
'สุรพงษ์'แย้ม!'ยิ่งลักษณ์'ลงชิงส.ส.อีกสมัย
'สุรพงษ์'เผย'ยิ่งลักษณ์'ลงชิงส.ส.อีกสมัย แต่ไม่รู้จะถูกเสนอชื่อเป็น'นายกฯ'อีกหรือไม่ ยัน'รธน.'กำหนดให้ต้องทำหน้าที่'ครม.รักษาการ'
9 ธ.ค.56 เมื่อเวลา 11.30 น. นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะกำกับดูแลศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) มีการแถลงผ่านการถ่ายทอดสดของโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย โดยมี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี และนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมนั่งอยู่ข้างๆ ด้วย โดยนายสุรพงษ์ กล่าวว่า นายกฯประกาศยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนเพื่อประโยชน์สุขและความสงบเรียบร้อยของประเทศชาติ ดังนั้น ศอ.รส.ขอวิงวอนให้ประชาชน นักเรียน และนิสิตนักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหวให้ความร่วมมือกลับคืนภูมิลำเนาของท่าน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ เพื่อกอบกู้ภาพลักษณ์ให้คืนสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
จากนั้น ภายหลังการแถลงมีการเปิดให้ผู้สื่อข่าวได้ซักถาม โดยกรณีที่กลุ่ม กปปส.ระบุว่า การยุบสภายังไม่เพียงพอนั้น นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ตามที่ ครม.พ้นจากตำแหน่งทั้งหมดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 180 และในมาตรา 181 ระบุว่า ครม.ที่พ้นจากตำแหน่งต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อจนกว่า ครม.ใหม่จะเข้ารับหน้าที่ ตนในฐานะที่เป็น ครม.หลีกเลี่ยงไม่อยู่ในตำแหน่งไม่ได้ ถ้าไม่อยู่ทำหน้าที่ก็จะถูกดำเนินคดีตาม มาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และตนคิดว่า วันนี้รัฐบาลพยายามทำทุกอย่างภายใต้รัฐธรรมนูญแล้ว และที่นายกฯ ประกาศก็เป็นการคืนอำนาจให้ประชาชนทุกอย่างถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ และยืนยันว่า กฎหมายไม่เปิดช่องให้ครม.ออกจากการเป็นรัฐบาลรักษาการ อีกทั้ง นายกฯได้มอบนโยบายหลังจากนี้ว่า ให้รัฐมนตรีทุกคนทำหน้าที่เต็มที่
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า วันนี้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องตอบสังคม เพราะว่า การชุมนุมประท้วงยังไม่ยุติ ความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส.จะรับผิดชอบอย่างไร เพราะนายกฯ ได้ตัดสินใจยุบสภา เพื่อให้เกิดความสงบ ความวุ่นวายต่างๆ ที่เกิดขึ้นต่อจากนี้นายสุเทพต้องเป็นคนตอบสังคม เนื่องจากวันนี้นายสุเทพได้ประกาศชัดเจนว่า ถ้าชนะหรือแพ้ ก็จะเลิกการชุมนุม นายสุเทพก็ควรรักษาความพูดตนเอง เพราะหากไม่รักษาคำพูด ความน่าเชื่อถือก็จะหมดไป ตนจึงอยากให้นายสุเทพรักษาคำพูด
นายสุรพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า สิ่งที่นายกฯ ตัดสินใจได้มีการพูดคุยกัน นายกฯเป็นสุภาพสตรี ที่คำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชน และไม่ต้องการเห็นการปะทะกันเกิดขึ้น ที่จะส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บล้มตาย จึงทำให้นายกฯ ตัดสินใจยุบสภา เพื่อให้เกิดทางออกตามที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา
"เรื่องดังกล่าวจึงถือเป็นข้อดีที่เรามีนายกฯเป็นผู้หญิง แต่หากมีนายกฯเป็นผู้ชาย อาจจะทำให้เกิดความรุนแรง พวกผมทั้งสามคนที่เข้ามาดูแล ศอ.รส.ก็ต้องการเห็นการชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ให้เกิดการปะทะ รัฐบาลยอมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการที่ผู้ชุมนุมเข้าไปในสถานที่ราชการ เราก็ยอม รวมถึงทำเนียบรัฐบาลด้วย เราจะยอมทุกอย่าง เพราะไม่อยากให้เกิดความวุ่นวาย" นายสุรพงษ์ กล่าว
