
'ฝน-ชวมณฑ์'ด้วยรักและผูกพันจระเข้น้อย
ขอเวลานอก : 'ฝน-ชวมณฑ์' ด้วยรักและผูกพันจระเข้น้อย : เรื่อง วันวิสา โรจน์แสงรัตน์ /ภาพ อนันต์ จันทรสูตร์
"ที่ผ่านมาเราเห็นมันมาในรูปแบบที่ดูน่ากลัว น้อยคนที่จะเลือกมันมาทำเป็นของน่ารักๆ ฉะนั้นเมื่อเห็นที่ไหนฝนก็จะรีบซื้อโดยไม่ลังเลเลยค่ะ"
หากมีโอกาสได้คลุกคลีกับบางสิ่งเป็นเวลานาน ก็ย่อมมีความผูกพันกับสิ่งๆ นั้นโดยอัตโนมัติ ยิ่งถ้าได้เห็นและสัมผัสมาตั้งแต่เกิด ความผูกพันก็จะยิ่งเท่าทวีคูณ เช่นเดียวกับสาวสวย "ฝน" ชวมณฑ์ ปวโรดม ลูกสาวคนโต ในจำนวน 4 พี่น้องของคุณพ่อวิบูลย์ ปวโรดม กับคุณแม่พัชรพิมล ยังประภากร ทายาทฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ และฟาร์มจระเข้ทองการเกษตร จ.นครปฐม ที่มีโอกาสได้เห็นเจ้าสัตว์เลื้อยคลานมาตลอด 25 ปี จนวันนี้เธอกล้าพูดอย่างเต็มปากว่า เจ้าสี่ขาตัวเขื่องที่หลายคนมองว่าเป็นสัตว์ดุร้าย สำหรับเธอแล้วกลับเห็นว่าเป็นสัตว์ที่มหัศจรรย์มากๆ
พอรู้ว่าสาวเจ้าพอจะมีเวลาว่าง เราจึงนัดแนะเพื่อพูดคุยทำความรู้จักให้มากขึ้น ซึ่งที่ออฟฟิศของบริษัทกระเป๋าหนังแบรนด์ "สุวิมล" ภายในซอยเอกมัย 12 สาวอารมณ์ดีออกมาต้อนรับขับสู้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มก่อนเชื้อเชิญให้นั่งในห้องรับแขกหรูที่ภายในเต็มไปด้วยจระเข้น้อยใหญ่ รวมไปถึงกระเป๋าหนังสวยๆ สีสันสะดุดตา ภายใต้แบรนด์ที่เธอดูแลอยู่ด้วย ก่อนจะเริ่มเล่าถึงที่มาของการทำธุรกิจกระเป๋าหนังจระเข้ทั้งจำหน่ายในประเทศและส่งออกด้วย
"ฝนเห็นจระเข้และอยู่กับมันมาตั้งแต่เกิดเลยค่ะ เพราะคุณตา (อุทัย ยังประภากร) ท่านเป็นเจ้าของฟาร์มจระเข้ที่สมุทรปราการ ต่อมาคุณตาแบ่งให้คุณยาย คุณแม่และพี่น้องของคุณแม่เลยมาตั้งฟาร์มใหม่ ใช้ชื่อว่าจระเข้ทองการเกษตร อยู่ที่จังหวัดนครปฐม เป็นฟาร์มปิดเพาะเลี้ยงสำหรับการส่งออกเนื้อและหนังเท่านั้น เนื้อจระเข้จะส่งออกทั้งแบบสดและตากแห้ง ส่วนหนังจะส่งออกเป็นหนังดิบ เพื่อให้ลูกค้านำไปฟอกและผลิตเป็นกระเป๋าหนังจระเข้ ซึ่งตอนนี้ก็มีแบรนด์ดังระดับโลกหลายแบรนด์ที่เป็นลูกค้า และจากการที่มีวัตถุดิบอยู่ในมือบวกกับความที่คุณแม่ชอบแฟชั่นและชอบการแต่งตัวอยู่แล้ว จึงเป็นที่มาให้ท่านตัดสินใจทำแบรนด์กระเป๋าถือขึ้นเมื่อราว 2 ปีก่อน โดยใช้ชื่อคุณยาย (สุวิมล) มาตั้งเป็นชื่อแบรนด์ ด้วยเหตุผลว่าเป็นแบรนด์เมดอินไทยแลนด์ทั้งหมด คือหนังของไทย ผลิตโดยคนไทย และที่สำคัญทุกครั้งที่เอ่ยชื่อแบรนด์จะทำให้นึกถึงคุณยายเสมอ" ทายาทฟาร์มชาละวันชื่อดัง ย้อนเรื่องราว
แรกเริ่มแบรนด์สุวิมล เปิดเป็นร้านผลิตตามออเดอร์ ย่านทองหล่อ โดยรับคำสั่งงานจากเพื่อนๆ สนิทของคุณแม่เธอเอง ซึ่งขณะที่คุณแม่เริ่มทำธุรกิจในเมืองไทย ลูกสาวคนโตของครอบครัวยังศึกษาด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ อยู่ที่ โรด ไอแลนด์ สคูล ออฟ ดีไซน์ ประเทศสหรัฐอเมริกา กระทั่งเรียนจบเมื่อปี 2011 จึงกลับมาช่วยคุณแม่ลุยงานอย่างเต็มตัว
