ข่าว

ชาวพระลับ!รับมือแม่น้ำชีทะลักท่วม

ชาวพระลับ!รับมือแม่น้ำชีทะลักท่วม

13 ต.ค. 2556

ชาวพระลับ!รับมือแม่น้ำชีทะลักท่วม : จิติมา จันพรมรายงาน

               แม้ความกดอากาศสูงจากจีนเริ่มปกคลุมภาคอีสานตอนบน แต่มวลน้ำชีที่ไหลจากจากชัยภูมิ กว่า 800 ลบ.ม.ต่อวินาที ได้เริ่มไหลเข้าสู่ จ.ขอนแก่น โดยเมื่อวันที่ 8 ตุลคม ที่ผ่านมา ได้เอ่อล้นตลิ่งท่วมนาข้าวหลายหมู่บ้าน ในพื้นที่ ต.ท่านางแมว อ.แวงน้อย กว่า 6,000 ไร่ และกำลังไหลเข้าสู่เขต อ.เมืองขอนแก่น  ซึ่งคาดว่าจะถึงเขต ต.พระลับ อ.เมืองขอนแก่น อีกไม่เกิน 3 วัน
 
               ซึ่งทุกปีพอถึงฤดูน้ำหลาก เทศบาลตำบลพระลับถือว่าเป็นเขตที่มีน้ำท่วมซ้ำซาก เพราะหมู่บ้านแห่งนี้เป็นจุดศูนย์รวมน้ำทั้งจากลำน้ำพอง ที่น้ำถูกปล่อยจากเขื่อนอุบลรัตน์ และน้ำจากแม่น้ำชีที่ไหลมาจาก จ.ชัยภูมิ ก่อนจะไหลรวมไปเป็นแม่น้ำชี ต่อไปยัง จ.มหาสารคาม ทำให้ทุกปีชาวบ้านแห่งนี้ต้องติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ประกอบกับมีการแจ้งเตือนชาวบ้านให้เฝ้าระวังของภาครัฐ ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ค่อนข้างวางใจว่าปีนี้ "รัฐ" จะมีการจัดการน้ำได้ดีกว่าทุกปี แต่ก็มีหลายคนยังหวาดผวา เพราะบางครั้งสิ่งที่เกินความคาดหมายมักจะเกิดขึ้นเสมอ
 
               พระอาจารย์สุวรรณ สุวรรณโณ เจ้าอาวาสวัดท่าประทาย หมู่ 16 ต.พระลับ ซึ่งเป็นวัดที่ประสบปัญหาน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง ท่านบอกว่าตั้งแต่อยู่ที่วัดเกือบ 20 ปี น้ำท่วมวัดมาโดยตลอด จนกระทั่งปี 2554 ที่น้ำท่วมสูงและขังนานที่สุด จนเมื่อน้ำแห้งจึงได้ตัดสินใจยกศาลาให้เป็น 2 ชั้นเพื่อหนีน้ำท่วม แต่ปรากฏว่าปีที่แล้วน้ำแล้ง เป็นปีแรกที่น้ำไม่ท่วมวัดท่าประทาย และปีนี้จนถึงตอนนี้มั่นใจว่าน้ำจะไม่ท่วมวัดอีก แม้ว่าจะมีมวลน้ำชีกำลังไหลเข้าเขต จ.ขอนแก่น เนื่องจากเทศบาลตำบลพระลับได้มีการเตรียมตัวรับมือ ก่อสร้างประตูน้ำขนาดใหญ่และติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ไว้หลายจุดที่ผนังฝายห้วยพระ
 
               "แต่ก่อนได้แต่ผวาว่าน้ำจะท่วมต้องเตรียมรับมือ ยกของขึ้นที่สูง ปีนี้ค่อนข้างสบายใจ เชื่อมั่นว่าน้ำไม่ท่วมแน่นอน แต่ที่น่ากังวลตอนนี้แม้ว่าจะมีน้ำในแม่น้ำ แต่ในที่นาซึ่งปลูกข้าวใกล้วัดแทบจะไม่มีน้ำ ไม่มีฝนต้องพึ่งน้ำจากระบบชลประทาน ถ้าน้ำท่วมเข้ามาระยะสั้นๆ ไม่กี่วัน หรือไม่เกินสัปดาห์ ต้นข้าวซึ่งช่วงนี้กำลังตั้งท้องคงจะไม่มีปัญหาและเป็นผลดีด้วยถ้าท่วมแค่ 3-4 วัน" เจ้าอาวาสวัดท่าประทายบอกเล่าในวันที่สายตายังจดจ้องที่แม่น้ำชี และ แม่น้ำพองที่อยู่ติดกับวัด
 
