคะแนนเสียงเฉลี่ย 27.99 เปอร์เซ็นต์ สูงที่สุดในรอบ 3 คนสุดท้าย ขณะที่ ลิโอเนล เมสซี เจ้าของรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของฟีฟ่า 4 ปีซ้อน นับจากปี 2009 ก่อนควบรวมกับบัลลงดอร์ ได้รับโหวตเฉลี่ยเป็น 24.72 เปอร์เซ็นต์ และฟรองค์ ริเบรี มิดฟิลด์ตัวรุกของบาเยิร์น มิวนิค ชุด 5 แชมป์เมื่อฤดูกาลแข่งขันก่อน หรือทุกถ้วยที่ลงแข่งขัน (บุนเดสลีกา-เดเอฟเบ โพคาล เยอรมนี, แชมป์สโมสรยุโรป ถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก-ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ และแชมป์สโมสรโลก) ได้รับโหวตมาเป็นคนสุดท้าย ด้วยคะแนนเฉลี่ย 23.36 เปอร์เซ็นต์
ส่งผลให้โรนัลโดที่มาร่วมงานพร้อมกับ อิรินา เชย์ค ภรรยาและลูกชาย ขึ้นไปรับรางวัลระหว่างงานกาลาดินเนอร์ ทั้งน้ำตา แม้จะเคยได้รางวัลนี้ในสมัยที่ยังเป็นของ "ฟรองซ์ ฟุตบอล" นิตยสารฟุตบอลที่ทรงอิทธิพลฉบับหนึ่งในโลกของฝรั่งเศส เมื่อปี 2008 แต่ยังไม่เคยได้รับลูกบอลทองคำหลังจากควบรวมกับฟีฟ่ามาก่อน
“ผมไม่รู้ว่ายุติธรรมหรือไม่ แต่ ริเบรี ก็มีศักยภาพที่จะคว้ารางวัลนี้เช่นเดียวกัน ส่วนเมสซี เขาคือผู้เล่นที่น่ายกย่อง แต่สำหรับผมถือว่ามีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมและต้องการอยู่ที่นี่ (มาดริด) ต่อไป และช่วยโปรตุเกสอย่างเต็มที่ เพื่อคว้าบัลลงดอร์อีกครั้ง และเมื่อผมเห็นแม่ของผมร้องไห้ ก็ทำให้ผมน้ำตารื้นเหมือนกัน ถือเป็นเรื่องที่ตื้นตันมาก สำหรับพวกเรา"
ด้านเมสซี วัย 26 ปี กล่าวถึงโรนัลโด ว่า "เขาเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมและเปรียบเสมือนหัวใจของทีมที่เขาอยู่ ไม่ว่าจะกับสโมสรใดรวมถึงทีมชาติ และสำหรับผมกับเขาไม่ได้มีสิ่งใดกินแหนงแคลงใจกัน จึงเป็นเหตุให้ผมมาร่วมงานในวันนี้ เพื่อมาร่วมยินดีกับเขา"
นอกจากนั้นฟีฟ่ายังประกาศทีมยอดเยี่ยมประจำปี หรือ "ฟีฟ่า ฟิฟโปร เวิลด์ 11" อีกด้วย ดังนี้ ผู้รักษาประตู-มานูเอล นอยเออร์ (บาเยิร์น มิวนิค), กองหลัง-ดาเนียล อัลเวส (บาร์เซโลนา) ฟิลิปป์ ลาห์ม (บาเยิร์น มิวนิค), เซร์คิโอ รามอส (รีล มาดริด), ติอาโก ซิลวา (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง), กองกลาง-อันเดรส อิเนสตา (บาร์เซโลนา), ฟรองค์ ริเบรี (บาเยิร์น มิวนิค), ซาบี เอร์นันเดซ (บาร์เซโลนา), กองหน้า-คริสเตียโน โรนัลโด (รีล มาดริด), ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง), ลิโอเนล เมสซี (บาร์เซโลนา)
สำหรับโค้ชยอดเยี่ยมแห่งปี ได้แก่ จุปป์ ไฮย์เกส เทรนเนอร์บาเยิร์น มิวนิค ชุด 3 แชมป์ (บุนเดสลีกา-เดเอฟเบ โพคาล-ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก)
รางวัลฟีฟ่า บัลลงดอร์ ใช้การลงคะแนนเสียงจากโค้ชและกัปตันทีมชาติของ 184 ชาติสมาชิกฟีฟ่า แล้วคิดเฉลี่ยเป็นเปอร์เซ็นต์อีกครั้ง
------------------------
(หมายเหตุ : ที่มาภาพ : EPA , AFP)