ข่าว

รวบแล้ว!มือฆ่าข่มขืนน้องการ์ตูน

รวบแล้ว!มือฆ่าข่มขืนน้องการ์ตูน

15 ธ.ค. 2556

รวบแล้ว!มือฆ่าข่มขืนน้องการ์ตูน หนีกบดานหนองคาย ตร.บางนาประสานนำตัวมาดำเนินคดี สารภาพเกิดอารมณ์หลังจากดื่มเบียร์และเคยก่อเหตุต้องโทษมาแล้ว

              การติดตามแกะรอยตามน้องการ์ตูน อายุ 6 ขวบ หลังจากนายสายันต์ อายุ 32 ปี และ น.ส.ตุ๊กตา อายุ 32 ปี พ่อและแม่ของน้องการ์ตูนได้แจ้งคนหายไว้ที่ สน.บางนา เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ที่ผ่านมา ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ต.อ.สมชาย สงวนศักดิ์ภักดี ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.ท่าบ่อ ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากได้รับการประสานทางโทรศัพท์จากนายเจษฎาพงษ์ คุ้มครอง ผู้รับจัดงานคอนเสิร์ตลูกทุ่งไหมไทย ว่า พบผู้ต้องสงสัย เป็นคนงานจัดตั้งเวทีของลูกทุ่งดังกล่าวน่าจะเป็นคนร้ายที่ฆ่าน้องการ์ตูน ขณะนี้กำลังติดตั้งเวทีอยู่ที่สนามข้างสำนักงานเทศบาลเมืองท่าบ่อ จึงนำกำลังไปจับกุม พบชายคนดังกล่าวกำลังปีนนั่งร้านเพื่อติดตั้งระบบไฟและฉากเวที เมื่อเห็นตำรวจถึงกับตัวสั่น หน้าซีด และลงมาให้เจ้าหน้าที่จับกุมแต่โดยดี ทราบชื่อนายหนุ่ย หรือ ติ๊งต่าง ไม่ทราบนามสกุล อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87 หมู่ 2 ต.เปือยน้อย อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น จึงควบคุมตัวไปสอบสวน
 
              นายหนุ่ยให้การรับสารภาพว่า ฆ่าน้องการ์ตูนจริง โดยวันเกิดเหตุหลังจากตั้งเวทีเสร็จ ได้ซื้อเหล้าขาว 1 ขวด และเบียร์ 4 กระป๋อง มาดื่มจนหมด เป็นเวลามืดค่ำพอดี จากนั้นจะไปหาซื้อเบียร์มาดื่มต่อ ขณะเดินผ่านที่จอดรถเห็นน้องการ์ตูนนั่งอยู่คนเดียว จึงเข้าไปถามน้องการ์ตูนว่า ทำไมนั่งอยู่คนเดียวพ่อแม่ไปไหน น้องการ์ตูนบอกว่าพ่อแม่ไปดูคอนเสิร์ต จึงออกอุบายว่าจะไปซื้อเบียร์และขนมมากิน จะไปด้วยไหม น้องการ์ตูนบอกว่าขอไปด้วย จึงจูงแขนน้องการ์ตูนเดินข้ามสะพานลอย เพื่อไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ พอข้ามสะพานลอยมายังฝั่งตรงข้ามด้วยอาการมึนเมาทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศ เมื่อเห็นซอยเปลี่ยวและป่ารกทึบจึงดึงแขนน้องการ์ตูนเข้าไปในป่า พร้อมใช้มือบีบคอจนแน่นิ่ง จากนั้นก็กระทำชำเรา แต่ก่อนออกมาสังเกตเห็นน้องการ์ตูนไม่หายใจ ไม่คิดว่าจะเสียชีวิต จากนั้นกลับมาทำงานตามปกติ ส่วนการฝังศพน้องการ์ตูนนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องและไม่ทราบ
 
              นายหนุ่ย ให้การอีกว่า เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ศาลพิพากษาจำคุก 3 ปี 8 เดือน 11 วัน พ้นโทษออกมาเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2555
 
              ก่อนหน้านี้เวลา 02.30 น. วันที่ 15 ธันวาคม ร.ต.ท.สุรศักดิ์ วิลัยลักษณ์ พนักงานสอบสวน สน.บางนา รับแจ้งเหตุพบกะโหลกศีรษะมนุษย์ ลักษณะคล้ายกะโหลกเด็ก ภายในพื้นที่รกร้างข้างซอยสุขุมวิท 105 (ซอยลาซาล) ถนนสุขุมวิท แขวงและเขตบางนา กรุงเทพฯ จึงนำกำลังไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
 
