ข่าว

'แม่น้องเกด'ไม่เอา!นิรโทษเหมายกเข่ง

'แม่น้องเกด'ไม่เอา!นิรโทษเหมายกเข่ง

21 ต.ค. 2556

'แม่น้องเกด'แถลงค้าน'พ.ร.บ.นิรโทษฯ'เหมายกเข่ง พร้อมแนะ'นายใหญ่'หัดทำใจเย็นๆ ด้าน'หมอเหวง'ลั่นไม่เอาด้วย เชื่อสุดท้าย'พท.'หวนใช้ร่าง'วรชัย'

                21 ต.ค. 56 เมื่อเวลา 13.00 น. กลุ่มญาติผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ทางการเมือง พ.ศ.2553 นำโดยนางพะเยาว์ อัคฮาด มารดาของน.ส.กมนเกด อัคฮาด นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ บิดานายสมาพันธ์ ศรีเทพ ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่ม นปช.เมื่อปี 53 นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานกรรมการญาติพฤษภา 35 นายสุนัย ผาสุก ผู้ประสานงานที่ปรึกษาองค์กรฮิวแมนไรต์วอตช์ ประจำประเทศไทย ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ของกลุ่มญาติผู้สูญเสียฯ

                โดยนางพะเยาว์ กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม แก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง ที่มีนายสามารถ แก้วมีชัย ประธานกรรมาธิการ เป็นประธานการประชุม ได้มีมติแก้ไขเนื้อหาในมาตรา 3 ของร่างเดิมที่นายวรชัย เหมะ ส.ส.พรรคเพื่อไทยและคณะเสนอ ซึ่งทางกลุ่มญาติผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ทางการเมือง พ.ศ.2553 มีความเห็นว่า การแก้ไขข้อความในร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมดังกล่าว เป็นที่ชัดเจนว่าพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นกรรมาธิการเสียงข้างมากมีเจตนาที่จะเอื้อประโยชน์ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แลกเปลี่ยนกับการนิรโทษกรรมทหารที่กระทำความผิดในการสังหารหมู่ประชาชน ตลอดจนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลและประธานศูนย์อำนวยการเยียวยาสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ในขณะนั้น อย่างไรก็ตาม การแก้ไขข้อความดังกล่าว ยังแสดงให้สังคมเห็นว่าพรรคเพื่อไทยไม่เคยฟังเสียงประชาชน โดยเฉพาะญาติผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง

                นางพะเยาว์ กล่าวต่อว่า การแก้ไขข้อความดังกล่าว เน้นย้ำความสงสัยของสังคมต่อพรรคเเพื่อไทยอีกครั้ง ต่อข้อครหา เรื่องการดำเนินการตามใบสั่ง ความมุ่งหวังที่จะนำ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านโดยไม่คำนึงถึงวิธีการ เพิกเฉยต่อกระบวนการยุติธรรม ขณะเดียวกันเป็นที่น่าสังเกตว่า นายอภิสิทธิ์ กรรมาธิการเสียงข้างน้อยและเป็นผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกลับแสดงเจตนารมณ์ว่าต้องการพิสูจน์ตัวเองในกระบวนการยุติธรรม แม้จะสามารถมองว่าเป็นเทคนิคทางการเมือง ด้วยเหตุนี้ทางกลุ่มญาติผู้เสียหายฯ จึงขอเสนอต่อรัฐบาลอันมีพรรคเพื่อไทยเป็นเสียงข้างมาก ดังนี้ 1.รัฐบาลพรรคเพื่อไทยต้องฟังเสียงประชาชนในการแก้ไขข้อความในร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับความผิดต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ดังที่ศาลอาญาได้มีคำสั่งการไต่สวนการตาย กรณีนายพัน คำกอง นายชาญณรงค์ พลศรีลา นายชาติชาย ซาเหลา ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ รวมถึงกรณี 6 ศพ วัดปทุมฯ​ว่า เหตุและพฤติการณ์ที่ตายคือ ถูกลูกกระสุนปืน ซึ่งยิงจากอาวุธของเจ้าหน้าที่ทหาร อย่างไรก็ตาม กลุ่มญาติ ยินดีที่จะสนับสนุนร่างนิรโทษกรรมใดใดนั้น จะมีผลต่อการนิรโทษกรรมประชาชนอันเกี่ยวเนื่องจากเหตุการณ์ทางการเมืองเท่านั้น

