
พายุหิมะถล่มสหรัฐฯ-แคนาดา-อังกฤษเผชิญน้ำท่วม
04 ม.ค. 2557
พายุฤดูหนาวพัดถล่มทวีปอเมริกาเหนือ ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อประชาชนในสหรัฐฯและแคนาดา โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 11 ราย ขณะที่อังกฤษต้องเผชิญน้ำท่วมอย่างหนัก
พายุฤดูหนาวพัดเข้าสู่พื้นที่ทางตอนเหนือของสหรัฐอเมริกา และส่วนหนึ่งแคนาดา ทำให้เกิดหิมะตกหนักตลอดทั้งคืน โดยบางพื้นที่ของสหรัฐ สามารถวัดความสูงของหิมะได้ถึง 2 ฟุต ล่าสุด มีรายงานผู้เสียชีวิตจากพายุหิมะแล้วอย่างน้อย 11 ราย และยังส่งผลกระทบต่อเที่ยวบิน ที่ต้องประกาศยกเลิกกว่า 4 พันเที่ยว นับตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา
อุณหภูมิในเมืองโตรอนโตของแคนาดาลดต่ำลงถึง -29 องศาเซลเซียส ขณะที่ในเมืองควิเบค ลดต่ำถึง -38 องศาเซลเซียส ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี
เจ้าหน้าที่ต้องประกาศให้ประชาชนอาศัยอยู่ภายในอาคารบ้านเรือน ทั้งเพื่อความปลอดภัยของประชาชนเอง และเพื่อเคลียร์พื้นที่บนนท้องถนน เพื่อกำจัดหิมะด้วย
รถไฟโดยสารในมหานครนิวยอร์ค ต้องหยุดให้บริการลงชั่วคราว เช่นเดียวกับถนนสายหลักบางแห่ง ขณะที่ในรัฐข้างเคียงอย่างคอนเนคติคัต แมตซาชูเสตตส์ และนิวเจอร์ซี่ ก็ประกาศให้เจ้าหน้าที่รัฐที่ไม่มีความจำเป็นใดๆ ให้หยุดงานอยู่ที่้บ้านได้
ขณะที่เมื่อวานนี้ ประเทศอังกฤษ ต้องเผชิญเหตุน้ำท่วมฉับพลัน หลังพายุหิมะพัดถล่ม จนทำให้พนังแม่น้ำหลายแห่งพังลง โดยเฉพาะพนังกั้นน้ำของแม่น้ำซีเวิร์น ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดของสหราชอาณาจักร ทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน
โดยลมที่พัดแรง และคลื่นสูง ได้พัดเข้าสู่พื้นที่ชายฝั่งตะวันตกของประเทศ ทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำประสบภาวะน้ำท่วมอย่างหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่เวลส์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ และไอร์แลนด์เหนือ ที่นับเป็นพื้นที่กระทบหนักที่สุด
หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมของอังกฤษ ประกาศเตือน 14 จุดที่ประสบภาวะน้ำท่วมอย่างรุนแรง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สิน พร้อมกันนี้ยังมีอีกกว่า 400 จุดที่ประกาศเตือนภัย แต่ยังไม่รุนแรงนัก