"ตอนเรียนที่โน่นฝนเลือกเรียนด้านอินดัสเตรียลดีไซน์ คือการออกแบบผลิตภัณ์ที่มีการทำซ้ำได้จำนวนมากๆ เช่น เฟอร์นิเจอร์ ถ้วยชาม ช้อน ส้อม ซึ่งที่เรียนมาไม่เกี่ยวกับทำกระเป๋าเลยค่ะ (หัวเราะ) พอเรียนจบกลับมาบอกคุณแม่ว่าถ้าเราทำอันเดียว ชิ้นเดียว มันคืองานศิลปะ ขายไม่ได้ไม่เป็นไร แต่ถ้าจะทำขายมันต้องทำซ้ำอีกได้หลายๆ ชิ้น หลายๆ อัน ฝนจึงเข้ามาปรับปรุงกระเป๋าให้มีสีสันขึ้น ไม่ใช่สีน้ำตาลหรือดำที่เหมาะกับผู้ใหญ่เท่านั้น แต่จะเพิ่มสีสันและออกแบบให้ดูวัยรุ่นขึ้น ให้คนวัยทำงานสามารถใช้ได้ด้วย ทั้งยังเพิ่มฟังก์ชันในการใช้งาน ซึ่งฝนจะออกแบบกระเป๋าให้ใช้หนังจระเข้เพียงตัวเดียว เพื่อให้ราคาไม่สูงเกินไป และแตกไลน์ไปที่หนังประเภทอื่นๆ อย่างหนังงู และหนังกระต่าย นอกจากนี้ยังมีผ้าพิมพ์ลายสวยๆ ที่ฝนออกแบบเองในแต่ละซีซั่นด้วย" ผู้บริหารสาว เล่าด้วยสีหน้าจริงจัง
ด้วยความที่ต้องคลุกคลีอยู่กับเจ้าจระเข้มาตั้งแต่เด็กนี่เอง ความผูกพันจึงค่อยๆ เหนียวแน่นขึ้น และใช่ว่าจะมีแต่เฉพาะหนังจระเข้เท่านั้นที่ถูกสะสมไว้ในสต็อกของสะสม ทว่าอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเจ้าจระเข้น้อย สาวสวยคนนี้ก็เก็บสะสมไว้หลายชิ้นเช่นกัน ด้วยเป็นของที่มีคุณค่าทางจิตใจ และทำให้หวนระลึกถึงสถานที่ที่ได้มาซึ่งของแต่ละชิ้นได้เป็นอย่างดี อย่างวันนี้ที่เธอนำมาให้ชมกันก็ล้วนเป็นชิ้นพิเศษที่ภูมิใจนำเสนอทั้งสิ้น
"กระเป๋าลายจระเข้ใบนี้ฝนออกแบบเอง มีใบเดียวไม่ซ้ำใครแน่นอนค่ะ ด้านนอกเป็นจระข้หลายตัวออกมานอนอาบแดด ส่วนด้านในเหมือนเป็นสระน้ำให้เขากลับเข้าไปหลังจากอาบแดดเสร็จแล้ว ส่วนกระปุกออมสิน คุณแม่ซื้อให้ค่ะ คือส่วนใหญ่กระปุกออมสินที่เพื่อนๆ ได้กันจะเป็นกระปุกหมู แต่สำหรับบ้านเราคุณแม่เลือกเป็นกระปุกจระเข้มาให้ ซึ่งฝนว่ามันแปลกดี ส่วนชิ้นนี้เป็นหัวกะโหลกจระเข้ ซึ่งมีเหลืออยู่ค่อนข้างมาก คุณแม่เลยคิดว่าจะส่งให้ศิลปินชื่อดังช่วยเพ้นท์ให้ เพื่อเอามาเป็นของตกแต่งได้ อย่างชิ้นที่ฝนเก็บไว้ศิลปินที่ทำงานอยู่จิมทอมป์สันเป็นคนเพ้นท์ให้ ลวดลายละเอียดและประณีตมากค่ะ" เจ้าของจระเข้หลากชนิดเล่าถึงที่มาของของสะสมแต่ละชิ้น พร้อมนำเสนออย่างภูมิใจ
ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น สาวฝนยังอวดจิวเวลรีรูปไข่จระเข้สุดเก๋ เมื่อเปิดออกจะเจอตัวจระเข้อยู่ภายใน เธอออกแบบเองและยังเป็นคอลเลกชั่นพิเศษ ฮอลิเดย์ คอลเลกชั่น ซึ่งทำมาเพียง 20 ชิ้น สำหรับสาวกจระเข้น้อยตัวจริงเท่านั้น
"สำหรับชิ้นสุดท้ายเป็นชุดจานชามลายจระเข้ และชุดตุ๊กตาจระเข้ที่ซื้อจากประเทศอังกฤษค่ะ พอเห็นแล้วชอบเลยซื้อมา แต่ฝนจะเก็บไว้แบบไม่แกะป้ายนะคะ มันเป็นความทรงจำที่จะทำให้เรารู้ว่าชิ้นไหนซื้อมาจากไหน เพราะของพวกนี้ค่อนข้างหายาก ไม่ใช่มีทุกที่ทุกประเทศเหมือนพวกแม็กเน็ต ที่ผ่านมาเราเห็นมันมาในรูปแบบที่ดูน่ากลัว น้อยคนที่จะเลือกมันมาทำเป็นของน่ารักๆ ฉะนั้นเมื่อเห็นที่ไหนฝนก็จะรีบซื้อโดยไม่ลังเลเลยค่ะ" แฟนพันธุ์แท้จะเข้เงินล้านทิ้งท้าย ก่อนพาเดินชมออฟฟิศ พร้อมชี้ชวนให้แหงนมองรูปภาพจระเข้น่ารักๆ ที่ติดรายรอบฝาผนัง ราวกับว่ากำลังหลงไปอยู่ในถ้ำชาละวันขนาดย่อมๆ เลยทีเดียว...