                นางพะเยาว์ กล่าวต่ออีกว่า 2.รัฐบาลพรรคเพื่อไทยต้องเร่งรัดมาตรการทางนโยบายในการให้นักโทษการเมืองได้รับสิทธิในการประกันตัวอันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ต้องสงสัยตามหลักสิทธิมนุษยชน 3.รัฐบาลพรรคเพื่อไทยต้องมีมาตรการเร่งรัดกระบวนการยุติธรรมกับคดีสังหารหมู่ประชาชน 4.รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะต้องย้ายนายธาริต เพ็งดิษฐ์ จากตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ และให้พ้นจากหน้าที่หัวหน้าคณะผู้สอบสวนกรณีเหตุการณ์สังหารหมู่ประชาชน ปี 53 เนื่องจากเป็นผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเหตุการณ์ดังกล่าว 5.รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะต้องจัดตั้งคณะทำงานในการเร่งรัดกระบวนการยุติธธรรมในคดีสังหารหมู่ประชาชน ประกอบด้วยบุคลากรจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการ แพทย์ และผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมรวดเร็วขึ้น

                นอกจากนี้ นางพะเยาว์ ยังได้แถลงอีกว่า ทางเราขอคัดค้านการนิรโทษกรรมแบบเหมายกเข่ง เนื่องจากการเหมายกเข่งเป็นที่ยอมรับไม่ได้ และขอถามว่าการนิรโทษแบบเหมายกเข่งทำเพื่ออะไร ในเมื่อนายอภิสิทธิ์ นายสุเเทพ ขอพิสูจน์ตัวเองในกระบวนการยุติธรรม แล้วจะนิรโทษให้ทำไม ตนไม่เข้าใจ ถ้าจะนิรโทษกรรมตนขอเสนอให้นิรโทษกรรมแต่ประชาชนล้วนๆ และไม่ต้องอ้างว่า ฝ้ายค้านไม่ยอม เพราะมีหลายคดีมีเรื่องอาวุธ เผาบ้านเมือง ตนคิดว่าทำได้ เพราะรัฐบาลเป็นเสียงข้างมาก ขนาดแก้ไข พ.ร.บ.นิรโทษกรรมยังทำได้ ทั้งนี้ ขอให้นิรโทษฯแต่ประชาชน ที่เหลือที่ไม่เกี่ยวกับประชาชนให้แขวนไว้เลย อย่างไรก็ตาม คนที่รับผิดชอบในเหตุการณ์ต้องเป็นทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล

                " สิ่งที่อยากฝากไปถึงใครบางคน ถ้ากรรมาธิการหรือสภายังดึงดันที่จะออกกฎหมายนิรโทษกรรมแบบเหมายกเข่ง ทั้งสภาจะกลายเป็นจำเลยของสังคม และฝากบอกถึงนายใหญ่ว่า อย่าพึ่งใจร้อน อย่างพึ่งรีบกลับ ใจร้อนมากพลาดไปหลายหนแล้ว ตอนนี้เราเป็นรัฐบาลแล้วใจเย็นๆ ทั้งนี้ ดิฉันได้เข้าไปเยี่ยมนักโทษในเรือนจำ ซึ่งพวกเขาก็ยังพูดว่า พวกเขาเป็นเหยื่อ เป็นตัวประกัน และถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้กลับ เขาก็ไม่ได้ออกจากเรือนจำ ตกลงตอนนี้ พวเขาเป็นเหยื่อไปจริงๆ แล้วใช่ไหม โดยทำให้ตนสะท้อนเห็นว่า พวกเขารู้ตัวแล้วว่าคืออะไร อย่างไรก็ตาม ขอฝากไปถึงคนเสื้อแดงที่ตั้งคำถามว่า ทำไมกลุ่มญาติฯ ต้องออกมาเคลื่อนไหว ทั้งๆ ที่ได้เงินไปแล้ว 7.5 ล้านบาท ดิฉันอยากบอกว่าเงิน 7.5 ล้านบาทที่มอบให้ผู้เสียชีวิต เป็นเงินภาษีของประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช้เงินของ พ.ต.ท.ทักษิณ” นางพะเยาว์ กล่าว

