ข่าว

ฟา เบเนเดทตี้ มีเรื่องเล่าจากของแต่งบ้าน

ฟา เบเนเดทตี้ มีเรื่องเล่าจากของแต่งบ้าน

28 ก.ย. 2556

ขอเวลานอก : ฟา เบเนเดทตี้...มีเรื่องเล่าจากของแต่งบ้าน : เรื่อง กอบแก้ว แผนสท้าน /ภาพ ภักดี เจริญสุข

 

                        "ของที่ซื้อมาแต่ละชิ้นเน้นชื่นชมและถ้าใช้ได้ด้วยอีกยิ่งดี และถ้าได้ชื่นชมในระหว่างใช้ด้วยยิ่งดีขึ้นไปอีก"

 

                        ตราบใดที่ยังหาคำตอบว่าระหว่าง "ไข่" กับ "ไก่" อะไรเกิดก่อนกันไม่ได้ เรื่องราวระหว่าง "งานประจำ" กับ "งานอดิเรก" ประเภท ของแต่งบ้าน ของผู้บริหารรุ่นที่ 3 บริษัทอิตาเลเซีย จำกัด ผู้นำเข้าสินค้าชั้นนำจากต่างประเทศ ฟา เบเนเดทตี้ ก็คงไม่ต้องเสียเวลาตามหาคำตอบว่าอย่างไหนมาก่อนมาหลัง...

                        ตั้งแต่ลืมตาดูโลกกระทั่งจำความได้และมาถึงวันนี้ที่ต้องเข้าไปนั่งบริหารในตำแหน่ง Hospitality ดูแลผลิตภัณฑ์อุปกรณ์บนโต๊ะอาหาร เครื่องครัว และเฟอร์นิเจอร์ "ฟา" เล่าว่า เพราะเป็นกิจการของครอบครัวซึ่งมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ ทำให้เธอต้องเห็นต้องใกล้ชิดกับเครื่องใช้เหล่านี้มาตลอด จนไม่แน่ใจว่าแท้จริงแล้วความชอบความสนใจอยากเก็บสะสมบรรดา "ของตกแต่งบ้าน" เริ่มต้นตอนไหน

                        "จำได้ว่าตอนเด็กๆ เข้าร้านขายจาน ขายแก้ว หรือแผนกของใช้ในบ้าน มีความรู้สึกว่าไม่ชอบเอาซะเลย เพราะคุณแม่คอยห้ามคอยเตือน เพราะกลัวว่าเราจะไปทำแตกทำเสียหาย จนเราเกร็งไปหมดตอนนั้นรู้สึกเลยว่าไม่ชอบของพวกนี้เลย แต่พอต้องเริ่มที่ทำงานด้านนี้ หน้าที่ก็คือต้องดูแลด้านดูแลอุปกรณ์ของใช้ ก็เลยมีคิดว่าทำงานต้องศึกษาหาข้อมูลเพื่อไว้ตอบลูกค้า ประกอบกับตัวเรามีความคุ้นเคยกับมันมาก จากที่เคยไม่ชอบมากๆ ในสมัยเด็กๆ ก็กลายเป็นว่าของที่ชอบ เริ่มมองเห็นความสวยงามของสิ่งเหล่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่กลายเป็นของตกแต่งบ้าน" เวิร์กกิ้งวูแมนวัย 30 กว่าๆ เกริ่นให้ฟังถึงที่มาของการเก็บสะสมของแต่งบ้าน

                        ส่วนเรื่องของแต่งบ้านที่เก็บสะสมอยู่ทุกวันนี้ ทายาทของ อโดโฟ่-วารุณี เบเนเดทตี้ บอกว่าไร้ข้อจำกัด แต่ที่แน่ๆ ไม่เน้นเรื่องราคาขอเพียงถูกใจรวมถึงสะท้อนถึงแหล่งที่มาเท่านั้นเป็นพอ