              จุดที่พบกะโหลกเป็นพื้นที่รกร้างเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ ริมถนนสุขุมวิท ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าแบริ่งประมาณ 300 เมตร พ.ต.ท.นพ.ปกรณ์ วะศินรัตน์ นายแพทย์ (สบ 3) สถาบันนิติเวชวิทยา ระบุเบื้องต้นว่า กะโหลกดังกล่าวน่าจะเสียชีวิตมาไม่เกิน 1 สัปดาห์ เนื่องจากสภาพยังใหม่ มีน้ำเหลืองติดค้าง มีหนอนชอนไช ผิวกะโหลกมีรอยแดง คาดว่าเป็นเด็กผู้หญิง สังเกตจากรอยนูนกะโหลก น่าจะมีอายุระหว่าง 6-8 ปี นอกจากนี้กะโหลกค่อนข้างสมบูรณ์มีฟันกามติดอยู่ทั้งสองข้าง ข้างละ 2 ซี่ แต่ฟันด้านหน้าไม่มี ส่วนกะโหลกกามด้านล่างหายไป ทั้งนี้จากสภาพที่เห็นไม่พบร่องรอยการถูกตัด เพราะไม่พบกระดูกต้นคอ สันนิษฐานว่าถูกสัตว์เลื้อยคลานกัดแทะกิน แต่ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ส่งให้สถาบันนิติเวชวิทยาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
 
              ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่พบกางเกงขาสั้น ยี่ห้อเจเจ สีม่วงลายดอก สภาพใหม่ตกอยู่ห่างจากจุดที่พบกะโหลกประมาณ 20 เมตร ตรงกับข้อมูลที่พ่อแม่ของเด็กแจ้งไว้ เมื่อตรวจสอบในกระเป๋ากางเกงด้านซ้ายพบช็อกโกแลตห่อด้วยฟอยล์รูปเต่า
 
              จากการสอบถาม น.ส.ตุ๊กตา กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่แจ้งความคืบหน้าว่าพบเบาะแสของลูกสาว โดยกล้องวงจรปิด หรือซีซีทีวี ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่บริเวณใกล้สถานีรถไฟฟ้าแบริ่ง ฝั่งถนนสุขุมวิทขาออก สามารถจับภาพชายต้องสงสัยกำลังจูงมือเด็กผู้หญิง ลักษณะคล้ายกับน้องการ์ตูนเดินหายเข้าไปในพื้นที่รกร้าง ยิ่งเห็นกางเกงขาสั้นลายดอก มั่นใจว่าเป็นของลูกสาวใส่ในวันที่หายตัวไป ถึงอย่างไรยังสวดมนต์ภาวนาขอให้ลูกสาวยังมีชีวิตอยู่ พร้อมชวนสามีนำธูป 1 กำ ไปจุดไหว้เจ้าที่เจ้าทางสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้ช่วยคุ้มครอง และขอให้เจอลูกสาวเร็วๆ กระทั่งเจอกะโหลกก็ยังภาวนาว่า อย่าให้เป็นลูกสาวของตนเลย
 
              พ.ต.อ.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผู้กำกับการ (ผกก.) สน.บางนา กล่าวว่า หลังจากรับแจ้งคนหายได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูล จนได้เบาะแสจากกล้องวงจรปิด และระดมเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยออกค้นหาติดตามพื้นที่ต้องสงสัยในป่ารกร้าง กระทั่งพบกางเกง ซึ่งญาติยืนยันว่าน่าจะเป็นของน้องการ์ตูน จากนั้นได้เร่งค้นหาจนพบกะโหลกมนุษย์ลักษณะเป็นเด็ก ห่างจากจุดที่พบกางเกงประมาณ 20 เมตร ทั้งนี้ ได้ให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากนายสายันต์และน.ส.ตุ๊กตา เพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์เทียบเคียงดีเอ็นเอกับกะโหลกที่พบ ส่วนปิดจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพชายต้องสงสัยสูงประมาณ 170-175 เซนติเมตร สวมเสื้อยืดสีดำมีสกรีนที่หน้าอกเสื้อ กางเกงขาสามส่วน
 
              ต่อมาเวลา 09.30 น. พ.ต.อ.ธวัชเกียรติ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ภาสกร รัตนปนัดดา รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ สว.สส. พ.ต.ท.ธีรยุทธ ใหม่แปลง สส.สส. ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ วงศ์สิงค์ รอง สว.สส. และสุนัขตำรวจ 2 ตัว เข้าตรวจค้นภายในภายในพื้นที่รกร้างข้างซอยสุขุมวิท 105 อย่างละเอียดอีกครั้ง เจ้าหน้าที่พบเสื้อยืดสีเขียวสภาพเปื้อนคราบเลือด ถูกม้วนเป็นปม ตกอยู่ริมกำแพงห่างจากจุดที่พบกะโหลกศีรษะเล็กน้อย เมื่อคลี่ออกมาพบว่าเป็นลายภาพละคร "ป่านางเสือ" ที่น้องการ์ตูนใส่ในวันเกิดเหตุ ห่างออกไปประมาณ 5 เมตร เจ้าหน้าที่พบชิ้นส่วนกระดูกยังมีคราบเลือดและกลิ่นคาวคละคลุ้ง
 
