ข่าว

จับ“ไอ้เปี๊ยก”กระทืบแม่ชีดับคาวัดรวกบางบำหรุ

จับ“ไอ้เปี๊ยก”กระทืบแม่ชีดับคาวัดรวกบางบำหรุ

18 มิ.ย. 2552

ฆาตกรโหดฆ่า"แม่ชี"ดับสยองคาวัดรวกบางบำหรุ ตำรวจจับ"ไอ้เปี๊ยก แข้งโหด"สวมกางเกงเปื้อนเลือดเดินในวัด อ้างเปื้อนเลือดประจำเดือนภรรยา เค้นสอบหนักสารภาพลงมือกระทืบแม่ชีตายจริง เหตุแค้นส่วนตัวแม่ชี้ชอบมองหน้าเหยียดหยาม "เจ้าหน้าที่วัด"ไม่เชื่อคำให้การผู้ต้องหา

(18มิ.ย.) เวลา 06.30 น. ร.ต.ท.(หญิง)เพชรรัตน์ เลิศวานิช ร้อยเวร สน.บางพลัด ได้รับแจ้งมีผู้พบศพแม่ชีถูกฆ่าเสียชีวิตภายในวัดรวกบางบำหรุ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 57 (แยก 3) แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรีบรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สุธีร์ เนรกัณฐี รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 7 (รอง ผบก.น.7) กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
 
 ที่เกิดเหตุซึ่งอยู่บริเวณหน้ากุฏิแม่ชี ใกล้กับห้องน้ำรวมด้านข้างศาลาการเปรียญของทางวัดพบศพ แม่ชีสนม น้อยประเทศ อายุ 68 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 164 หมู่ 6 ซอยเทอดไท 19 (วัดโพธิ์นิมิตร) แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กทม.สภาพศพนอนสวมชุดแม่ชีสีขาว ซึ่งเต็มไปด้วยเลือดแดงฉาน มีบาดแผลถูกทำร้ายเข้าที่เบ้าตาปูดทั้ง 2 ข้าง ศรีษะแตกกรามถูกกระแทกจนหัก ลิ้นจุกปาก แพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่เกิน 12 ชั่วโมง ส่วนภายในกุฏิของผู้ตายพบร่องรอยการรื้อค้นทรัพย์สินจนกระจัดกระจาย เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน
 
 ต่อมามีพลเมืองดีแจ้งว่าพบผู้ต้องสงสัยสวมกางเกงเปื้อนเลือดเดินวนเวียนอยู่ในวัด เจ้าหน้าที่จึงรีบไปควบคุมตัวมาสอบสวน ทราบชื่อต่อมา นายปรีชา หรือ “เปี๊ยก” นิสงค์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 268 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 57 แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กทม.โดยในเบื้องต้นนายปรีชา ให้การในสภาพเมามาย ว่าพักอาศัยอยู่ในวัดนี้มากว่า 20 ปีแล้วปัจจุบันช่วยภรรยาขายน้ำดื่มอยู่ที่บริเวณหน้าวัดและขับรถแท็กซี่เป็นรายได้เสริม ส่วนคราบเลือดที่เลอะกางเกงนั้นเกิดจากการทะเลาะวิวาทกับภรรยาซึ่งอยู่ระหว่างมีรอบเดือนจึงมีคราบติดกางเกงออกมา
 
 จากนั้นฝ่ายสืบสวนได้สอบเค้นอย่างหนักจนนายปรีชา ยอมรับเปิดปากรับสารภาพว่า เป็นคนฆ่าแม่ชีสนม เอง เนื่องจากหมั่นไส้ที่ชอบมองหน้าแบบหาเรื่อง ตนเป็นคนเก่าแก่ที่นี่ แต่แม่ชีเพิ่งย้ายมาอยู่เพียง 2-3 ปี กลับใช้สายตาดูถูก โดยก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. ไปดื่มเหล้าและเล่นไฮโลกับเพื่อนเสียเงินจนหมดจึงเดินเข้าไปฉี่ในห้องน้ำข้างศาลาการเปรียญวัด
 
 "ช่วงนั้นพบแม่ชีคู่อริ นั่งซักผ้าหันหลังให้ผมอยู่ที่หน้าห้องน้ำพอดี ด้วยความหมั่นไส้ผมจึงปรี่เข้าไปใช้หน้าแข้งหวดเข้าก้านคอ ใบหน้า และใช้หมัดชกต่อยไปหลายครั้งจนแม่ชีล้มฟุบหมดสติ ก่อนที่จะลากร่างไปทิ้งไว้หน้ากุฏิ ซึ่งอยู่ห่างกันเพียง 3-4 เมตรแล้วเดินไปเปลี่ยนเสื้อเพื่อหลับพักผ่อนโดยไม่ได้แตะต้องทรัพย์สินอะไรเลย"นายปรีชา กล่าว
 
