ข่าว

ทัพไทยนำห่าง58ทองจ่าฝูงซีเกมส์

ทัพไทยนำห่าง58ทองจ่าฝูงซีเกมส์

16 ธ.ค. 2556

ทัพไทยเก็บเพิ่มอีก 12 ทองรวม 58 เหรียญ นำจ่าฝูงซีเกมส์ต่อ กรีฑามาแรงสอย 5 ทอง วิ่งผลัด 4x100 เมตร กวาดแชมป์ทั้งชายหญิง ขณะที่แข้งไทยเจาะไม่เข้าเสมอกัมพูชา0-0


              การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่ประเทศพม่า เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม เป็นการชิงชัยวันที่ 6 ปรากฏว่า ทัพนักกีฬาไทยเก็บเพิ่มได้อีก 12 เหรียญทอง มีเหรียญรวมทั้งสิ้นที่ 58 ทอง 45 เงิน 48 ทองแดง ยังคงนำเป็นจ่าฝูงของตารางต่อไป ขณะที่ 2 เวียดนามได้ 41 ทอง 36 เงิน 41 ทองแดง พม่า  39 ทอง โดยมีผลการแข่งขันดังนี้


4x100เหมา-กรีฑาโกยอีก5ทอง

              กรีฑาวันที่สอง ชิง 7 ทอง ไฮไลท์อยู่ที่วิ่งผลัด 4x100 ม.ชายและหญิง โดย 4x100 ม. หญิง "แชมป์เก่า" ไทย ที่มี ภัสสร จักษุนิลกร, ณีรนุช กล่อมดี, ทัศพร วรรณกิจ และ นงนุช แสนราช ซึ่งสาวไทยนำแบบม้วนเดียวจบ เข้าเส้นชัยที่ 1 ด้วยเวลา 44.42 วินาที คว้าแชมป์มาครองเป็นสมัยที่ 16 ติดต่อกัน และรวมเป็นแชมป์สมัยที่ 18

              ด้าน 4x100 ม.ชาย ทีมไทยที่ไม่ได้เหรียญรางวัลจากครั้งที่แล้วแก้ตัวได้สำเร็จ รัตนพล โสวัน, อภิสิทธิ์ พรมแก้ว, จิรพงศ์ มีนาพระ และ ศุภชัย ฉิมดี วิ่งเข้าที่ 1 เวลา 39.75 วินาที เฉือน มาเลเซีย ที่เข้าอันดับ 2 เพียง 0.04 วินาที ทำสถิติแชมป์สมัยที่ 22

              หลังการแข่งขัน ทีมผลัดสาวไทย เปิดใจว่า รู้สึกกดดันในการที่จะมาป้องกันแชมป์ แต่เมื่อทำสำเร็จแล้วต้องถือว่าคลายความกดดันไปเยอะ ขณะที่ นงนุช กล่าวว่า นี่คือซีเกมส์ครั้งสุดท้าย และจะเลิกเล่นหลังจบเอเชี่ยนเกมส์ที่อินชอนในปีหน้า

              ส่วน 4 ลมกรดหนุ่มไทยกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ครั้งที่แล้วเราพลาดทำให้เก็บกดมา 2 ปี แม้วันนี้สถิติเวลาจะไม่ดีแต่ก็คว้าเหรียญทองได้สำเร็จ จากนี้จะกลับไปเตรียมความพร้อมสำหรับเอเชี่ยนเกมส์ต่อไป

              นอกจากนี้ ขว้างค้อนหญิง ปานวาศ กิมสร้าง ก็คว้าเหรียญทองแรกในซีเกมส์ให้ตัวเองได้สำเร็จ ด้วยสถิติ 54.96 เมตร ส่วน มิ่งกมล คุ้มผล ได้เหรียญทองแดง สถิติ 51.83 เมตร ส่วนกระโดดค้ำชาย กรีฑา สินธวาชีวะ กระโดดได้ 5.15 ม. ได้เหรียญทอง ขณะที่ สมพงษ์ โสมบ้านกวย กระโดดได้ 5 ม. ซิวเหรียญทองแดง ขณะที่ สัตตกรีฑาหญิง วาสนา วินาโท คว้าเหรียญทองทำได้ 5,556 คะแนน ส่วน สุนิสา โคตรสีเมือง ได้เหรีญทองแดง 5,152 คะแนน

