ข่าว

เคล็บลับ'น้องครีม'เสื้อขาวนัดชิงแชมป์!

เคล็บลับ'น้องครีม'เสื้อขาวนัดชิงแชมป์!

19 ต.ค. 2556

สปอร์ต คม วีกเอนด์ : เปิดเคล็บลับ 'น้องครีม' บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ เสื้อขาวนัดชิงมักแชมป์

 

                             หากพูดถึงนักตบลูกขนไก่สาวไทยในยุคนี้ ถ้ายกเว้น "น้องเมย์" รัชนก อินทนนท์ ที่ติดลมบนกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ของวงการกีฬาไทยเต็มตัว หลังคว้าแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จแล้ว ชื่อของ "น้องครีม" บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ น่าจะเป็นดาวรุ่งอีกหนึ่งคนที่ถูกกล่าวขวัญ และถูกจับตามองมากที่สุด เพราะมีผลงานในช่วงหลังๆ โดดเด่นเหลือเกิน

                             การคว้าแชมป์มาเลเซีย โอเพ่น เมื่อปี 2012 ต่อด้วยผลงานระดับหรูหราในปีนี้ ได้รองแชมป์ไทยแลนด์ โอเพ่น, แชมป์ออลไทยแลนด์ หรือศึกชิงแชมป์ประเทศไทย ต่อด้วยการได้แชมป์ดัตช์ โอเพ่น รวมถึงการเข้ารอบลึกๆ รายการต่างๆ อีกมากมาย ทำให้หลังจากเข้าสู่การแข่งขันระดับอาชีพเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2011 สิ้นสุดปีด้วยการอยู่อันดับ 190 ของโลก สาวครีม วัย 17 ย่าง 18 ปี ใช้เวลาไม่ถึง 2 ปี กระโดดแบบพุ่งพรวด เคยอันดับดีที่สุดเป็นที่ 17 ของโลก และเป็นมือ 20 ของโลกในปัจจุบัน

                             ที่สำคัญ หากวัดกันในระดับเยาวชน คือ อายุไม่เกิน 19 ปี บุศนันทน์ คือมือ 1 ของโลกคนปัจจุบัน ซึ่งแน่นอนว่า ในการแข่งขันแบดมินตันเยาวชนชิงแชมป์โลก ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ ที่อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก ระหว่างวันที่ 23 ตุลาคม-3 พฤศจิกายนนี้ เธอจะเป็นกำลังสำคัญของไทยในการไล่ล่าตำแหน่งแชมป์ให้คนไทยได้ชื่นใจกันอีกครั้ง

                             ที่มาที่ไปของ "น้องครีม" เป็นอย่างไร ไปติดตามกัน....

 

 

เริ่มเล่นแบดเพราะพ่อ

 

                             "น้องครีม" ที่มีชื่อมาจากคำว่า "ไอศกรีม" หรือ "ไอติม" ตามภาษาบ้านๆ เกิดเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2539 ที่ จ.นนทบุรี เป็นบุตรของนายบุญลือ และนางจีรนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ เริ่มจับแร็กเกตเล่นแบดครั้งแรกเมื่ออายุได้ 7 ขวบ โดยคู่แข่งคนแรกก็คือคุณพ่อนั่นเอง

                             "ปกติพ่อเป็นคนที่เล่นแบดอยู่แล้ว ตอน 7 ขวบ หนูก็ออกไปซ้อมกับพ่อที่หน้าบ้าน และก็ชอบมานับจากนั้น พอตอน 8 ขวบ ช่วงปิดเทอม พ่ออยากให้เรียนรู้วิธีการเล่นแบดที่ถูกต้อง คือให้มีเบสิกในการตี ก็เลยหาไปหาครูเปี๊ยก (ประชิด  มาประเสริฐ)  ที่สโมสรนพวัฒน์ ซ้อมได้ประมาณ 1 ปี โค้ชก็ให้ออกไปแข่งรายการแรก ชิงถ้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดมาตุ ได้ที่ 3 กลับมา ก็เลยมีความมั่นใจ ขยันฝึกซ้อมมาเรื่อยๆ