                        "บางคนจะเน้นที่เขี่ยบุหรี่ ที่รองแก้ว หรือว่าไม้ขีดของแต่ละเมือง สำหรับฟาไม่ได้ซีเรียสว่าของสะสมจะต้องเป็นประเภทไหน แค่รู้สึกชอบ ถูกใจ ก็ซื้อกลับมา อย่างชิ้นโปรดที่สุด "กบนั่งสมาธิ" เจอตอนที่ไปประเทศศรีลังกาสะท้อนให้เห็นว่าเป็นเมืองค่อนข้างศาสนานิยม ออกไปจากเมืองหลวงมีวัดเต็มไปหมด ชาวศรีลังกานับถือศาสนาพุทธ ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไปส่วนใหญ่ ก็มุ่งไปใกล้ชิดกับพุทธศาสนาไปหาความสงบ ส่วนกบตัวนี้ยิ้มแบบทะเล้นมาก ทำให้เรารู้สึกว่าการนั่งสมาธิไม่ใช่เรื่องเครียดดูมีความสุขดี เมื่อเรามองดูทำให้ช่วยลดความเครียดลงได้ด้วย" ผู้บริหารเจ้าของดีกรีปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยนอร์ทอีสเทิร์น จากบอสตัน แมสซาชูเซตส์ ในสาขาจิตวิทยา องค์กรอุตสาหกรรม พูดถึงของแต่งบ้านชิ้นโปรดแล้วไม่ลืมหยิบขึ้นมาเชยชม

                        ของสะสมเกือบทั้งหมดได้มาจากการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ ส่วนหนึ่งเพราะต้องติดต่อเรื่องงาน อีกส่วนหนึ่งเพราะชอบท่องเที่ยวเดินทาง ดังนั้นไม่เพียงช่วยให้บ้านดูมีชีวิตชีวา แต่ยังทำหน้าที่เป็นเครื่องเตือนความทรงจำว่าครั้งหนึ่งเคยไปที่นั้นๆ

                        "เนื่องจากที่บริษัทเป็นผู้นำเข้าสินค้าหลายๆ แบรนด์ เพื่อรองรับลูกค้าประเภทโรงแรม ร้านอาหาร จึงต้องเดินทางไปประเทศต่างๆ บ่อยครั้ง ดังนั้นเวลาเดินทางไปที่ไหน แล้วเห็นว่าอะไรที่สะท้อนถึงความเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นก็อยากจะเอากลับมาด้วย เพราะไม่รู้ว่าจะได้กลับไปอีกเมื่อไหร่ ที่ซื้อมาส่วนหนึ่งนำมาใช้เป็นเครื่องตกแต่งบ้านด้วย อีกส่วนหนึ่งอาจจะเก็บเอาไว้ เรียกว่า ได้วัฒนธรรมได้เก็บความทรงจำและได้นำมาใช้เป็นของตกแต่งบ้านด้วย

                        พูดเพียงปากเปล่า นักบริหารรุ่นที่ 3 แห่งบริษัทนำเขาสินค้าชื่อดังที่มีอายุยาวนานกว่า 60 ปี ก็จัดแจงหยิบยกขึ้นมาชี้ชวนให้ดูพร้อมๆ กับเล่าเรื่องราวในความทรงจำ

                        ที่ใส่เทียนทำจากไม้ฮอก หรือไม้อัดของโปรตุเกส ชิ้นนี้ได้มาเพราะไปทานอาหารฝีมือเชฟชาวโปรตุเกส เขาก็เอาของมาฝาก เนื่องจากประเทศเขาส่งออกไม้อัดรายใหญ่ของโลก เราไม่เคยเห็นมาก่อนสวยงามมาก ดูแปลกตาดี หรือ อย่างเมื่อตอนไปเที่ยวประเทศตุรกีก็ได้ "บารากู่" จากตลาดในเมืองอิสตันบูล กลับมา ส่วนอีกชิ้นได้มาจากที่เดียวกันก็เป็น "ตะเกียงอาลาดิน" ด้วยความที่ไปเที่ยวที่นั่นครั้งแรก รู้สึกว่าเขามีความเป็นอิสลามเหมือนตะวันออกกลาง ก็เลยอยากจะซื้ออะไรที่สะท้อนความเป็นโลกตะวันออกกลางเก็บไว้ เช่นเดียวกับ โคมเทียนสีฟ้า เวลาจุดเทียนสีมันจะสะท้อนไปในห้องเหมือนสีฟ้าน้ำทะเลสวยดี" สาวผู้หลงใหลงานศิลป์ถ่ายทอดถึงความพิเศษของแต่ละชิ้น