              พ.ต.อ.ธวัชเกียรติ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนเตรียมขออนุมัติหมายจับบุคคลต้องสงสัย ซึ่งเป็นชายตามภาพวงจรปิด ในข้อหาพรากผู้เยาว์ไว้ก่อน ส่วนข้อหาอื่นต้องรอผลการชันสูตร รวมทั้งผลการตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับพ่อแม่ของน้องการ์ตูนว่า กะโหลก และชิ้นส่วนกระดูกที่พบนั้นจะเป็นน้องการ์ตูนหรือไม่ เบื้องต้นเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนไทย และไม่น่าจะทำเป็นขบวนการแต่อย่างใด ส่วนผู้ต้องสงสัยชาวต่างด้าวที่นำตัวไปสอบสวนเมื่อคืนที่ผ่านมา ไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด แค่มานอนพักอาศัยอยู่ในบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุเท่านั้น อีกทั้งตรวจเปรียบเทียบกับกล้องวงจรปิดแล้ว ไม่ตรงกัน
 
              ด้าน นางสุไพลี คงแสงบุตร หัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเพื่อการฟื้นฟู มูลนิธิเพื่อการฟื้นฟูพัฒนาเด็กและครอบครัว (ฟอร์เด็ก 6) ที่คอยดูแลน้องการ์ตูน กล่าวว่า น้องการ์ตูนอยู่กับมูลนิธิมาเป็นปีที่ 3 แล้ว ปกติจะเป็นเด็กค่อนข้างเงียบเรียบร้อย ไม่ค่อยกล้าแสดงออก มูลนิธิเชื่อว่าน้องการ์ตูนน่าจะถูกคนร้ายข่มขู่ หรือหลอกว่าจะพาไปซื้อขนม หรืออาจจะหลอกว่าจะพาไปหาแม่ เพราะวันเกิดเหตุแม่ไม่ได้มาดูคอนเสิร์ตด้วย หลังจากน้องการ์ตูนหายไป มูลนิธิช่วยกันออกตามหาตลอด พบว่ากล้องวงจรปิดบริเวณลานจอดรถจับภาพน้องการ์ตูนกำลังวิ่งผ่านกล้องไปเวลา 23.40 น. จากนั้นร้านสะดวกซื้อฝั่งตรงข้ามกับจุดเกิดเหตุก็จับภาพคนร้ายจูงน้องการ์ตูนผ่านไปเวลา 23.55 น. และกล้องตัวสุดท้ายของ กทม.จับภาพเอาไว้ได้ขณะลงจากสถานีรถไฟฟ้าแบริ่งช่วงเที่ยงคืนเศษ
 
              "ช่วงที่ผ่านมามีเบาะแสมาอีกหลายทางว่าน้องถูกพาไปขอทานที่ร้านหมูกระทะบ้าง ไปอยู่ย่านแพรกษา ปากน้ำบ้าง ฉันก็ตามไปดู ก็ไม่พบแต่อย่างใด จนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมามีคนพบชิ้นส่วนกะโหลกกับเสื้อผ้าของน้องการ์ตูนจึงรีบมาดูทันที ทั้งนี้ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทางมูลนิธิจะสอนเด็กอยู่เป็นประจำว่าอย่าไปไหนกับคนแปลกหน้า หากถูกคนร้ายขู่บังคับก็ให้ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ หรือวิ่งหนีไปหาคนช่วยเหลือ เวลาผู้ปกครองมารับเด็กที่มูลนิธิก็จะถามเด็กตลอดว่ารู้จักคนที่มารับหรือไม่" นางสุไพลี กล่าว
 
              วันเดียวกัน นายสายันต์เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ เห็นเสื้อยืดของน้องการ์ตูนถึงกับทรุดไปกองกับพื้นร้องไห้โฮว่า "พ่อขอโทษ พ่อไม่น่าปล่อยลูกไว้เลย ลูกกูทำอะไรให้ ถึงต้องทำกับลูกกูขนาดนี้" ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะพาออกไปสงบสติอารมณ์ ส่วน น.ส.ตุ๊กตา ถึงกับเป็นลมล้มพับ จนญาติต้องช่วยกันปฐมพยาบาล เมื่อได้สติ น.ส.ตุ๊กตาได้จุดธูป 1 ดอก ที่บริเวณจุดที่พบกางเกงของน้องการ์ตูน กับเส้นผม พร้อมร่ำไห้กล่าวว่า "การ์ตูนกลับบ้านนะลูก แม่ขอโทษที่ดูแลหนูไม่ดี ขอให้ลูกไปสู่สุคติ เราคงทำบุญมาด้วยกันแค่นี้ ชาติหน้าขอให้เราเกิดมาเป็นแม่ลูกกันอีก" ก่อนที่ญาติจะช่วยกันพยุงออกจากจุดเกิดเหตุไป
 
              ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดสืบสวน สน.บางนา แจ้งว่าขณะนี้ได้รับการประสานจากตำรวจใน จ.หนองคาย ว่า สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาเป็นชายวัน 32 ปี ได้ที่ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า ขณะก่อเหตุได้ดื่มเบียร์จนเมา ก่อนลักพาน้องการ์ตูนไปบีบคอจนเสียชีวิต แล้วกระทำชำเราที่บริเวณพื้นที่รกร้างข้างซอยลาซาล ทั้งนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างควบคุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดีที่กรุงเทพฯ