'สุเทพ'แฉแผนอุ้ม-เปิดคลิปแดงเผาเมือง

             เมื่อเวลา 18.00น.วันที่ 10 ม.ค.2557 กลุ่มประชาชนในนาม “พอกันที หยุดการชุมนุมที่สร้างเงื่อนไขไปสู่ความรุนแรง” จัดกิจกรรม “จุดเทียนเขียนสันติภาพ”ครั้งที่ 3 ในชื่อ “พอกันที หยุดความรุนแรง เปิดใจ ไปเลือกตั้ง” ที่บริเวณลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรม กรุงเทพมหานครจนถึงเวลา 19.30 น. แยกย้ายกันไป

             ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าสำหรับกิจกรรมดังกล่าวมี น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ บุตรสาวนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ หลานสาวน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายเอก อัตถากร ชายผู้เป่านกหวีดใส่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 7 ม.ค. โดยนายเอก ได้รับความสนใจขอถ่ายภาพจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมจุดเทียนเป็นอย่างมาก

'สุเทพ'แฉแผนอุ้ม-เปิดคลิปแดงเผาเมือง
 

              เวลา 20.30 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ปราศรัยบนเวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยว่า การเดินเชิญชวนคนฝั่งธนฯ รอบสอง เมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ยังนับเงินไม่เสร็จ เพิ่งนับได้ 80% เป็นเงิน 3 ล้านบาท
 
              นายสุเทพกล่าวว่า ตอนนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รับผิดชอบใน ศอ.รส.ได้ยินว่ามีการวางแผนจะจับตนให้ได้คืนนี้ หรือคืนพรุ่งนี้เป็นอย่างช้า ในแผนคือส่งตำรวจนอกเครื่องแบบ แต่งตัวให้คล้ายเจ้าหน้าที่ รปภ.ของเรา ถ้ามีเหตุอะไรขึ้น ให้ตะครุบตัวหรืออุ้มตนทันที แล้วให้มีตำรวจหญิงแฝงมานั่งหน้าเวที ผสมโรงสร้างความวุ่นวาย ขอฝากบอกตำรวจว่า ถ้าท่านไม่แต่งเครื่องแบบมา จะมาจับตนไม่ได้ เพราะเราไม่รู้ตำรวจจริงหรือปลอม ไม่ยอมให้จับเด็ดขาด แล้วถ้าโดนพี่น้องตุ้บตั้บเอามั่งจะมาโกรธกันไม่ได้ นอกจากนี้ยิ่งลักษณ์ยังบอกว่าถ้าเกิดเหตุรุนแรงขึ้น ตนต้องรับผิดชอบ ก็ขอบอกว่าถ้าเหตุเกิดจากเรา ตนก็พร้อมจะรับผิดชอบแต่เราไม่ใช่พวกนิยมความรุนแรงเพราะได้ประกาศชัดเจนว่าการต่อสู้ครั้งนี้ สงบ สันติ ปราศจากอาวุธ ไม่ใช้ความรุนแรง เรายืนยันที่จะสู้ในแนวทางนี้ต่อไปจนถึงวันที่ได้ชัยชนะ ฉะนั้นบอกกับยิ่งลักษณ์ ไม่ต้องมาถามความรับผิดชอบจากเรา เรารับผิดชอบตัวเรา ประเทศไทย เพราะเราเป็นคนไทย ภักดีต่อแผ่นดิน ไม่ต้องการให้แผ่นดินนี้เสียหาย แต่คนที่ทำร้ายแผ่นดิน คือ ระบอบทักษิณและขี้ข้าระบอบทักษิณ
 
              จากนั้นนายสุเทพได้เปิดคลิปโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่หลอกให้ประชาชนสู้เพื่อตัวเอง และมีปัญหากรณีหมิ่นสถาบัน ตลอดจนคลิปเหตุการณ์การชุมนุมของ นปช.เมื่อปี 2552-2553 ที่มีการเผาบ้านเผาเมือง เพื่อชี้ให้เห็นว่าคนเหล่านี้ได้ทำร้ายประเทศไว้อย่างไร เพื่อให้คนกรุงเทพฯ ย้อนระลึกถึงข้อเท็จจริงว่า รัฐบาลต่างหากที่นิยมความรุนแรงและจะสร้างความรุนแรงให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง นอกจากนี้นายสุเทพยังปราศรัยโดยชี้ให้เห็นถึงความเลวร้ายของระบอบทักษิณ ที่มีการแต่งตั้งคนของตัวเองเข้ามาทำหน้าที่ในองค์กรต่างๆ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง รวมถึงการแทรกแซงองค์กรอิสระ

