พม่าใช้'ยิงศรจุดไฟ'เปิดซีเกมส์อลังการ | คมชัดลึก

               มหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่ประเทศพม่า ซึ่งกลับมาเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์อีกครั้งในรอบ 44 ปี เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ได้มีพิธีเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ที่สนามวันนา ทิกธิ ซึ่งจุผู้ชมได้ 3 หมื่นที่นั่ง ท่ามกลางบรรยากาศที่ดำเนินไปอย่างคึกคัก มีชาวพม่าหลั่งไหลเข้าไปร่วมชมจำนวนมาก ซึ่งเจ้าภาพได้เปิดให้ประชาชนทำไอดีการ์ดเข้าไปชมได้ โดยมี เต็ง เส่ง ประธานาธิบดีแห่งสหภาพเมียนมาร์ เป็นประธาน ขณะที่นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนจากประเทศไทย เข้าร่วมพิธีเปิดดังกล่าว 

พระองค์หญิงทรงนำทัพไทยเข้าสนามลำดับที่ 9

               เจ้าภาพอุ่นเครื่องพิธีเปิดตั้งแต่ช่วงบ่ายด้วยการแสดงจากศิลปินชื่อดังของพม่า ต่อด้วย 5 ศิลปิน ได้แก่ ชาน ชาน, พยู คยอว์ เตียน, เมขลา, ซอว์ วิน ฮตัท ที่ร่วมร้องเพลงประจำการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 27 จากนั้นประธานาธิบดี เต็ง เส่ง ได้เดินทางมาถึงสนามและเริ่มพิธีอย่างเป็นทางการในช่วงหัวค่ำ ซึ่งเจ้าภาพได้จุดพลุไฟเฉลิมฉลองสวยงาม

               จากนั้นเป็นการบรรเลงเพลงของวงดนตรีพื้นบ้านของพม่า ก่อนที่ขบวนพาเหรดเดินนำหน้านักกีฬาเข้าสู่สนาม สำหรับทัพนักกีฬาไทยเดินเข้าสนามเป็นลำดับที่ 9 โดยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงพระดำเนินนำหน้านักกีฬาไทย ตามด้วยนายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้านักกีฬาไทย และศุภวุฒิ เถื่อนกลาง นักฟุตซอลทีมชาติไทย เป็นตัวแทนนักกีฬาไทยถือธงชาตินำหน้าทัพไทย

ยิงศรจุดไฟเปิดซีเกมส์หน 27

               เจ้าภาพใช้เวลาแสดงชุดต่างๆ ซึ่งเน้นศิลปวัฒนธรรมของชาวพม่า สลับด้วยระบบแสงสีที่สวยงาม รวมแล้วประมาณ 5 ชั่วโมง ถือเป็นพิธีเปิดการแข่งขันที่ใช้เวลานานที่สุดนับตั้งแต่มีการแข่งขันซีเกมส์ โดยไฮไลท์ของพิธีเปิดคือการจุดคบเพลิง นักกีฬาที่ร่วมวิ่งคบเพลิงมีทั้งหมด 7 คน ได้แก่ เจนนิเฟอร์ ติน เลย อดีตนักกรีฑา, ติน อ่อง อดีตนักฟุตบอลผู้ใหญ่ของพม่า, ตัน ตัน อดีตนักกรีฑา, ขิ่น ขิ่น ฮเว อดีตนักกรีฑา, มิน อ่อง อดีตนักยิมนาสติก, ซอว์ ซา ลอ ลาร์ อดีตนักกรีฑา, อู อเย มิน คยู ประธานฝ่ายพิธีเปิด-ปิดกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 27 และเว ลิน ทอน นักยิงธนูทีมชาติพม่า เป็นนักกีฬาคนสุดท้ายที่ยิงธนูจุดไฟในกระถางคบเพลิง โดยเล็งธนูไปที่กระถางคบเพลิงรูปดอกบัว ทำให้เปลวเพลิงพวยพุ่ง เป็นสัญญาณว่าการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ได้เปิดฉากชิงชัยอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับเหตุผลที่พม่าเลือกกระถางเป็นรูปดอกบัว เพราะเป็นสัญลักษณ์การบูชาของชาวพม่าที่ส่วนใหญ่นำดอกบัวไปบูชาพระ ส่วนการยิงธนูจุดคบเพลิงนั้น ก็มีประวัติศาสตร์มาจากศัสตราวุธของอดีตกษัตริย์สมัยโบราณของพม่าที่มีธนูคู่กาย 

