
'ผบ.พล.1รอ.'ปัดเคลื่อนพลเตรียมปฏิวัติ
'ผบ.พล.1 รอ.' ปัดทหารเคลื่อนพล-ยุทโธปกรณ์เตรียมปฏิวัติ 'ทบ.'แจง '9 ม.ค.'เคลื่อนรถถังโชว์งาน'วันเด็ก' ด้าน'รัฐบาล'ยังเจรจาม็อบขอจัดงานวันเด็กที่ทำเนียบไม่ได้
6 ม.ค.56 พล.ต.วราห์ บุญญะสิทธิ์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1 รอ.) กล่าวถึงกรณีที่จะมีการเคลื่อนยุทโธปกรณ์ ระหว่างวันที่ 6-9 ม.ค.นี้ว่า ขอยืนยันว่าการเคลื่อนรถถัง รถเกราะ และยุทโธปกรณ์ทางทหาร พร้อมกับกำลังทหาร จากกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ. ) จ.ปราจีนบุรี กรมทหารราบที่ 31รักษาพระองค์ (ร.31รอ.) จ.ลพบุรี กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21รอ.) จ.ชลบุรี และศูนย์การทหารม้า จ.สระบุรี ระหว่างวันที่ 6-9 ม.ค.เพื่อนำมาซ้อมสวนสนาม เนื่องในวันกองทัพไทยวันที่ 18 ม.ค.ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11รอ.) บางเขน กทม.นั้น ปีนี้เป็นปีแรกที่จะมีการสวนสนามยานยนต์ โดยได้มีการเตรียมแผนงานมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 56 ซึ่งเป็นดำริของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่ต้องการให้กองทัพไทยได้แสดงแสนยานุภาพที่ยิ่งใหญ่ในการโชว์อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยของไทย และความเข้มแข็งแข็งแกร่งของกำลังพลให้กับทางผู้ช่วยทูตทหารประเทศต่างๆ ได้ชม และถือว่าเป็นการเทิดเกียรติให้กับ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) และพล.อ.ประยุทธ์ ที่จะเกษียณอายุราชการในเดือน ก.ย.57 นี้ จึงไม่ใช่การเตรียมความพร้อมเพื่อก่อรัฐประหารอย่างที่มีข่าวลือแต่อย่างใด ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนอย่าได้หวาดระแวง
“การสวนสนามเนื่องในวันกองทัพไทยทุกปีที่ผ่านมามีเพียงการสวนสนามเดินเท้า และวิ่งสวนสนาม แต่ในปีนี้ถือว่าเป็นปีแรกที่มีการจัดสวนสนามยานยนต์ และมีทหารพรานหญิง จากพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมสวนสนามในครั้งนี้ด้วย โดยการซ้อมสวนสนามจะเริ่มขึ้นในช่วงเช้าวันที่ 6 ม.ค.ที่ลานเอนกประสงค์ ของร.11 รอ.ซึ่งมีกำลังพลของพล.1 รอ. จำนวน 8 กองพันทำการซ้อมเป็นหน่วยแรก และจะซ้อมทุกวันไปจนถึงวันซ้อมใหญ่ ในวันที่ 10 ม.ค.รวมทั้งหมด 20 กองพัน โดยเปิดกว้างให้สื่อมวลชนเข้าไปติดตามดูการซ้อมสวนสนามได้ทุกวัน สำหรับการเคลื่อนรถยานเกราะของทางพล.ร.2 รอ. และกำลังพลจะเดินทางมาถึงร.11 รอ. เป็นหน่วยแรก เวลาประมาณ 21.00 น. เป็นต้นไป ส่วนหน่วยอื่น ๆ จะทยอยเดินทางกันเข้ามา” พล.ต.วราห์ กล่าว
ทบ.แจง 9 ม.ค.เคลื่อนรถถังโชว์งานวันเด็ก
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวชี้แจงถึงการเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์เข้ากทม.เพื่อเตรียมจัดงานวันเด็กว่า ในวันที่ 9 ม.ค.นี้ กองทัพบกจะทำการเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์จำนวนมาก จากหน่วยทหารที่มีที่ตั้งใน จ.ราชบุรี, ปราจีนบุรี, ลพบุรี, และในบางเขตของกทม.เพื่อเตรียมจัดงานวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2557 โดยจะเคลื่อนย้ายไปจัดแสดงใน 2 พื้นที่ ได้แก่ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) เขตสนามเป้า และกองบัญชาการกองทัพไทย ถ.แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กทม. ซึ่งในปีนี้ทางกองทัพบกได้ปรับเปลี่ยนสถานที่การจัดงานจากปกติที่ใช้พื้นที่กองบัญชาการกองทัพบก เนื่องจากความไม่สะดวกในเรื่องสถานที่