 

 

ขยับสู่สโมสรใหญ่"บางโพ"-ทีมชาติ

 

                             หลังจากนั้น น้องครีมก็ลงตระเวนแข่งขันเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเรื่อยๆ มีทั้งแพ้และชนะสลับกันไป กระทั่งอายุ 10 ปี ก็ได้ย้ายมาซ้อมและสังกัดกับสโมสรบางโพ ซึ่งถือเป็นทีมยักษ์ใหญ่ของวงการลูกขนไก่เมืองไทย ที่เคยสร้างนักกีฬาทีมชาติอย่าง สมฤทัย เจริญศิริ, พรสวรรค์ ปลั่งเวช รวมไปถึง "น้องพีช" พรทิพย์ บูรณะประเสริฐสุข ที่เป็นขวัญใจส่วนของตัวน้องครีมเอง ซึ่งทำให้ฝีมือการเล่นพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ และจากนั้นอีก 3 ปี ประตูทีมชาติก็เริ่มเปิดต้อนรับน้องครีม ถูกเรียกตัวมาฝึกซ้อมที่ศูนย์ฝึกของสมาคมแบดมินตัน ที่สวนลุมพินี โดยมี 3 ทหารเสือ สมพล คูเกษมกิจ, อุดม เหลืองเพชราภรณ์ และ พ.ท.ศักดิ์ระพี ทองสาริ เป็นทีมงานผู้ฝึกสอน ก่อนที่จะมีการยกทีมย้ายไปซ้อมที่ซอยสุขุมวิท 107 หรือที่ในวงการแบดมินตันขนานนามกันว่าเป็น "ค่ายแบริ่ง" มาจนถึงวันนี้

                             จากการได้ซ้อมกับบรรดารุ่นพี่ที่เป็นทีมชาติชุดใหญ่ ไม่ว่า "ซูเปอร์แมน" บุญศักดิ์ พลสนะ, สุดเขต ประภากมล, สราลีย์ ทุ่งทองคำ ฯลฯ นอกจากจะสร้างความตื่นเต้นดีใจให้เจ้าตัวแล้ว ยังช่วยทำให้ฝีมือของน้องครีมพัฒนารุดหน้าขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งก้าวขึ้นไปติดทีมชาติในระดับเยาวชนในที่สุด

 

 

นั่งแท็กซี่วันละ 400 บาทไปซ้อม

 

                             แม้จะดูเหมือนว่าเส้นทางของ "น้องครีม" กับกีฬาแบดมินตันจะไปด้วยกันเป็นอย่างดี ทว่าหากเจาะลึกลงไปในรายละเอียดแล้ว เส้นทางสู่ความสำเร็จก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่หลายคนคิด ตัวอย่างง่ายๆ คือ เรื่องการเรียนกับการเล่นกีฬา ซึ่งเปรียบเสมือน "ยาขม" หม้อใหญ่ของนักกีฬาหลายๆ รายก่อนหน้านี้ที่มักไปกันไม่รอด ต้องเลือกเอาดีเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่กับน้องครีม เธอเลือกที่จะสู้ เพื่อเอาดีทั้ง 2 อย่างในเวลาเดียวกันให้ได้

