
'แดง'คุมเชิงในที่ตั้งจับตา!เกมอำนาจพิเศษ
'แดง'คุมเชิงในที่ตั้ง จับตา!เกมอำนาจพิเศษ : รายงานพิเศษ
ทุกความเคลื่อนไหวในสังคม ต่างเฝ้ามองสถานการณ์ "24 พ.ย. วันมหาประชาชน" บนถนนราชดำเนิน ซึ่งแกนนำ "เครือข่ายสุเทพ" ตั้งเป้าว่า มวลชนมาเป็นล้าน!
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยว่า ทางหน่วยงานด้านความมั่นคงได้มีการเตรียมการไว้ที่จะประกาศขยายวันประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพียงแต่จะต้องรอดูสถานการณ์การชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย.ก่อน
"สมช.จะมีการประเมินสถานการณ์ตลอดเวลาว่า การเคลื่อนไหวการชุมนุมจะมีการยกระดับ และแสดงพลังอะไร แต่ยอมรับว่าเป็นห่วงมือที่สาม ซึ่งขณะนี้ถือว่ายังมีเงาอยู่" เลขาธิการ สมช.กล่าว
ฝ่ายแกนนำ นปช.ก็ตระหนักถึง "เงา" ที่ว่านี้ ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. และ เหวง โตจิราการ จึงได้โพสต์ข้อความผ่านแฟนเพจว่า "นปช.ไม่ได้มีนัดหมาย 24 พ.ย.2556"
เนื่องจากก่อนหน้านี้ มีข่าวร่ำลือว่า นปช.จะจัดการชุมนุมคู่ขนานกับเวทีราชดำเนินในวันเดียวกัน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง ก็เสี่ยงต่อการเผชิญหน้ากันของมวลชน 2 ฝ่าย
กล่าวสำหรับ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน เพิ่งออกอาการผิดฟอร์ม ในการชุมนุมใหญ่ของ นปช.ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เพราะมีคนเสื้อแดงเข้าร่วมไม่เต็มความจุของสนาม
ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. ยังกล่าวยอมรับว่า เป็นความฉุกละหุกในการนัดหมาย และชุมนุมในวันธรรมดา จึงไม่ถึงเป้า "แสนคน"
คาดว่า มีคนเสื้อแดงมาชุมนุมในสนามราชมังคลาฯ เพียง 2 หมื่นคน โดยก่อนหน้านี้แกนนำ นปช.ประเมินสูง จึงเลือกสนามกีฬาขนาดใหญ่
ข้อมูลจาก กกท.ทราบว่า เต็มความจุสนามก็ราว 6-7 หมื่นคน โดยแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ อัฒจันทร์ ที่จุคนได้ 4.5 หมื่นคน กับพื้นสนามหญ้าและลู่วิ่งประมาณหมื่นกว่าคน
พอถึงวันนัดหมายจริงๆ กลับมากันไม่เต็มพื้นสนาม และบนอัฒจันทร์ก็นั่งกันแบบหลวมๆ สร้างความหงุดหงิดให้แก่แกนนำ นปช.เป็นอย่างมาก
5 ปีที่แล้ว "วีระ-จตุพร" จัดเวที "ความจริงวันนี้สัญจร" ในวันที่ 1 พ.ย.2551 โดยเนรมิตสนามราชมังคลากีฬาสถานเป็นเวทีปราศรัยขนาดยักษ์ และมีคนเสื้อแดงมาเต็มความจุของสนาม
เท่าที่ตรวจสอบข้อมูล พบว่า คนเสื้อแดงที่มาร่วมชุมนุมกว่าร้อยละ 80 มาจากภาคอีสาน และภาคเหนือ โดยการนำพาของ ส.ส.เพื่อไทย
ส่วนคนเสื้อแดงจากภาคกลาง ที่เดินทางสะดวกที่สุด กลับมาร่วมชุมนุมน้อย พร้อมทั้ง ส.ส.เพื่อไทยในภาคกลางก็ไม่สนับสนุนการนำมวลชนเข้าร่วมชุมนุมเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
ว่ากันว่า แกนนำ นปช.แสดงความไม่พอใจต่อ ภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ที่ไม่กระตืนรือร้นในการจัดเวที "นปช.-เพื่อไทย ปกป้องประชาธิปไตย" ณ สนามราชมังคลาฯ