                        นอกจากนี้ยังมีของแต่งบ้านอีกบางส่วนซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้นำมาให้ยลโฉม ด้วยว่าติดปัญหาการเคลื่อนย้าย เจ้าตัวก็เอ่ยถึงมิได้ขาดปาก ทั้ง "ถาด" จากบาหลี ของสะสมชิ้นล่าสุด "หน้ากาก" ของพวกเวนิสที่เขาใส่ในงานคาร์นิวัล เธอเล่าว่าซื้อมาจากตลาดในเมืองฟอร์เรน ประเทศอิตาลี พอมาถึงเมืองไทยก็จัดแจงเปลี่ยนฟังก์ชันใหม่ด้วยการใส่ในกรอบติดฝาผนังช่วยให้บ้านดูมีชีวิตชีวา ในเวลาเดียวกันก็ได้ชื่นชมกับของชิ้นนั้นไปด้วย รวมถึงบรรดาตัวอักษรมงคลที่มีความหมายดีๆ ความสุข ความร่ำรวย ความรัก เมื่อครั้งเดินทางไปทำงานที่ฮ่องกง เธอก็หอบเอากลับมาใส่กรอบตกแต่งบ้าน เพราะอย่างน้อยก็ได้อะไรที่เป็นมงคลกลับมาบ้านด้วย

                        อีกหนึ่งเสน่ห์ที่เป็นแรงฉุดให้ "ฟา เบเนเดทตี้" ไม่เคยเบื่อหน่ายการหอบหิ้ว หรือแม้แต่จะต้องออกแรงรื้อค้นกองสินค้าตามตลาด แทนที่จะไปเดินช็อปปิ้งสินค้าแบรนด์แฟชั่นตามห้างหรู นั่นคือ ทุกครั้งที่ได้เห็นสิ่งของเหล่านี้ไม่ว่าจะอยู่ในมุมไหนของบ้านก็ทำให้รู้สึกดี

                        "ของที่ซื้อมาแต่ละชิ้นเน้นชื่นชมและถ้าใช้ได้ด้วยอีกยิ่งดี และถ้าได้ชื่นชมในระหว่างใช้ด้วยยิ่งดีขึ้นไปอีก ทุกครั้งที่ได้เห็นให้ความรู้สึกดี รู้สึกว่าคิดถูกแล้วที่เราหอบหิ้วเอากลับมา อย่างตอนเช้าตื่นขึ้นมาทุกวันด้านซ้ายในห้องนอนจะมีกรอบรูป ซึ่งตัวเองซื้อจากตลาดตอนเอากลับมาก็ม้วนๆ รัดหนังสติ๊กกลับมาดูเหมือนของไม่มีราคา พอมาถึงก็เอาใส่กรอบมันเพิ่มมูลค่าให้ดูสวยขึ้นมา มองทีไรก็นึกถึงตอนที่เราบุกลงไปรื้อมาจากตลาด อย่างน้อยก็ช่วยให้จำได้แล้วนึกย้อนกลับไปถึงช่วงเวลานั้นที่เคยไปมีความพิเศษอย่างไร" ลูกครึ่งสาวร่างโปร่งคุยถึงของรักอย่างอารมณ์ดี และเผยว่าถึงจะเป็นของรักแต่ไม่ถึงกับหวงมาก ส่วนเรื่องการดูแลว่าแค่ไม่ให้พัง อันไหนเปราะบางมาก็ไม่นำกลับมาใช้ตั้งไว้ในตู้โชว์อย่างเดียวพอ