รองนายกฯ กล่าวต่อไปว่า แต่สิ่งที่เรากลัวที่สุดคือ เรื่องมือที่สาม เพราะได้รับรายงานมาว่า มีมือที่สามที่ต้องการก่อกวนให้เกิดความรุนแรง อย่างไรก็ตาม การประกาศยุบสภาที่เราจะคืนอำนาจให้ประชาชน และให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ว่า จะเลือกพรรคใด หรือนโยบายของใครก็เป็นสิทธิ์ และเมื่อท่านได้สิ่งที่ท่านต้องการแล้วควรจะกลับภูมิลำเนาของท่าน
"วันนี้ตนและรัฐบาลก็พร้อมที่จะพูดคุยกันกับผู้ชุมนุม หัวหน้าพรรคเพื่อไทยก็พร้อมพูดคุยกับพรรคต่างๆ ส่วนฝ่ายวิชาการเห็นว่า เป็นอย่างไร ก็มาพูดคุยกัน ทั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมนั้นขอให้ยุติได้แล้ว เพื่อให้ประเทศชาติเดินต่อไป เพราะถ้าเรียกร้องอะไรที่นอกเหนือจากรัฐธรรมนูญพูดไว้ ก็เป็นการปกครองโดยระบอบอื่นแล้ว เพราะสังคมโลกนานาชาติเห็นด้วยที่รัฐบาลดำเนินการภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ" นายสุรพงษ์ กล่าว
นายสุรพงษ์ ยังเปิดเผยด้วยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะลงเลือกตั้งในฐานะอดีต ส.ส.คนหนึ่ง แม้ท่านยังไม่พูดแต่คิดว่า จะลงสมัคร ส่วนว่าจะเป็นนายกฯอีกหรือไม่ก็แล้วแต่ที่ประชุมสภา
ด้านนายจารุพงศ์ กล่าวว่า ตนยืนยันพรรคการเมืองทุกพรรคการเมืองพร้อมที่จะลงเลือกตั้ง และพร้อมที่จะเคารพในมติเสียงของประชาชนที่ตัดสิน และภายใน 1-2 วันนี้ ตนจะเรียกคณะกรรมการบริหารพรรคประชุม เพื่อกำหนดยุทธศาสร์ กำหนดแนวนโยบายต่างๆ พร้อมกับกำหนดการสรรหาบุคลากรในการลงเลือกตั้ง ขณะนี้ กำลังหาข้อมูล ซึ่งในกฎหมายเลือกตั้งได้ระบุไว้ชัดเจนว่า ให้คำนวณ จำนวน ส.ส.ต่อเขตเลือกตั้ง ในแต่ละจังหวัด ซึ่งขณะนี้เราก็จะตรวจสอบจากฐานจำนวนประชากร ณ วันที่ 31 ธ.ค.55 ตามประกาศของกระทรวงมหาดไทย เมื่อได้ข้อสรุปก็จะมาสรุป เพื่อหาบุคลากรลงเลือกตั้งต่อไป
เมื่อถามว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์จะบอยคอตไม่ร่วมส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง นายจารุพงศ์ กล่าวว่า ให้ไปถามพรรคประชาธิปัตย์ ตนไม่สามารถตอบได้ และเราเชื่อว่า ไม่สามารถที่จะบอยคอตไม่ลงเลือกตั้งได้ และในขณะนี้ ตนได้สั่งการผู้ว่าราชการทุกจังหวัดทั่วประเทศ ยึดแนวทางที่นายกฯ ได้แถลงไปแล้ว และทำความเข้าใจกับประชาชนในแต่ละจังหวัด พร้อมกับดูแลความสงบเรียบร้อย เพื่อให้เกิดการปะทะกัน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ขอให้ผู้การจังหวัด อัยการจังหวัด และคณะกรรมการจังหวัดร่วมกันรับผิดชอบ ทั้งนี้ ยืนยันนายกฯ ไม่ถอดใจและไม่มีรัฐมนตรีคนใดถอดใจ
ด้านพล.ต.อ. ประชา กล่าวถึงการตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไปว่า ในเมื่อภารกิจยังคงอยู่ก็ยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องมีการรักษาความปลอดภัย โดยตำรวจและทหารต้องดูแลชีวิตและทรัพย์สินของผู้ชุมนุมอย่างเต็มความสามารถ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ส่วนสถานที่ราชการฝ่ายผู้ชุมนุมเองก็ได้แสดงสัญลักษณ์ในทุกจุดทุกแห่งก็น่าจะเพียงพอแล้ว ส่วนถ้าจะเข้าไปในสถานที่ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายได้ ตนก็ต้องขอความร่วมมือพี่น้องผู้ชุมนุม เพราะทรัพย์สินทางราชการก็มาจากภาษีของประชาชน เราก็ต้องรักษาไว้