แหล่งข่าวกล่าวว่า แกนนำพรรคเพื่อไทยไม่ต้องการให้มีการชุมนุมในเขตกรุงเทพฯ เพราะเกรงว่าจะเกิดการปะทะกัน ระหว่างคนเสื้อแดงกับ "มวลชนเป่านกหวีด" และจะตกเป็น "เหยื่อ" สถานการณ์ที่ฝ่ายตรงข้ามขุดบ่อล่อปลาเอาไว้ จึงใส่ "เกียร์ว่าง" ในการระดมคนมากรุงเทพฯ
ที่ปฏิเสธไม่ได้ คือความขัดแย้งของ "ส.ส.เพื่อไทย" กับ "แกนนำ นปช." กรณีนิรโทษกรรมสุดซอย ยังเป็นรอยร้าว และร้าวลึก
วันปิดการชุมนุมที่ราชมังคลาฯ "ธิดา" ประธาน นปช. จึงอธิบายความถึงเหตุที่ต้องชุมนุมว่า "เราจำเป็นที่จะต้องแสดงพลังสั่งสอนให้คนจำนวนหนึ่งที่เวทีราชดำเนินรู้ว่า เขาไม่ใช่ประชาชนตัวจริง..วันนี้ประชาชนต่อประชาชน จะไม่ใช่เป็นความขัดแย้ง เราคิดแตกต่างกันได้ แต่ไม่จำเป็นต้องมารบราฆ่าฟันกัน"
"ธิดา" ได้เผยถึงยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหวเฉพาะหน้า คือเร่งชี้แจงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้มวลชนนำกลับไปเป็น "การบ้าน" ขยายมวลชน ในการเคลื่อนไหวโอกาสต่อไป
ประเมินกันว่า นปช.จะจัดชุมนุมใหญ่อีกครั้งในช่วงกลางเดือน ธ.ค. โดยมีเป้าหมายกดดัน ป.ป.ช. ที่รับลูกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ถอดถอนประธานรัฐสภา, ประธานวุฒิสภา ส.ส. และ ส.ว. 310 คน
ด้านเวที กลุ่มภาคีพลังประชาชน (ภปช.) และกลุ่มโกตี๋ เรดการ์ด พร้อมวิทยชุมชนเสื้อแดง ได้จัดเวทีปกป้องรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่อนุสาวรีย์ปราบกบฏ หลักสี่ ได้ออกแถลงการณ์ไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ แต่ไม่นำมวลชนเคลื่อนออกไปเผชิญหน้ากับกลุ่มมวลชนราชดำเนิน
ส่วน ขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร แถลงว่า จะยุติการที่จะนำคนไปปกป้องสถานที่ราชการ แต่จะใช้เปิดเวทีปกป้องรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 23 พ.ย.นี้ ที่ทุ่งศรีเมือง อุดรธานี ซึ่งเวทีของชมรมคนรักอุดร "ขวัญชัย" จะยอมให้ ส.ส.อุดรธานีขึ้นเวทีคนเดียวคือ ศราวุธ เพชรพนมพร ส.ส.เขต 1
รายงานข่าวแจ้งว่า มีการปล่อยข่าวเรื่อง "อำนาจพิเศษ" กับ "แผนรัฐประหาร" ในกลุ่มคนเสื้อแดง ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค ทำให้แกนนำ นปช. และกลุ่มแดงอิสระ ต่างเรียกร้องให้มวลชนอยู่ที่ในที่ตั้ง และเฝ้าระวังเหตุแทรกซ้อน
"ธิดา" ประธาน นปช. จึงย้ำให้รวมพลในที่ตั้ง ไม่ใช่เผชิญหน้า เนื่องจากฝ่ายต่างๆ ต้องการล้มรัฐบาลและประชาธิปไตย โดยเป้าหมายของ 3 กลุ่มที่ชุมนุมไล่รัฐบาลนั้นแตกต่างกัน แต่มีจุดร่วมคือ เพื่อให้มีการจลาจล โดยหวังผลจากการเปลี่ยนแปลงแบบนอกระบบ
ในคำปราศรัยของ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ บนเวทีที่ราชมังคลาฯ ตอนหนึ่งที่ว่า ยังต้องสู้ต่อ ชกต่อกันไป อีกสักพักหนึ่ง ระฆังแก้รัฐธรรมนูญหมดยกแล้ว ต่อไปนี้ ระฆังการต่อสู้เพื่อปกป้องประชาธิปไตย เพื่อต่อต้านอำนาจนอกระบบดังขึ้นแล้ว
ดังนั้นยุทธการตาต่อตา ฟันต่อฟัน จึงยังไม่มีสัญญาณออกมาจากคนเสื้อแดง แต่วันหน้าไม่มีใครเดาได้ และสถานการณ์ 24 พ.ย. จะเป็นโจทย์สำคัญของแกนนำ นปช.
.............................
(หมายเหตุ : 'แดง'คุมเชิงในที่ตั้ง จับตา!เกมอำนาจพิเศษ : รายงานพิเศษ)