สำหรับรายละเอียดการเคลื่อนย้ายในเวลา 11.00-12.00 น.เคลื่อนย้ายเฮลิคอปเตอร์จาก จ.ลพบุรี มายังกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) เวลา 19.00-22.00 น.เคลื่อนย้ายยานเกราะล้อยาง, รถถัง, ปืนใหญ่, รถลาดตระเวน (ฮัมวี่), รถกู้ภัย, รถสายพานอเนกประสงค์, รถเกราะล้อยาง REVA จากหน่วยทหารในพื้นที่ จ.ราชบุรี, ลพบุรี, ปราจีนบุรี และเขตดุสิต, เขตพญาไท, เขตหลักสี่ กทม. ไปยังสถานที่จัดงานวันเด็กทั้งสองแห่ง โดยจะใช้เส้นทางการเคลื่อนย้ายผ่านถนนสำคัญ ได้แก่ ถ.เพชรเกษม, ถ.ปิ่นเกล้านครชัยศรี, ถ.วิภาวดีรังสิต, ถ.ทหาร, ถ.พหลโยธิน, ถ.ประดิพัทธ์, ถ.แจ้งวัฒนะ เป็นต้น โดยกองทัพบกจะเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์กลับที่ตั้งหน่วยทหาร หลังจากจบกิจกรรมวันเด็กแล้วในวันที่ 11 ม.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป ตามเส้นทางเดิม จึงขอแจ้งให้ประชาชนได้รับทราบ และขออภัยในความไม่สะดวกทั้งปวงที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์ในครั้งนี้ด้วย
ทบ.ย้ำเคลื่อนยุทโธปกรณ์-กำลังพลเตรียมวันเด็ก-สวนสนามวันกองทัพไทย
เมื่อเวลา 13.00 น. พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่มีผู้กล่าวอ้างเรื่องการขนย้ายยุทโธปกรณ์ของกองทัพบกว่า เป็นกระทำที่มีนัยยะว่า กองทัพบกขอยืนยันว่า การเคลื่อนย้ายกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในช่วงนี้ เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมวันเด็กและร่วมพิธีสวนสนามเนื่องในวันกองทัพไทย ทั้งสองงานถือเป็นแผนปฏิทินปกติตามวงรอบประจำของทุกปีในช่วงต้น ม.ค. อีกทั้ง มีการกำหนดแผนล่วงหน้าเป็นระยะเวลากว่า 1 ปี ไม่ใช่เป็นการกำหนดแบบเร่งด่วน วันกองทัพไทยถือเป็นวันสำคัญที่เราต้องการแสดงแสนยานุภาพด้านกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพื่อแสดงออกให้สาธารณะชนภายในและภายนอกประเทศได้เห็น ลักษณะการดำเนินกิจกรรมเป็นไปอย่างเปิดเผยไม่ได้ปิดบัง ปกปิดหรือซ่อนเร้น
สำหรับยุทโธปกรณ์เข้าร่วมงานมีลักษณะที่มีความทันสมัยและมีเทคโนโลยีชั้นสูง เป็นการสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชนว่ายุทโธปกรณ์เหล่านี้สามารถปฏิบัติภารกิจป้องกันประเทศได้อย่างอุ่นใจ เน้นหนักในเรื่องยุทโธปกรณ์ป้องกันประเทศเท่านั้น ส่วนการสวนสนามของกำลังพลกองทัพบกจะจัดขึ้นปีละครั้ง โดยร่วมกับหน่วยทหารในกทม.และปริมณฑล
“ยืนยันว่า การดำเนินการของกองทัพบกทั้งสองส่วนไม่ได้เกี่ยวเนื่องกับเรื่องทางการเมืองอย่างที่บางฝ่ายได้ให้ข้อมูลไว้ แต่อย่างใด ขณะนี้ สังคมมีความอ่อนไหวต่อการรับรู้ข่าวสารข้อมูล อยากให้ทุกฝ่ายนำเสนอข้อมูลอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งน่าจะเหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนี้ ส่วนการให้ข้อมูลของฝ่ายใดควรจะหลีกเลี่ยงไม่ให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากกว่า กองทัพบกเข้าใจดีว่า ความเห็นของคนมีความหลากหลายและพร้อมชี้แจงข้อมูล ข้อเท็จจริงให้ได้รับทราบ ที่ผ่านมากองทัพบกได้พยายามชี้แจงมาตลอด แต่มีบางฝ่ายอาจจะนำหยิบไปคาดเดาต่าง ๆ นานา วันนี้ก็มาชี้แจงอีก สามารถชี้แจงได้ทุกวัน โดยไม่ได้มุ่งหวังจะชี้แจงไปถึงผู้ใดผู้หนึ่ง แต่ต้องการให้สังคมในภาพรวมได้รับทราบเจตนารมณ์ที่แท้จริงของกองทัพบก” รองโฆษกทบ. กล่าว