พระองค์หญิงเลือกทรงม้าเทคัว

               วันเดียวกันก่อนพิธีเปิด พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จไปฝึกซ้อมที่สนามวันนาทิกธิ อีเควสเทรียน ฟิลด์ โดยใช้เวลาฝึกซ้อมกับม้าตัวอื่นๆ ที่ทีมขี่ม้าไทยจับสลากมาได้ ในช่วงแรกฝึกซ้อมกับม้าตัวหนึ่งใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก่อนจะลองทรงม้าเบอร์ 42 ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า และพระองค์ทรงบังคับม้าได้อย่างคล่องแคล่วกว่าตัวอื่นๆ จึงตัดสินพระทัยที่จะทรงม้า "เท คัว" ซึ่งเป็นม้าพื้นเมืองลงแข่งขันศิลปะการบังคับม้า ในวันที่ 13 ธันวาคม

               พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ประทานสัมภาษณ์ว่า เริ่มมีความมั่นใจขึ้นตามลำดับ เพราะสามารถควบคุมม้าได้เป็นอย่างดี โดยการฝึกซ้อมที่เหลืออีกหนึ่งวันจะต้องเก็บรายละเอียดในการตีวง หรือการเดินให้มากกว่านี้ก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น

               ด้าน พ.อ.เฟื่องวิชชุ์ อนิรุธเทวา เลขาธิการสมาคมขี่ม้า กล่าวว่า การฝึกซ้อมของพระองค์ดีขึ้นมาก และได้สัมผัสกับม้าที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี คุ้นเคยกันมากขึ้น

หวายไทยขยี้สาวมาเลย์ขาด

               ส่วนความเคลื่อนไหวทัพนักกีฬาไทยซึ่งทำผลงานรวมได้ 6 เหรียญทอง 10 เหรียญเงิน และ 4 เหรียญทองแดง รั้งอันดับ 3 ของตารางเหรียญรวม เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ที่กรุงเนปิดอว์ ไม่มีการชิงเหรียญทอง แต่มีการแข่งขันเซปักตะกร้อ ประเภททีมหญิง ทีมสาวไทยประเดิมสนามกับ "เสือเหลือง" มาเลเซีย โดยทีมเอ ไทยส่ง ดาริณี วงศ์เจริญ, แก้วใจ พุ่มสว่างแก้ว และฐิติมา พะลัง ลงชิงชัย ปรากฏว่าสาวไทยใช้ฝีเท้าที่เหนือกว่าเอาชนะไป 2 เซตรวด 21-19, 21-7 จากนั้นทีมบี ได้แก่ สุนทรี รูปสูง, นงนุช อินเรืองศรี และรุ่งทิพย์ ตะนะขิง เอาชนะมาเลย์ได้อีก 2-0 เซต 21-4, 21-8 และทีมซี ได้แก่ สมฤดี ปรือปรัก, วันวิสา จันทร์แก่น และธิดารัตน์ โสดา ก็ยังโชว์ฟอร์มการเล่นที่เฉียบขาด เอาชนะ มาเลเซีย 2-0 เซต 21-3, 21-4 ทำให้ไทยชนะมาเลเซียไปอย่างขาดลอย 3-0 ทีม ประเดิมเก็บชัยชนะได้สำเร็จ ส่วนนัดต่อไป พบอินโดนีเซีย วันที่ 12 ธันวาคม