 ต่อมาฝ่ายสืบสวน สน.บางพลัด ได้พาตัวนายปรีชา ฆาตกรแข้งโหดรายนี้ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพท่ามกลางเสียงสาปแช่งของชาวบ้านในละแวกนั้น โดยจุดแรกเป็นจุดที่นายปรีชา เดินเข้าไปปัสสาวะในห้องน้ำ แล้วเห็นแม่ชีสนม นั่งซักผ้าอยู่ จุดที่สองเป็นจุดที่นายปรีชา ใช้หน้าแข้งเตะก้านคอแม่ชีสนม จากทางด้านหลังตามด้วยการใช้หมัดรัวใส่จนหมดสติ
 
 จุดที่สามเป็นจุดที่นายปรีชา ลากศพไปทิ้งไว้ที่บริเวณหน้ากุฏิ และจุดสุดท้ายอยู่บริเวณหน้ากุฏิพระซึ่งห่างไปประมาณ 150 เมตร เป็นจุดที่นายปรีชา เปลี่ยนเสื้อและนอนพักอย่างสบายอารมณ์บนเตียงผ้าใบ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงรีบควบคุมตัวนายปรีชา ไปสอบปากคำต่อที่โรงพักท่ามกลางการคุ้มกันอย่างแน่นหนาเนื่องจากเกรงว่าชาวบ้านจะเข้ามารุมประชาทัณฑ์
 
 นายพิเชษฐ์ แข็งแรง อายุ 47 ปี เจ้าหน้าที่วัด ให้การว่า ได้รับแจ้งจากพระในวัดว่าแม่ชีสนม ถูกฆ่าตายเมื่อตอน 06.00 น.จากนั้นตนก็โทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจ แล้วเห็น นายปรีชา ทำทีเดินมาเข้าห้องน้ำ แต่เมื่อพบหน้านายปรีชา ก็รีบหันหลังเดินกลับไปช่วยภรรยาเข็นรถขายน้ำมาจอดบริเวณหน้าวัด ซึ่งระหว่างนั้น ตนเห็นว่าที่กางเกงของนายปรีชา มีคราบเลือดติดอยู่ด้วยเลยรีบสะกิดบอกตำรวจให้ทำการควบคุมตัวไปสอบสวน
 
 นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า จากคำให้การของนายปรีชา ตนไม่เชื่อว่าจะลงมือเพราะความหมั่นไส้ส่วนตัวเพียงอย่างเดียว เนื่องจากแม่ชีสนม พักอยู่ที่วัดนี้มาได้ 30 ปีแล้วแต่ไม่เคยยุ่งกับใคร ส่วนช่วงเวลาที่เกิดเหตุก็น่าจะเกิดก่อน 03.00 น. เพราะมีผู้พบเห็นนายปรีชา นำเงินใบละ 1 พันบาทเปื้อนเลือดไปซื้อเหล้าดื่มตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืน โดยเจ้าตัวอ้างว่าเงินเลอะเลือดประจำเดือนภรรยาอีกเช่นกัน
 
 สำหรับแม่ชีสนม ผู้ตาย มีศักดิ์เป็นอาของ พ.ต.ท.อำนวย น้อยประเทศ รอง ผกก.(ปป.)สน.พหลโยธิน เมื่อผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปสอบถามทาง พ.ต.ท.อำนวย ได้ให้ข้อมูลว่า ตนมีศักดิ์เป็นหลานแม่ชีสนมจริง ซึ่งแม่ชีสนม นั้นเป็นผู้พิการทางสายตาตั้งแต่กำเนิด หลังจากที่คุณย่าตนเสียชีวิตเมื่อ 30 ปีก่อน แม่ชีสนมก็ตัดสินใจบวชและไม่ยอมสึกอีกเลยส่วนเรื่องรายละเอียดทางคดีนั้นตนยังไม่ทราบอะไรมาก แต่ตอนนี้ได้ให้หลานเป็นผู้ไปประสานกับตำรวจ สน.บางพลัด เพื่อติดต่อขอรับศพมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณีแล้ว
 
 มีรายงานว่า แม่ชีสนม เพิ่งจะได้เงินมาจากการขายที่ดินจำนวนหลายแสนบาท ทำให้มีผู้เข้าไปขอหยิบยืมเงินกันอยู่ประจำ ซึ่งนายปรีชา ก็เพิ่งจะเล่นไฮโลเสียจนหมดตัวและอาจจะต้องการเงินไปซื้อเหล้า จึงเข้าไปขอยืมจากแม่ชี แต่เมื่อถูกปฏิเสธจึงลงมือทำร้ายจนเสียชีวิตก่อนรื้อค้นทรัพย์สินในกุฏิแล้วหลบหนีไปดังกล่าว