                             "ตอนนี้หนูเรียน ม.6 ที่ ร.ร.สวนกุหลาบวิทยาลัยนนทบุรี สายวิทย์-คณิต เกรดเฉลี่ย 3.09 กิจวัตรประจำวันคือ ตื่นนอน 6 โมงเช้าไปเรียนหนังสือ และขอทางโรงเรียนเลิกก่อนเวลาคือ 14.00 น. จากปกติ 16.00-17.00 น. เพื่อไปซ้อมแบดมินตัน นั่งแท็กซี่จากปากเกร็ดไปแบริ่งวันละ 400 บาท จากนั้นตอนเย็น พ่อที่ทำงานอยู่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคก็มารับกลับบ้าน ถามว่าเบื่อมั้ย บอกได้ว่าไม่เบื่อ ชอบและสนุกกับการเล่นแบดมินตันมาก แม้จะต้องเดินทางไปซ้อมไกลมากก็ตาม โชคดีอย่างหนึ่งที่ทางโรงเรียนและเพื่อนๆ ทุกคนเข้าใจ ให้ความช่วยเหลือมาตลอด ส่วนอนาคตนั้นก็อยากติดทีมชาติชุดใหญ่ และอยากเข้าศึกษาต่อที่จุฬาฯ"

 

 

พร้อมตบทุกคู่แข่ง-หวังเหรียญอลป.

 

                             แม้ น้องครีม จะมี "น้องพีช" พรทิพย์ บูรณะประเสริฐสุข เป็นไอดอลในดวงใจ เพราะซ้อมด้วยกันมาตลอดตั้งแต่บางโพ สวนลุมพินี จนถึงแบริ่ง แต่เวลาเดินทางไปแข่งขันต่างประเทศในนามทีมชาติไทย น้องครีมมักจะได้นอนห้องเดียวกับ "น้องเมย์" รัชนก อินทนนท์ เนื่องจากอายุใกล้เคียงกัน (น้องเมย์อายุ 18 ย่าง 19) โดยทั้งคู่ถือเป็นนักแบดคนละสไตล์ คือ น้องครีมจะเป็นพวกลุยแหลกแลกหมัด ขณะที่น้องเมย์จะเป็นแบดชั้นเชิง ตีลากให้คู่แข่งต้องขยับตลอด โดยตัวของน้องครีมเองก็บอกว่า ตอนนี้ยังเป็นรองพี่เมย์อยู่พอสมควร ไม่ว่าเรื่องความแข็งแกร่ง เทคนิค และประสบการณ์ แต่ก็วาดฝันไว้ว่าจะต้องเดินตามรอยที่พี่เมย์สร้างไว้ คือก้าวไปสู่ตำแหน่งแชมป์โลกให้ได้

                             "ส่วนคู่แข่งในระดับนานาชาติ หนูอยากเจอกับนักแบดมินตันทุกๆ คน เพราะว่ามือระดับท็อปๆ ของโลกนั้น แต่ละคนจะมีสไตล์การเล่นที่แตกต่างกัน ดังนั้นตัวเราเองก็ต้องเล่นให้ได้กับทุกคน เพื่อเป็นการวัดความสามารถของตัวเอง ขณะที่เป้าหมายสูงสุดที่ต้องทำให้ได้ก็คือ การเข้าไปเล่นในกีฬาโอลิมปิกเหมือนพวกพี่ๆ ไม่ว่า พี่แมน (บุญศักดิ์), พี่เต่า (สุดเขต), พี่ส้ม (สราลีย์) รวมถึงพี่เมย์ และอยากจะคว้าเหรียญรางวัลกลับมาให้คนไทยมีความสุข

 

 

ย้ำชื่อ "บุศนันทน์" ไม่ใช่ "บุศนันท์"

 

                             ถือเป็นเรื่องแปลกแต่จริงอีกอย่าง ที่ชื่อของ "น้องครีม" มักจะมีคนเขียนผิดจาก "บุศนันทน์" เป็น "บุศนันท์" มาโดยตลอด เช่นเดียวกับนามสกุล "อึ๊งบำรุงพันธุ์" ที่เขียนผิดเป็น "อึ้งบำรุงพันธุ์" บ้าง หรือ "อึ้งบำรุงพันธ์" บ้าง ที่เจ้าตัวแอบกระซิบมาว่า ที่ถูกต้องก็คือ บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ นะจ๊ะ"

 

 