เมื่อถามว่า กำลังพลที่นำมาออกมาร่วมทั้งสองกิจกรรมมีจำนวนเพียงพอที่จะทำการปฏิวัติรัฐประหารตามที่มีการกล่าวอ้างได้หรือไม่ พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ในส่วนของวันเด็ก กองทัพต้องการนำยุทโธปกรณ์เข้ามาให้เด็กได้ศึกษาเรื่องเทคโนโลยีและองค์ประกอบ อย่าไปแปลเจตนาของกองทัพบกไปในเชิงลบ ยืนยันว่า ลักษณะการเคลื่อนย้ายเข้ามานั้น จะสามารถมองออกและสัมผัสได้ด้วยสายตาว่า ไม่ได้มีนัยยะอื่นๆ ที่จะทำนอกเหนือจากนั้นได้ ส่วนการเคลื่อนย้ายกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการร่วมสวนสนามเนื่องในวันกองทัพไทยนั้น กองทัพบกต้องการให้นำยุทโธปกรณ์ของสามเหล่าหลักคือ ทหารม้า ทหารราบ และทหารปืนมานำแสดง เช่น จ.ปราจีนบุรี มีหน่วยทหารราบที่มียุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย อาทิ รถสายพานลำเลียงพลบีทีอาร์ จ.สระบุรี หน่วยทหารม้าที่มีรถถังที่ทันสมัย เช่น รถถังเอ็ม 60 เอ 1 และรถถังเอ็ม 60 เอ 3 และ จ.ลพบุรี เป็นที่ตั้งของทหารปืนใหญ่ ซึ่งได้ส่งปืนใหญ่อัตราจรเข้าร่วมการแสดง ซึ่งเป็นอาวุธที่มีเทคโนโลยีสูงใช้ป้องกันประเทศอย่างเดียว ด้วยเหตุผลแล้วจึงไม่เป็นตามที่มีการกล่าวอ้าง โดยกำลังพลและยุทโธปกรณ์ที่มานั้น ไม่ได้มาทั้งหน่วยแต่มาในระดับกองร้อยสวนสนามไม่ได้มีจำนวนที่มากนัก
เมื่อถามว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดงและผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อ้างว่า ปีนี้มีการนำยุทโธปกรณ์และกำลังพลเข้ามาร่วมสวนสนามมากจนผิดปกติ พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ตอนนี้กิจกรรมการสวนสนามของกองทัพมีน้อยลง ซึ่งในต่างประเทศก็มีการจัดสวนสนามทั้งกำลังพลและยานยนต์เป็นเรื่องปกติ ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่จัดให้มียานยนต์เข้ามาร่วมสวนสนามด้วยยืนยันว่าแผนนี้มีล่วงหน้ามาเป็นปี
"รัฐบาล"ยังเจรจา"ม็อบ"ขอจัดงานวันเด็กที่ทำเนียบไม่ได้
พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการจัดงานวันเด็กแห่งชาติที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 11 ม.ค.นี้ ว่า ล่าสุด จากการที่ได้พูดคุยกับผู้ชุมนุมแนวโน้มจัดงานเป็นไปได้ยาก แต่ก็จะต้องรอการพูดคุยอีกครั้ง จนถึงวินาทีสุดท้ายคาดว่า จะรู้ผลไม่เกินวันที่ 9 ม.ค.นี้ ซึ่งถ้าได้จัดงานเชื่อว่า สามารถเตรียมงานได้ทัน เนื่องจากมีรูปแบบเดิมอยู่แล้วและใช้เวลาเพียงแค่ 24 ชั่วโมงในการจัดงานเท่านั้น
"เราได้ไปพูดคุยแล้ว แต่ทางกลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่ยอมเปิดและเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ ซึ่งความปลอดภัยในการจัดงานวันเด็กที่ทำเนียบขณะนี้ ยังถือว่าไม่ปลอดภัย เพราะถ้าเราจัดแล้วเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น เด็กบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจะไม่คุ้ม ความปลอดภัยของเด็กต้องมาเป็นอันดับแรก" พล.ต.ต.ธวัช กล่าว
เมื่อถามว่า ทำไมไม่ย้ายสถานที่จัดงานวันเด็กไปยังพื้นที่อื่นแทนทำเนียบรัฐบาล พล.ต.ต.ธวัช กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของเด็กอยากเข้าทำเนียบ ถ่ายรูปกับทำเนียบและเยี่ยมชมห้องทำงานและนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ถ้าไปจัดในสถานที่อื่น เด็กๆ คงไม่อยากไป ซึ่งถ้าไปจัดที่ศูนย์ราชการ เด็กๆ ก็ไม่รู้จะไปถ่ายรูปและไปดูอะไร ทั้งนี้ ยังไม่ได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม รับทราบ เพราะยังอยู่ในขั้นตอนของการพูดคุยเจรจาอยู่ อย่างไรก็ตาม การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในวันที่ 7 ม.ค.ยังคงมีการประชุมแต่ยังไม่ได้กำหนดสถานที่