              สรุปกรีฑาแข่งขัน 2 วัน ไทยคว้ามาแล้ว 8 ทอง 2 เงิน และ 4 ทองแดง


หวายสาวผงาดแชมป์สมัย7

              เซปักตะกร้อทีมเดี่ยวหญิง พบกันหมด นัดสุดท้าย เพื่อชี้ชะตาทีมคว้าแชมป์ โดยทีมนักหวดลูกพลาสติกสาวไทย ซึ่งชนะมาแล้ว 3 นัดรวด ส่ง วันวิสา จันทร์แก่น ลงทำหน้าที่เสิร์ฟ, ศศิวิมล จันทสิทธิ์ เป็นตัวฟาด และ พยอม ศรีหงษา คอยชง เล่นส่งท้ายกับทีมลาว ปรากฏว่า สาวไทยโชว์ฟอร์มการเล่นได้เฉียบขาด เอาชนะไปได้สองเซตรวด 21-16, 21-14 ทำให้ทีมหวายสาวไทย ซึ่งนอกจาก วันวิสา, ศศิวิมล และพยอม แล้ว ยังมี สุนทรี รูปสูง กับ แก้วใจ พุ่มสว่างแก้ว ร่วมทีมเดี่ยวด้วย ได้เหรียญทองมาครอง ซึ่งนับเป็นการคว้าแชมป์สมัยที่ 7


ทีมหนุ่มฟาดทองสมัยที่12

              จากนั้นเป็นการแข่งขันเซปักตะกร้อ ทีมเดี่ยวชาย ทีมหวายไทยชิงชนะเลิศกับคู่ปรับตลอดกาล "เสือเหลือง" มาเลเซีย โดยไทยส่ง ศิริวัฒน์ สาขา, พรชัย เค้าแก้ว และภัทรพงศ์ ยุพดี ลงเล่น โดยเซตแรก ผลัดกันนำผลัดกันตามเพียงแต้มเดียว กลางเซต ไทยขึ้นนำ 11-9 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นำมากกว่า 1 แต้ม หลังจากนั้นศิริวัฒน์พยายามเสิร์ฟจี้เก็บแต้ม พรชัยขึ้นฟาดเต็มหลังเท้า ไทยนำ 15-11 มาเลเซียไล่มา 14-15 และขึ้นฟาดตีเสมอ 15-15 ไทยกลับมาเล่นได้ดีอีกครั้ง พรชัยลอยตัวฟาดสุดสวย 2 ลูกซ้อน ไทยทิ้งห่าง 19-15 และชนะไปก่อนในเซตแรก 21-16

              เซตสอง สถานการณ์ของทีมไทยยังดีต่อเนื่อง ภัทรพงศ์โหม่งชงให้พรชัยขึ้นฟาดหลังเท้าไทยนำ 6-2 ศิริวัฒน์เสิร์ฟพลิกเนตหมดจด ไทยนำ 7-2 พรชัยขึ้นทำแต้มครั้งไทยนำ 9-3 เกมรับมาเลเซียโดนเล่นงานหนัก ทำให้ไทยเล่นงานและเอาชนะไป 21-8 ส่งผลให้ไทยชนะ 2-0 เซต 21-16, 21-8 คว้าเหรียญทอง และนับเป็นแชมป์สมัยที่ 12

              จากผลการแข่งขันล่าสุด ทำให้ทีมตะกร้อไทยกวาด 5 เหรียญทอง จาก 6 ประเภทที่ส่งแข่งขัน ซึ่งเหลือลุ้นจากตะกร้อคู่ทีมชุดหญิง ที่ยังไม่เริ่มแข่งขัน อย่างไรก็ตาม สมาคมตะกร้อได้ตั้งเป้าไว้ 4 เหรียญทอง ซึ่งตอนนี้ทำผลงานทะลุเป้าเรียบร้อยแล้ว


จอมพลังคว้าส่งท้าย2ทอง

              การแข่งขันที่เมืองย่างกุ้ง ยกน้ำหนัก วันสุดท้าย ชิง 2 ทอง ไทยลงแข่ง 2 คนคือ "บอม" ศรัท สุ่มประดิษฐ์ รุ่น 94 กก.ชาย และ บุณณธีร์ กล้ากสิกิจ รุ่น 69 กก.หญิง โดยศรัทแข่งขันก่อน ปรากฏว่า ยกท่าสแนทช์ผ่านฉลุย จบที่ 158 กก. ส่วนท่าคลีนแอนด์เจิร์ก จบที่ 194 กก. ซึ่งทำลายสถิติซีเกมส์ที่ สุทธิพล วัฒนกสิกรรม ทำไว้ 193 กก. ส่งผลให้น้ำหนักรวมอยู่ท่ 352 กก.ได้เหรียญทอง ส่วนเหรียญเงิน หัว ตราน วัน (เวียดนาม) 345 กก. และเหรียญเงิน โมฮาหมัด ฟาอิซ มูซา (มาเลเซีย) 300 กก.

