
ผ่า'ลูกขวานลอยลม'ละลิ่วกลางม็อบยาง
ผ่า'ลูกขวานลอยลม'ละลิ่วกลางม็อบยาง : สุพิชฌาย์ รัตนะ/สมชาย สามารถรายงาน
การชุมนุมของเกษตรกรชาวสวนยางและปาล์มในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ณ บริเวณแยกควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ถือเป็นการชุมนุมที่มีพลังในระดับหนึ่ง จนสร้างความหนักใจให้แก่รัฐบาลไม่น้อย
การผนึกกำลังกันครั้งที่สอง โดยมีการปิดถนนสายหลัก ก่อนนำไปสู่การสลายการชุมนุม กระทั่งมีผู้บาดเจ็บและทรัพย์สินทางราชการเสียหายจำนวนหนึ่ง
น่าสังเกตว่า การชุมนุมรอบนี้มวลชนต่างมาจากหลายกลุ่ม หลากพื้นที่
ในจำนวนนั้นก็มีชื่อของ "ชมรมลูกขวานลอยลม" ผุดพรายขึ้นมาในสารบบ จนมีการเอ่ยถึงกลุ่มนี้ในสังคมถี่บ่อยขึ้น
เดิมทีกลุ่มนี้มีชื่อเป็นทางการว่า "ชมรมลูกขวานลอยลม เยาวชนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และพัฒนาฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม"
ที่สำคัญการขับเคลื่อนครั้งนี้ต่างรับรู้กันว่า มีหน้าที่หลักคือ ดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่กลุ่มผู้ชุมนุม
จากการตรวจสอบพบว่า กลุ่มดังกล่าวเป็นการรวมตัวกันของกลุ่มเยาวชนในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะจาก อ.ชะอวด และอ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช รวมทั้งจาก อ.ห้วยยอด และอ.รัษฎา จ.ตรัง
สำหรับวัตถุประสงค์หลักพบว่า เป็นชมรมที่รวบรวมเด็กวัยรุ่นผู้มีจิตอาสาร่วมกันทำกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ในพื้นที่ โดยมีพันธกิจหลัก คือ 1.ปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ 2.อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม 3.ช่วยเหลือและบริการสังคมส่วนรวมได้ทุกรูปแบบทั่วดินแดนชาวสยาม และ 4.สร้างเสริมความรู้รักและสามัคคีให้แก่คนในชาติ
ขณะเดียวกัน ทางชมรมก็ระบุที่มาที่ไปไว้ชัดว่า เนื่องจากปัจจุบันสังคมกำลังประสบปัญหาร่วมกันมากมาย จากการช่วยกันทำลายของทุกภาคส่วนของสังคมตามความจำเป็นบ้าง และเกินความจำเป็นบ้าง จนส่งผลกระทบต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตามมามากมาย กระทั่งมีผลต่อการดำรงชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะชนรากหญ้าที่ได้ผลแห่งกรรมนี้มากที่สุด จึงเล็งเห็นความเสียหายที่จะตามมาในภายภาคหน้า ทำให้กลุ่มเยาวชนมารวมตัวกัน เพื่อหาทางแก้ไขและป้องกันสิ่งเหล่านี้ให้อยู่คู่ชาวสยามสืบทอดถึงลูกหลานร่วมกันต่อไป
ในแง่รายละเอียดของกิจกรรมนั้น ก็มีการเขียนภารกิจร่วมกันไว้ชัดเจน อาทิ 1.สร้างฝ่ายชะลอน้ำและฟื้นฟูต้นน้ำริมคลองและสร้างเขตอภัยทานพันธุ์สัตว์และสัตว์น้ำตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 2.สงวนทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นของราษฎร์ทุกคนให้ได้รับผลประโยชน์โดยเท่าเทียมกัน 3.บำรุงและพัฒนาที่สาธารณประโยชน์ตามความสำคัญของแต่ละพื้นที่ทั่วดินแดนสยาม 4.ให้ความช่วยเหลือเด็ก คนแก่ชรา หรือผู้พิการที่ตกอยากลำบากไม่มีคนค่อยดูแลเท่าที่ชมรมช่วยได้ตามความสามารถให้มากที่สุด
เรื่องนี้ "เอียด เส้งเอียด" อดีตผู้ประสานงานเกษตรกรชาวสวนยางบ้านตูล อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่มีการประสานงานกับองค์กรนี้ได้ในระดับหนึ่ง บอกว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า กลุ่มที่เข้ามาชุมนุมและก่อเหตุเมื่อวันที่ 16 กันยายน เป็นกลุ่มใหม่ บ้างก็เรียกกลุ่ม "พร้าลอยลม" และ "เมขลาล่อแก้ว" จึงไม่รู้ใครเป็นใครจนมั่วไปหมด ต่างคนต่างมาจากหลายที่ ระดมกำลังภายในเวลา 3-4 ชั่วโมง ได้จำนวน 300-400 คน ถือว่าไม่ธรรมดาแน่นอน
"กลุ่มลูกขวานลอยลมนั้น ปัจจุบันน่าจะมีสมาชิกจริงราวๆ 100 คน แต่ล่าสุดได้รับการยืนยันว่ากลุ่มนี้ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง" เอียดให้ข้อมูล
หากมองจากมุมของ รศ.ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะนักวิชาการ "ลูกเมืองคอน" ขนานแท้ เคยให้สัมภาษณ์ "สำนักข่าวอิศรา" ว่า กลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มคนหนุ่ม วัยใกล้เคียงกัน มีหลายกลุ่ม เป็นนักเรียนอาชีวะบ้าง เป็นหนุ่มที่รวมกลุ่มกันสังสรรค์บ้าง
แต่ข้อดีของกลุ่มนี้ก็คือ เมื่อมีการไหว้วานขอแรง มักจะรวมกลุ่มกันเหนียวแน่น ไปไหนไปกัน
“พอมารวมกันแล้วเขาเฮไหนเฮนั่น มีทั้งดีและไม่ดีนะ แต่ข้อดีคือ เป็นกลุ่มเป็นก้อน แต่อาชีพหลักของคนเหล่านี้ คือ ทำสวนยาง คราวนี้ก็มาชุมนุมด้วย จะทำยังไงก็พี่นองชาวใต้เขารักกัน แล้วแบบนี้จะมาเรียกว่าการเมืองหรือเปล่า" รศ.ดร.ณรงค์ถามทิ้งท้าย
...........................
(หมายเหตุ : ผ่า'ลูกขวานลอยลม'ละลิ่วกลางม็อบยาง : สุพิชฌาย์ รัตนะ/สมชาย สามารถรายงาน)