ถือเคล็ด"เสื้อสีขาว"-พระไพรีพินาศ

 

                             หากใครเป็นแฟนประจำของน้องครีม และสังเกตการลงสนามในรายการต่างๆ จะพบว่า หากน้องครีมเลือกใส่เสื้อสีขาวแข่งขัน มักจะประสบความสำเร็จได้แชมป์ ตัวอย่างคือ การได้แชมป์ระดับอาชีพครั้งแรกในชีวิต คือ มาเลเซีย โอเพ่น 2012 ในนัดชิงชนะเลิศกับ ซายากะ ทากาฮาชิ น้องครีมก็ใส่เสื้อสีขาวลงสนาม เช่นเดียวกับการคว้าแชมป์ประเทศไทยในปีนี้ ที่ชนะ "น้องแนต" ณิชชาอร จินดาพล หรือแม้แต่การเอาชนะ กู จวน ของสิงคโปร์ ในแมทช์ที่ได้แชมป์ดัตช์ โอเพ่น เสื้อที่สาวครีมใส่ก็ล้วนเป็นพื้นสีขาวทั้งสิ้น

                             พอถามถึงเรื่องดังกล่าว น้องครีม หัวเราะสดใส ก่อนเฉลยให้ฟังว่า มีพี่ๆ หลายคนบอกว่าถ้าลงเล่นนัดชิงชนะเลิศให้ใส่เสื้อสีขาว เพราะมันถูกโฉลก ก็เลยทำมาตลอด ส่วนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ห้อยคอติดตัวมาตลอด ก็คือ พระไพรีพินาศ ที่ได้รับมาจากคุณต้น เจ้าของคอร์ตบางโพ ตั้งแต่ต้นปี มีผลทางจิตใจ รู้สึกดี แต่ที่เป็นเบื้องหลังจริงๆ ก็คือ กำลังใจจากครอบครัว โค้ช และเพื่อนๆ ทุกคน ที่ทำให้สู้มาตลอด

 

 

โค้ชชมใจแกร่งแต่กายต้องแก้

 

                             ขณะที่ สมพล คูเกษมกิจ อดีตนักตบมือ 1 ทีมชาติไทย พี่ใหญ่แห่งค่ายแบริ่ง กล่าวถึง "น้องครีม" ว่า ถือเป็นนักแบดมินตันที่มีความแข็งแกร่ง มีความมุ่งมั่นสูง แต่ก็ยังมีข้อที่ต้องปรับปรุง คือเรื่องความแข็งแกร่งของร่างกาย และจิตใจที่ต้องนิ่ง ไม่ตื่นเต้นหรือเกร็งในเกมที่การเล่นสูสีมากๆ รวมไปถึงการเข้าตีลูกที่ต้องแม่นยำมากกว่านี้ และที่สำคัญที่สุดคือการตีแก้ไขในแต่ละช็อตในระหว่างเกม ที่จะเป็นการพิสูจน์ว่านักกีฬาจะผ่านขึ้นชั้นไปได้หรือไม่ ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องของประสบการณ์ที่ต้องผ่านเกมระดับใหญ่มากๆ แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าน้องครีมมีการพัฒนาพร้อมที่จะขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติไทยได้อย่างแน่นอน

                             นี่คือเล็กๆ น้อยๆ กับ "น้องครีม" บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ นักตบลูกขนไก่ดาวรุ่งของไทย ที่เราจะได้ชมลีลาของเธออีกครั้ง ในศึกเยาวชนชิงแชมป์โลก ที่จะแม้เจ้าตัวแอบหวังลึกๆ ถึงตำแหน่งแชมป์ แต่ก็ไม่กล้าออกตัวมาก เพราะไม่อยากสร้างความกดดันให้ตัวเองจนเกินไป

 

                             ก็ต้องฝากเป็นกำลังใจให้เธอ...ไปเชียร์กันเยอะๆ แล้วกัน