ข่าว

บาปที่ไม่ได้ก่อของเมียฆาตกรฆ่าข่มขืน(1)

บาปที่ไม่ได้ก่อของเมียฆาตกรฆ่าข่มขืน(1)

02 ต.ค. 2556

นอกบ้านผ่านเมือง : บาปที่ไม่ได้ก่อของเมียฆาตกรฆ่าข่มขืน (1) : โดย...บุญรัตน์ อภิชาติไตรสรณ์

 

                              ใครจะเชื่อว่าจะเกิดปรากฏการณ์ผีเสื้อขยับปีกขึ้น หลังจากศาลแดนภารตอินเดียตัดสินให้ประหารชีวิตด้วยการแขวนคอทุรชนคนโฉดชั่ว 4 คนที่ร่วมกันก่อคดีสุดโหดเหี้ยมรุมโทรมนักศึกษาแพทย์หญิงวัย 23 ปีบนรถเมล์ที่แล่นไปรอบๆ กรุงนิวเดลีเมื่อปลายปีที่แล้ว ก่อนจะถีบร่างเธอลงไปนอนจมกองเลือดข้างถนน กระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมาจากอาการบาดเจ็บสาหัสจนยากเยียวยา

                              พ่อแม่ของนักศึกษาแพทย์หญิงบอกว่าพอใจที่เห็นความยุติธรรมยังมีอยู่แม้ว่าลูกสาวจะลาลับไปแล้วก็ตาม ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนออกโรงคัดค้านโทษประหารชีวิตอ้างว่าไม่ได้แก้ปัญหาที่ตรงจุด

                              ปรากฏการณ์ผีเสื้อขยับปีกยังส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงครอบครัวของฆาตกรโหดด้วย โดยเฉพาะลูกเมียซึ่งต้องรับบาปที่ไม่ได้ก่อ เมื่อถูกสังคมชายเป็นใหญ่ลงโทษจนกำลังจะตายทั้งเป็นอยู่มะรอมมะร่อ

                              ดังเช่นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับพนิตา เทวี เมียสาววัย 21 ปีของอรรคชัย กุมาร ซิงห์ ผู้เป็น 1 ใน 4 นักโทษคดีฆ่าข่มขืนนักศึกษาแพทย์หญิง ซึ่งนอกจากจะทุกข์ใจแสนสาหัสที่สามีอาจถูกประหารชีวิตหากศาลสูงสุดยืนคำตัดสินของศาลชั้นต้นแล้ว เธอยังต้องเผชิญกับปัญหามืดมนที่ยังหาทางออกไม่ได้ "ใครจะเป็นคนหาเงินมาเลี้ยงฉันและลูกชายล่ะ"

                              พนิตา เทวี อาศัยอยู่กับครอบครัวของสามีซึ่งประกอบไปด้วยพ่อแม่และครอบครัวของน้องชายของสามีอีก 2 คนที่หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งทางตะวันออกของรัฐพิหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในหมู่บ้านยากจน ประชาชนไร้การศึกษา ขณะที่ผู้หญิงถูกสอนมีหน้าที่เป็นเพียงทาสในครัวเรือน ไม่มีสิทธิย่างเท้าก้าวออกจากบ้านหากไม่มีสามีหรือญาติพี่น้องที่เป็นผู้ชายร่วมเดินทางไปด้วย เธอมีสิทธิจะไปปลดทุกข์หนักที่ลานหลังบ้านก็ต่อเมื่อมืดค่ำแล้วเท่านั้น เพราะฉะนั้น พวกเธอจึงไม่เคยรู้เรื่องราวของโลกภายนอกที่ต่างออกไปเกือบสิ้นเชิง ไม่ต้องพูดไกลไปถึงเรื่องที่ผู้หญิงจะหางานทำนอกบ้าน ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้เด็ดขาด ทุกอย่างจึงต้องพึ่งพารายได้จากสามีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

                              นางมาลาตี เทวี แม่สามีของนางพนิตา เทวีเองก็ยึดมั่นในขนบธรรมเนียมดั้งเดิมโดยไม่คิดจะเป็นกบฏสังคมแม้แต่น้อย "ในครอบครัวของเรา ผู้หญิงจะต้องอยู่ภายในบ้านเท่านั้น ไม่มีสิทธิจะไปทำอะไรนอกบ้านเด็ดขาด" เพราะความยึดติดในค่านิยมที่หญิงต้องเป็นทาสในเรือนเบี้ยเพียงอย่างเดียวนี้เอง ทำให้ชีวิตของพนิตา เทวียิ่งขมขื่นและมืดมนมากขึ้นยามที่ไร้หัวหน้าครอบครัวมาช่วยปกป้องและดูแลครอบครัวนี้

                              ครอบครัวซิงห์ล้วนแต่พึ่งพารายได้จากอรรคชัยและน้องชายอีก 2 คนซึ่งเดินทางไปทำงานต่างถิ่นและส่งเงินมาให้พ่อแม่สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายทั้งบ้านราวเดือนละ 900-1,350 บาท

 

 

--------------------------

(นอกบ้านผ่านเมือง : บาปที่ไม่ได้ก่อของเมียฆาตกรฆ่าข่มขืน (1) : โดย...บุญรัตน์ อภิชาติไตรสรณ์)