                ขณะที่ นายพันธ์ศักดิ์ กล่าวว่า การผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ก็เหมือนที่บรรณาธิการเว็บไซต์ข่าวแห่งหนึ่งระบุว่า เป็นการยิงซ้ำคนตายอีกรอบ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นรอบที่เท่าไรแล้ว และก็ได้พิสูจน์ด้วยการกระทำว่า ข้อสงสัยเรื่องใบสั่งเพื่อพา พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้าน หรือคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ว่าพี่น้องเสื้อแดงมาส่งผมถึงฝั่งแล้ว ที่เหลือผมจะไปต่อเอง ซึ่งความหมายก็จะแดงออกมาเรื่อยๆ

                ด้ายนายสุนัย กล่าวว่า การนิรโทษกรรมต้องมีเงื่อนไขว่าการกระทำใดสมควรได้นิรโทษและการกระทำใดที่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้การเรียกร้องของญาติที่คัดค้านการนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง มักถูกกล่าวหาว่า เป็นคนเสียงข้างน้อย ที่แค้น ตนอยากบอกว่า การเรียกร้องไม่ใช่เรื่องส่วนตัวที่ไม่พอใจ แต่เป็นเรื่องการเรียกร้องของหลักการประชาธิปไตย คือ การวางบรรทัดฐานของนิติธรรม เมื่อทำผิดไปแล้วต้องมีการยอมรับผิด

                ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 24 ต.ค.นี้ เวลา 11.00 น. กลุ่มญาติฯ จะรวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนจะเดินขบวนไปที่รัฐสภา เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ดังกล่าวต่อคณะกรรมาธิการ

                

 

"หมอเหวง"ลั่น ไม่เอา"พ.ร.บ.นิรโทษกรรม"เชื่อสุดท้ายเพื่อไทยหวนใช้ร่าง"วรชัย"


 
                น.พ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยและแกนนำนปช. กล่าวถึงกรณีกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม มีมติเสียงข้างมากให้นิรโทษกรรมทุกฝ่ายในเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง รวมถึงแกนนำผู้สั่งการสลายการชุมนุมด้วย ว่า คนเสื้อแดงยืนยันขอยึดร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย ที่ไม่ให้นิรโทษกรรมนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ที่สำคัญร่างนิรโทษกรรมที่กรรมาธิการฯ เสียงข้างมากแก้ไขใหม่มีการแปรญัตติขัดกับหลักการเดิม เพราะไปนิรโทษกรรมแกนนำผู้สั่งการด้วย ขัดหลักการเดิมที่ให้นิรโทษกรรมเฉพาะประชาชนเท่านั้น ดังนั้น เนื้อหาที่แก้ไขใหม่ถือว่าไม่ถูกต้องตามระเบียบ ทำไม่ได้

                "ทั้งนี้ เชื่อว่าสุดท้ายแล้วพรรคเพื่อไทยจะยอมทบทวนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยกลับไปใช้ร่างของนายวรชัยตามเดิม เท่าที่คุยกัน ขณะนี้ มี ส.ส.หลายสิบคนไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายที่กรรมาธิการฯ เสียงข้างมากแก้ไขใหม่ และสนับสนุนให้ใช้ร่างของนายวรชัย เชื่อว่าพรรคคงฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนและส.ส.ในเรื่องนี้อยู่ หากสุดท้ายแล้วนายอภิสิทธิ์กับนายสุเทพได้รับการนิรโทษกรรมจริงๆ คนเสื้อแดงไม่เอาด้วยแน่ พรรคต้องเคารพเจตนารมรณ์คนเสื้อแดงที่ต้องการให้ดำเนินคดีกับแกนนำ ถ้าไม่เคารพเจตนารมณ์ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นอย่าละเมิดเจตนารมณ์คนเสื้อแดง" น.พ.เหวง กล่าว