              ด้าน "เป้" บุณณธีร์ ลงแข่งขัน ซึ่งท่าสแนทช์ครั้งแรก 95 กก. ไม่ผ่าน ก่อนจะมาแก้ตัวครั้งที่ 2 ที่น้ำหนักเดิม ทำสำเร็จ และครั้งที่ 3 น้ำหนัก 100 กก. ผ่านฉลุย จากนั้นท่าคลีนแอนด์เจิร์ก เรียกน้ำหนักที่ 113 กก., 121 กก. และ 125 กก. ปรากฏว่ายกผ่านทั้ง 3 ครั้ง ทำให้มีสถิติรวม 225 กก. คว้าเหรียญทอง ส่วนเหรียญเงิน เล เล วิน (พม่า) 206 กก. และเหรียญทองแดง อับดุล ฮาลิม นอร์ คาซิดา (มาเลเซีย) 188 กก.


"เสธ.ยอด"ปลื้ม6ทองเกินเป้า

              "เสธ.ยอด" พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกสมาคมยกน้ำหนัก กล่าวว่า ก่อนหน้า ตั้งเป้าไว้ที่ 4 ทอง แต่ปรากฏว่าได้มา 6 ทอง ส่งแข่งขัน 9 คน ได้เหรียญทุกคน นับว่าประสบความสำเร็จ ส่วนปีหน้ามีการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ ที่เกาหลีใต้ จำเป็นต้องเตรียมทีมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้รายการคัดโควตาไปโอลิมปิกเกมส์ 2016 ก็เป็นอีกทัวร์นาเมนต์ที่สำคัญของสมาคม

 

ไทยโขกซิวที่1หมากรุกพม่า

              ทัพไทยยังได้เฮจากหมากรุก ทำได้อีก 1 เหรียญทองจากหมากรุกพม่า เดินเร็ว ทีมชาย ได้แก่ สุภัทร เล็กแจ่ม, ณัฎฐ์ สิทธิธรรมวลี, อาชว์ บุญร่วมบุญ, วรเทพ ทิมศรี รวมทีมหมากรุกไทยได้ไปแล้ว 3 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง


บาสสาวป้องทองได้-ชายซิวเงิน

              บาสเกตบอล วันสุดท้าย ทีมหญิง 5 ทีมพบกันหมด ทีมยัดห่วงสาวไทย ที่จองแชมป์ไปก่อนหน้านี้แล้ว ลงสนามส่งท้ายชนะอินโดนีเซีย 66-52 ทำให้มีสถิติสวยหรูชนะ 4 นัดรวด ได้เหรียญทอง ส่วนเหรียญเงิน ฟิลิปปินส์ เหรียญทองแดง มาเลเซีย ขณะที่ทีมยัดห่วงชาย มี 7 ทีมพบกันหมด นัดสุดท้ายเช่นกัน ไทย ชนะ พม่า 83-69 ทำให้เมื่อจบการแข่งขัน ไทยมีสถิติชนะ 5 แพ้ 1 ได้อันดับ 2 คว้าเหรียญเงิน ส่วนเหรียญทอง ฟิลิปปินส์ เหรียญทองแดง สิงคโปร์


แข้งไทยเจาะไม่เข้าเสมอกัมพูชา0-0


              การแข่งขันฟุตบอลชายที่สนามตูวันนา เมืองย่างกุ้ง “ช้างศึก” ทีมชาติไทย จ่าฝูง เตะ 3 นัด มี 7 คะแนน ลงสนามรอบแรก นัดสุดท้าย สาย บี พบกับ “เขมร” กัมพูชา ที่ตกรอบไปแล้ว ฟอร์มหนืดทำได้แค่เจ๊า 0-0 เท่านั้น

              สำหรับการเตะอีกคู่ในสายนี้ "เจ้าภาพ" พม่า พลิกพ่าย "อิเหนา" อินโดนีเซีย 0-1 ทำให้ทีมไทย ซึ่งมี 8 แต้ม ได้เข้ารอบเป็นที่ 1 ของสาย บี จะไปพบกับ "ลอดช่อง" สิงคโปร์ ซึ่งเป็นที่ 2 ของสาย เอ ในวันที่ 19 ธันวาคมนี้ เวลา 20.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ที่กรุงเนปิดอว์ โดยมีอินโดนีเซีย ที่มี 7 แต้ม เท่ากับพม่า แต่เฮดทูเฮดดีกว่า เป็นที่ 2 รอพบทีมใดทีมหนึ่งระหว่าง "แชมป์เก่า" มาเลเซีย หรือ เวียดนาม ในเวลาเดียวกัน เวลา 16.30 น. ขณะที่พม่าตกรอบ