               ในขณะที่  คำตา อาษาศึก ชาวบ้านพระลับวัย 51 ปี ที่เลิกอาชีพทำนาและลูกจ้างโรงงาน หันมาเป็นแม่ค้าขนมครก เล่าให้ฟังว่า ชินกับน้ำท่วมแล้ว เพราะพบเจอทุกปี แต่ไม่ชอบที่จะให้น้ำท่วม แม้ว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลที่มาชดเชยความเสียหาย แต่ไม่คุ้มค่าพอแค่จ่ายค่าพันธุ์ข้าวค่าปุ๋ยเท่านั้น แต่ถ้าปลูกข้าวแล้วขายเองจะได้กำไรคุ้มค่ากว่า ปีนี้ก็หวังว่าน้ำจะไม่ท่วมแต่ก็ไม่ต้องการให้แล้งเหมือนปีที่ผ่านมา ที่ต้องงดทำนาปรังสูญเสียรายได้กันไม่น้อย
 
               "เพื่อนบ้านหลายคนหันมาทำอาชีพแม่ค้า ทำขนมและทำอาหารขายเพื่อสร้างรายได้ นอกเหนือจากทำนามากขึ้น ถ้าน้ำท่วมก็ทำให้เสียรายได้ มีเพื่อนบ้านหลายคนอาจจะชอบเพราะน้ำท่วมมีของแจก มีข้าวอาหารแจกฟรี และบางครอบครัวได้รับเงินช่วยเหลือ แต่ฉันว่าไม่คุ้ม เช่นน้ำท่วมขังเมื่อปี 2554 นานกว่า 2 เดือน พอน้ำลดสภาพบ้านแย่มาก ต้องลงทุนซื้อสีทาบ้านใหม่ ปรับปรุงสภาพใหม่หมด เสียเงินไปเยอะ"
 
               ส่วน สุพรรณ โม้ลี แม่ค้าอาหารปรุงสำเร็จที่ตลาดกลางหมู่บ้าน ซึ่งวันนี้เธอยังยิ้มได้ แต่ไม่รู้วันไหนที่เธออาจจะหุบยิ้ม เพราะปัญหาน้ำท่วม เธอเล่าว่า อยู่ที่บ้านพระคือตั้งแต่เกิด เจอน้ำท่วมบ่อยมาก แต่ที่หนักสุดปี 2521 ปี 2545 และล่าสุดปี 2554 แต่ไม่รู้สึกวิตกกังวลอะไร กลับรู้สึกชิน น้ำท่วมขังนานถึง 2 เดือนก็สามารถอยู่ได้เพราะเทศบาลได้ทำสะพานให้เดิน นอกจากนี้ยังมีการแจกข้าวสารอาหารแห้งให้ตลอด แต่ก็เชื่อว่าปีนี้น้ำคงจะไม่ท่วมแต่ถ้าจะท่วมคงจะแค่ที่ไร่นาไม่สูงถึงหมู่บ้านอย่างแน่นอน
 
               หากแต่เทศบาลตำบลพระลับ ซึ่งเป็นหน่วยงานพื้นฐานในพื้นที่ที่ต้องจัดการและดูแลปัญหาน้ำท่วม ปีนี้ได้มีการเตรียมพร้อม ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างมีระบบ โดย พงศ์ธร นิศาพิทักษ์กุล นายกเทศมนตรีตำบลพระลับ ได้เฝ้าติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เนื่องจากพื้นที่ ต.พระลับ เป็นแอ่งรับน้ำหรือเป็นทางผ่านน้ำทิ้งของ อ.เมืองขอนแก่น ผ่านห้วยพระคือและประจบกับลำน้ำชีและน้ำพอง ซึ่งถ้าน้ำสูงก็จะหนุนกลับเข้ามาห้วยพระคือ ท่วมในพื้นที่ติดลำน้ำ พื้นที่เกษตร และบางครั้งทะลักเข้าท่วมหมู่บ้าน จนเป็นพื้นที่ท่วมซ้ำซากของจังหวัด 

               "ได้มีการประสานงานกับชลประทานอย่างต่อเนื่อง จนขณะนี้มวลน้ำชีจากชัยภูมิกำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ อ.เมืองขอนแก่น ซึ่งเทศบาลได้จัดเตรียมการป้องกันไว้เบื้องต้น โดยเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำไว้จุดสำคัญ ที่บริเวณปากหนองผือทั้ง 2 จุดคือจุดแรกเครื่องสูบขนาด 12 นิ้ว 3 เครื่อง จุดปากหนองผือหนองบัวแก่หรือประตู D10 ตั้งเครื่องสูบขนาด 12 นิ้ว 2 ตัวและจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่ปากห้วยพระคือหรือประตูน้ำ D8 ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 26 นิ้ว 2 ชุด ซึ่งสามารถระบายน้ำนาทีละ 400 ลบ.ม.ต่อเครื่อง"
 
               ระดับน้ำชีที่กำลังไหลเข้าขอนแก่นมีปริมาณใกล้เคียงกับปี 2553 แต่น้อยกว่าปี 2554 ที่น้ำท่วมขังบ้านเรือนประชาชนบ้านพระคือนานถึง 2 เดือน แต่ครั้งนี้เนื่องจากน้ำชีค่อนข้างไหลช้าเนื่องจากฝายต้นน้ำแตกทำให้น้ำกระจายกว่าจะรวมตัวกันได้และไหลมาถึงขอนแก่นต้องใช้เวลาหลายวัน เป็นโอกาสดีทำให้มีเวลาเตรียมตัวรับมือได้เต็มที่