ดีเอสไอออกหมายเรียก 20 กปปส.แถว3
 
             
              เวลา 19.00 น นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนมีมติให้แจ้งข้อกล่าวหาแกนนำ กปปส. เพิ่มเติม (แถวสาม) ในข้อหาร่วมกันกบฏฯ ตามมาตรา 113, มาตรา 114  ยุยงส่งเสริมให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมาย ตามมาตรา 116 และร่วมกันก่อเหตุวุ่นวายในบ้านเมือง ตามมาตรา 215 จำนวนทั้งสิ้น 20 คน ดังต่อไปนี้ 1.นายสมศักดิ์ โกศัยสุข 2.หลวงปู่พุทธะอิสระ 3.นายสาวิทย์ แก้วหวาน 4.นายสาธิต เซกัล 5.นายกิตติชัย ใสสะอาด 6.นายคมสัน ทองศิริ 7.นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม 8.นายพิเชฏฐ พัฒนโชติ 9.นายแม่นมั่น กะการดี 10.นายประกอบกิจ อินทร์ทอง 11.นายนัสเซอร์ ยีหมะ 12.นายพานสุวรรณ ณ แก้ว 13.นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด 14.นายสำราญ รอดเพชร 15.นางนาถยา แดงบุหงา 16.น.ส.รังสิมา รอดรัศมี 17.นางทยา ทีปสุวรรณ 18.พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี 19.พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ และ 20.นายถวิล เปลี่ยนศรี ทั้งนี้ ดีเอสไอ จะได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาทั้ง 20 คน ในวันที่ 14 มกราคม โดยจะกำหนดให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 24 มกราคมนี้
 
 

คปท.รวบตร.-ทหารเฝ้าทำเนียบฯรุมทำร้ายการ์ด


             เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 10 ม.ค. นายนัสเซอร์ ยีหมะ หัวหน้าการ์ด คปท. พร้อมด้วยนายอภิมะ สิทธิ์ประเสริฐ ทนายความ คปท. ได้นำตัว ด.ต.รัศมี คล่องดี สังกัดผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองมุกดาหาร และ จ.ส.อ.หนูแหวน คึมยราช ทหารสังกัดกองพันที่ 4 กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ (ร.1 พัน4) กองทัพบก และต่อมาทางตำรวจได้นำตัวด.ต.สำริด ประสงค์สุข ผบ.หมู่ป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองมุกดาหารมาที่สน.นางเลิ้ง โดยทั้งสามคนก่อเหตุทำร้ายร่างกายนายสมศักดิ์ แจ่มจำริด อายุ 47 ปีการ์ดอาสาของ คปท.ที่บริเวณสะพานอรทัย แขวงสี่แยกมหานาค เขตดุสิต กรุงเทพฯ จนสลบต้องนำส่งโรงพยาบาลรามาธิบดี เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.00 น.ที่ผ่านมา โดยมีพ.ต.อ.ณพล กลัดเข็มเพชร ผกก.สน.นางเลิ้ง พ.ต.ท.ชนะสงคราม แก้วเงิน รองผกก.สส. พ.ต.ท.อนุรักษ์ พิมพา สว.สส.และเจ้าหน้าที่รับตัวมาสอบปากคำทันที
    
             จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าทั้งด.ต.รัศมี และด.ต.สำริดปฏิบัติหน้าที่ภายในทำเนียบรัฐบาล แต่วันนี้ไม่ได้เข้าเวร จึงนัดจ.ส.อ.หนูแหวน ซึ่งเป็นเพื่อนรู้จักกันเพื่อไปดื่มสุราข้างนอก ก่อนเกิดเหตุทั้งสามได้กลับมาที่ทำเนียบรัฐบาล และมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกับนายสมศักดิ์ซึ่งอยู่ตรงสะพานอรทัย ระหว่างนั้นทางการ์ดคปท.เห็นจึงเข้ามาช่วยและได้คุมตัวด.ต.รัศมีกับจ.ส.อ.หนูแหวน ส่วนด.ต.สำริดวิ่งหลบหนีเข้าไปทำเนียบฯ หลังจากนั้นทางการ์ดได้สอบปากคำและคุมตัวมาที่สน.นางเลิ้ง ส่วนด.ต.สำริด ทางผู้บังคับบัญชาได้พาตัวมาทีหลัง
    
             พ.ต.อ.ณพล กล่าวว่า ตอนนี้จะต้องสอบปากคำทั้งสองฝ่ายให้ชัดเจน เพราะทางผู้บาดเจ็บยังไม่ได้สอบปากคำ ส่วนทั้งด.ต.รัศมี ด.ต.สำริดและจ.ส.อ.หนูแหวน ทั้งสามยังอยู่ในอาการมึนเมา ยังไม่สามารถให้การเป็นประโยชน์ได้ ตอนนี้หากสอบปากคำทั้งสองฝ่ายจนได้ข้อเท็จจริงแล้วก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป