
เพาะกาย(อีก)ความท้าทายของ'จริง วรางคณา'
ขอเวลานอก : เพาะกาย(อีก)ความท้าทายของ 'จริง วรางคณา' : กอบแก้ว แผนสท้าน...เรื่อง / ธนาชัย ประมาณพาณิชย์...ภาพ
การสร้างกล้ามเนื้อไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ จะขึ้นมาได้เอง ไม่ใช่ว่าเรากินอะไรเหมือนเดิม ทำตัวเหมือนเดิม จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เคยชิน
ความสุขของการท่องเที่ยวสามารถสัมผัสได้แม้อยู่ในระหว่างเดินทางโดยไม่ต้องรอให้ถึงจุดหมาย เฉกเช่นเดียวกัน ความสุขอันเกิดจากการสร้างความฟิตให้กล้ามเนื้อด้วยการ "เพาะกาย" ในระหว่างรอจังหวะเวลาไปทำกิจกรรมสุดโปรดอย่างการ "ปีนเขา" ของทายาทอันดับสองของบริษัทยูเนี่ยนแพน เอ็กซิบิชั่น จำกัด "จริง" วรางคณา จิตศักดานนท์ ก็ทำให้เธอฟิน!!...ได้ทุกวัน
ภายใน "เฮลมี ฟิตเนส ชั้น 3 อาคารเอกมัยเมดิเพล็กซ์ " นักบริหารขาลุย เปิดฉากเล่าให้ฟังถึงปัจจัยสองประการที่ทำให้เธอต้องห่างจากการปีนแล้วเดินเข้ายิมเพาะกายตามคำชักชวนของก๊วนเพื่อนสนิท ประการแรก ผาจำลองที่ใช้บริการอยู่ประจำเกิดเหตุไฟไหม้ และสองเป็นจังหวะเดียวกับตัวเองเพิ่งเปิดบริษัท เอ็ม ดับบลิว อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด ทำธุรกิจนำเข้าเครื่องสำอางยี่ห้อบีลิฟ จึงต้องทุ่มเทเวลาให้กิจการใหม่แกะกล่องของตัวเองจนแทบไม่มีเวลาว่างได้เดินทางไปทำกิจกรรมสุดโปรดที่ต่างจังหวัด
"จริงๆ แล้วชอบการปีนเขา ปีนอยู่ที่กระบี่ และเขาย้อย จ.เพชรบุรี รวมถึงการปีนผาจำลองในกรุงเทพฯ แต่บังเอิญผาจำลองที่สำหรับไปซ้อมปีนอาทิตย์ละ 2-3 วันนั้น เกิดเหตุไฟไหม้ ทำให้ไม่มีกิจกรรมทำในช่วงที่ปิดซ่อมแซม จึงหันมาเล่นเพาะกายแทนประมาณ 3 เดือนแล้ว ถือเป็นกิจกรรมใหม่ล่าสุด หลงใหลรองจากปีนเขา ถึงแม้จะชอบปีนเขามากกว่า เพราะ เสน่ห์ของมันคือทำให้เราสงบ เราขึ้นคนเดียวใช้สมาธิ ส่วนการเข้ายิมเพาะกายก็สนุกไปอีกแบบ อบอุ่นมีเทรนเนอร์คอยดูแลเต็มไปหมด เป็นอีกอารมณ์หนึ่ง แต่ที่สุดแล้วหลังจากเล่นเพาะกายปรากฏว่าทำให้ปีนเขาได้ดีขึ้น สนุกขึ้น เพราะช่วยสร้างกำลังวังชาให้เราด้วย มันจะบาลานซ์กันได้ โดยเฉพาะการดึงตัวเองขึ้นไปบนหน้าผา เราไปได้สูงขึ้น อย่างปกติโหนมือเดียวค้างบนผามือเราหลุดบ่อย พอมาเล่นเพาะกายได้สองอาทิตย์ เรากลับไปอยู่ในท่านั้นได้นานขึ้น แปลว่า ความแข็งแรงเพิ่มขึ้น มันเอื้อต่อการปีนผา ก็เลยคิดว่าน่าจะไปต่อได้ดี" ลูกสาวคนที่สองในจำนวน 4 พี่น้องของ ดร.วีระเดช-สุรี จิตศักดานนท์ นำร่องเรื่องเพาะกายก่อนขอเวลาเตรียมตัวเข้ายิม
เพราะบุคลิกเป็นคนคล่องแคล่วอีกทั้งค่อนข้างใจร้อน "จริง" วรางคณา สารภาพว่านี่อาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เธอหลงใหลการเพาะกาย เนื่องจากไม่ต้องใช้เวลานานเหมือนเช่นกีฬาชนิดอื่นๆ ขณะเดียวกันก็ได้เล่นรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ด้วย
"มีกีฬาหลายประเภทที่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ เช่น โยคะ แต่สำหรับจริง มองว่าต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล ต่างจากการเข้าคอร์สเพาะกาย เขาจัดเป็นแพตเทิร์นไว้เลย แขน ไหล่ อก ขา แล้วเวียนกันเป็นวงจร ซึ่งใช้เวลาค่อนข้างเป๊ะคือ 1 ชั่วโมงจบ แค่ตัวเราพยายามมาให้ครบ 3-4 ครั้งต่ออาทิตย์ พอมาเล่นตรงนี้รู้สึกเวิร์ก แขนขึ้นเร็วมาก ไหล่เห็นชัดมาก พอยกแขนปุ๊บไหล่เห็นชัด สรุป เห็นผลเร็ว ใช้เวลาไม่นาน มีเทรนเนอร์ประกบ เลยรู้สึกว่าเล่นต่อไปได้ อีกหนึ่งเหตุผลหนึ่งคือมีกลุ่มเพื่อนไปเล่นประจำที่นี่ เราก็ไม่เหงา ไปเล่นมาแล้วอบอุ่น บรรยากาศก็โอเค ไปแล้วเรารีแลกซ์" สาวผู้รักสังคมให้เหตุผลพร้อมกับยกอีกหนึ่งข้อดีว่าของเล่นเพาะกาย คือไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก เหงื่อออกน้อยมาก บางครั้งหากรีบมีงานต้องไปต่อยังสามารถใช้ชุดสวยๆ แต่งหน้า ติดขนตามา ไดร์ผม หิ้วชุดราตรีมาเล่นได้เลย ส่วนเรื่องอุปกรณ์มีแค่รองเท้ากีฬาหากวันนั้นต้องเล่นคาดิโอ และถุงมือก็เพียงพอแล้ว
และถึงแม้ว่าการเพาะกายจะใช้เวลาเพียงไม่นานก็เห็นผล ทว่าในระหว่างนี้ผู้เล่นต้องปรับพฤติกรรมตัวเองตามกำหนดของเทรนเนอร์อย่างเคร่งครัด ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ในช่วงแรกถึงกับเครียดจนแอบถอดใจ
"การสร้างกล้ามเนื้อไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ จะขึ้นมาได้เอง ไม่ใช่ว่าเรากินอะไรเหมือนเดิม ทำตัวเหมือนเดิม จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เคยชินเยอะมาก มากว่ากีฬาอื่น โดยเฉพาะการทานอาหารต้องเปลี่ยนหมดเลย เริ่มจากต้องกินโปรตีนหลังจากใช้งานร่างกายเสร็จปุ๊บ ส่วนอาหารประเภทอื่นต้องไดเอ็ทตามสูตรของเขา ต้องกินทุกสามชั่วโมง มื้อเช้าหนักสุด มื้อเย็นเบาสุด นอนให้เพียงพอและห้ามดื่มแอลกอฮอล์ แต่ยังทำไม่ได้ เครียดมาก สารภาพกับครูใหญ่เลยว่าให้เข้าสูตรไหนก็ได้แต่สูตรงดเหล้านี่ทำไม่ได้ กล้ามเนื้อขึ้นช้ากว่าคนอื่นก็ยอม เรียกว่า ไม้แก่ดัดยาก