               "ตอนนี้การป้องกันหรือการแก้ปัญหาน้ำในพื้นที่พระลับ แม้ว่าจะมีประตูน้ำ D8 ขนาด 3 บานแต่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาหรือป้องกันได้แบบเต็มรูปแบบ ในการแก้ปัญหาระยะยาวนั้นโครงการโรงสูบน้ำขนาดใหญ่ ก่อสร้างและติดตั้งเครื่องสูบเพื่อผลักน้ำขนาดใหญ่ 26 นิ้ว จำนวน 24 ตัว งบก่อสร้าง 265 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้เรื่องอยู่ที่กรมทรัพยากรน้ำฯ ถ้างบประมาณผ่านคาดว่าจะก่อสร้างและแล้วเสร็จใช้งานได้ในปี 2558 เชื่อว่าจะแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่ ต.พระลับ ได้อย่างถาวร"
 
               ส่วนการจัดการและการจราจรน้ำปีนี้ โดยเขื่อนอุบลรัตน์เองนั้น  ภิญโญ ทองสิงห์ รอง ผอ.ฝ่ายบริหาร โรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แจ้งไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าการเร่งระบายน้ำจากเขื่อนเพื่อพร่องอ่างรองรับน้ำจากลำน้ำต่างๆ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยเปิดประตูน้ำแค่ 2 บาน ปล่อยน้ำ วันละ 20 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ไม่กระทบต่อปริมาณลำน้ำพอง และยังเป็นการสับหลีกน้ำก่อนน้ำชีจากชัยภูมิจะมาถึงได้อย่างลงตัว

               โดยสถานการณ์น้ำในพื้นที่ขณะนี้ สงวน กันทะวงศ์ ผอ.ศูนย์อุทกวิทยาและบริหารน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน สำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กรมชลประทาน ระบุว่า ระดับน้ำชี ที่ อ.มัญจาคีรี อยู่ที่ระดับ 11.46 ม. สูงกว่าตลิ่ง 46 ซม. ปริมาณน้ำ 953 ลบ.ม.ต่อวินาที เนื่องจากมวลน้ำได้ไหลเข้าแก้มลิงธรรมชาติหลายแห่งทั้งบึงกุดเค้าที่ อ.มัญจาคีรี ซึ่งมีความจุเดิม 22 ล้าน ลบ.ม. หนองกองแก้ว อ.ชนบท ความจุเดิม 13 ล้าน ลบ.ม. แก่งละว้า อ.บ้านไผ่ ความจุเดิม 36 ล้าน ลบ.ม. ทำให้ระดับน้ำลดลงไปคาดว่าจะถึงอีกประมาณ 2 วันมวลน้ำจะผ่านเข้าถึงสถานีตรวจวัดน้ำท่าพระ กุดกว้าง อ.เมืองขอนแก่น ซึ่งจุได้ 480 ลบ.ม.ต่อวินาที คาดว่าน้ำจะลดทอนเหลือประมาณ 600 ลบ.ม.ต่อวินาที ขณะนี้ที่ท่าพระ ระดับน้ำเริ่มขยับขึ้นชั่วโมงละ 1-2 ซม.
 
               ซึ่งเมื่อไปถึงเขต ต.พระลับ ห้วยพระคือ ซึ่งปัจจุบันได้ทำประตูน้ำและติดตั้งเครื่องสูบน้ำน่าจะแก้ปัญหาได้ระดับหนึ่ง ทั้งนี้ต้องดูด้วยว่าระดับน้ำจากลำน้ำพอง ที่จะถูกกั้นด้วยน้ำชี ถ้ามากก็อาจจะย้อนกลับ ประกอบกับระดับน้ำชีที่ถูกลดทอนไปด้วยแก้มลิง ไม่มีน้ำเติมเข้าอีก และได้มีการเปิดประตูของฝายในเขตมหาสารคามทำให้นำไหลได้ดีขึ้นถ้าเกิดมีน้ำท่วมขังจะใช้เวลาสั้นไม่กี่วัน
 
               แต่การแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากของ ต.พระลับ ไม่ได้ขึ้นกับการบริหารจัดการน้ำในแต่ละปี แต่ขึ้นอยู่กับยุทธศาสตร์น้ำที่จะสร้างฝาย ประตูน้ำและเครื่องสูบน้ำผลักดันน้ำออก ของโครงการก่อสร้างระบบผันน้ำ (ฟลัดเวย์) จากพื้นที่เขตเมืองลงสู่ลำน้ำชี (การก่อสร้างประตูระบายน้ำคลองระบายน้ำ D8) ห้วยพระคือ งบประมาณ 265.7 ล้านบาทนั่นเอง

.....................

(หมายเหตุ : ชาวพระลับ! รับมือแม่น้ำชีทะลักท่วม : จิติมา จันพรมรายงาน)