เพราะหนึ่งต้องเปลี่ยนอาหาร สองต้องเปลี่ยนพฤติกรรมด้วย เราทำงานเยอะมีหลายบริษัทต้องดูแล วิ่งไปโน่นไปนั่นไหนจะต้องวิ่งมายิมอีก เทรนเนอร์แนะว่าให้ลองเริ่มต้นจากปรับพฤติกรรมการเข้ายิม 4 วันต่อ 7 วัน พอปรับได้แล้วจึงค่อยๆ ปรับเรื่องการกิน แต่เราจะดีใจในวันที่เราเห็นผล" สาวรักปาร์ตี้สารภาพพร้อมส่งเสียงหัวเราะกังวาลใสตามสไตล์สาวอารมณ์ดี
อีกสิ่งหนึ่งที่ "นักบริหารสาว...ดีกรีปริญญาโทสองใบจากเมืองผู้ดี" ได้จากกิจกรรมดังกล่าวนี้จนสามารถนำไปเชื่อมโยงกับการทำงานประจำของตัวเองแม้ไม่ใช่ทางตรง นั่นคือ สอนให้เธอรู้จักการวางแบบแผนชีวิต
"จากการต้องวิ่งเข้าฟิตเนส 4 ครั้งต่อสัปดาห์ทำให้เราจัดการอะไรได้เก่งขึ้นด้วย อาจจะเพราะว่าทำให้จัดสรรเวลาหรือการปรับเปลี่ยนตารางเวลาของตัวเองเก่งมากขึ้น เพราะกิจกรรมเราเยอะขึ้น บริษัทของตัวเองก็เปิด ในขณะที่งานของคุณพ่อที่ยูเนี่ยนแพลนก็ยังช่วยอยู่ ไหนจะมีเพาะกาย ไหนจะมีปีนเขาอีก ถามว่าตอนที่ยังไม่เล่นกีฬาหนักขนาดนี้และไม่ได้ทำงานเยอะๆ รู้สึกว่าจัดสรรตัวเองลำบากกว่านี้ ทุกวันนี้ทำให้ได้เป๊ะๆ เลย อย่างงานบริษัทคุณพ่อเข้าไปช่วยตั้งแต่เช้าถึงบ่าย เสร็จแล้ววิ่งมาที่บริษัทตัวเอง แล้วต่อด้วยฟิตเนส ส่วนการปีนเขาเราต้องรู้ว่าจัดการอย่างไร ไม่เช่นนั้นเราเองจะพังทุกอย่างเลย"
นอกจากเตรียมความแข็งแรงให้ร่ายกายฟิตแอนด์เฟิร์มแล้ว ผู้บริหารขาลุย กระซิบว่าอีกหนึ่งความหวังหลังจากเข้าคอร์สเพาะกาย นั่นเป็นเพราะเธอแอบหวังว่าอยากได้หน้าท้องซิกแพ็ก ถึงหลายคนทักว่าหากเลิกเล่นวันใดกล้ามเนื้อที่เคยฟิตปั๋งจะหย่อนคล้อยห้อยต่องแต่ง
"หากถามว่ากลัวไหม คงไม่ถึงกับกลัว เป็นความกังวลใจนิดเดียว แต่จริงคิดว่าโครงสร้างของเราเป็นอย่างไร อย่างถ้าเล่นกีฬาแล้วกล้ามเนื้อใหญ่ขึ้น กระดูกไม่ได้ใหญ่ขึ้น สมมุติว่าถ้าเปลี่ยนใจอยากกลับมาร่างเพรียวเหมือนเดิม เทคโนโลยีสมัยนี้มีวิธีอยู่แล้ว เพราะโครงสร้างที่อยู่ด้านในไม่เปลี่ยน เปลี่ยนเฉพาะกล้ามเนื้อ เราอยากสวยต้องสวยอย่างฉลาด ต้องสู้เต็มที่เพื่อความสวย ส่วนเป้าหมายแรกของจริง คือหน้าท้องซิกแพ็กแต่ไม่ต้องถึงกับขนาดมาดอนนา ส่วนกล้ามเนื้อแขนเป็นเป้าหมายที่สอง นอกจากนี้ก็น่าจะเป็นส่วนขาอยากให้พองดูมีกล้ามเนื้อชัดขึ้น" สาวรักความท้าทายให้แนวทางทิ้งท้ายก่อนขอตัวไปสร้างกล้ามเนื้อให้ร่างกาย
----------------------
(ขอเวลานอก : เพาะกาย(อีก)ความท้าทายของ 'จริง วรางคณา' : กอบแก้ว แผนสท้าน...เรื่อง / ธนาชัย ประมาณพาณิชย์...ภาพ)