
เจ้าชายกลันตันปฏิเสธทรมานชายา
กลันตัน-เจ้าชายแห่งรัฐกลันตัน ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำร้ายชายานางแบบลูกครึ่งชาวอินโดนีเซีย-อเมริกัน ด้านทนายความฝ่ายหญิงโต้ พิสูจน์ได้ว่าเจ้าชายหนุ่มทำจริง
ทีมทนายความของเต็งกู เตเมงกอง โมฮัมหมัด ฟาครีห์ เจ้าชายแห่งรัฐกลันตัน ของมาเลเซีย ภายใต้การนำของนายฮาซิก พิลเลย์ เปิดเผยต่อสำนักข่าวเบอร์นามาของแดนเสือเหลือง เมื่อวันศุกร์ (12 มิ.ย.) ปฏิเสธว่า ไม่ได้ล่วงละเมิดต่อ มาโนฮารา โอเดเลีย ปินอต พระชายาซึ่งเป็นนางแบบวัยรุ่นลูกครึ่งอินโดนีเซีย-อเมริกัน ที่แยกกันอยู่ และทรงขู่ด้วยว่าจะดำเนินการทางกฎหมายต่อข้อกล่าวหาต่างๆ ที่เธอกุขึ้นมา สร้างความเสียหายต่อพระองค์
ทีมทนายความของเจ้าชายฟาครีห์ระบุว่า เจ้าชายทรงไม่ยอมรับรายงานของตำรวจกรุงกัวลาลัมเปอร์ที่ว่า พระองค์ทรงข่มขืนและทรมานชายาวัย 17 ชันษา และทีมทนายกำลังอยู่ระหว่างการใคร่ครวญเรื่องการดำเนินการทางกฎหมายต่อข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นความจริงเหล่านี้
ทั้งนี้ มาโนฮารา โอเดเลีย ปินอต เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เธอได้รับการปฏิบัติราวกับทาสทางเพศ หลังจากที่อภิเษกสมรสกับเจ้าชาย ซึ่งเป็นพระราชโอรสในองค์สุลต่านแห่งรัฐกลันตันเมื่อปีที่แล้ว ก่อนที่มาโนฮาราจะหนีจากการอารักขาขององครักษ์ที่โรงแรมในสิงคโปร์ และกลับไปหาครอบครัวพร้อมเปิดเผยเรื่องราวการถูกล่วงละเมิด การข่มขืนและการทรมาน โดยน้ำมือของพระสวามีพระชนมายุ 31 พรรษา ซึ่งตำรวจกัวลาลัมเปอร์จะโอนเรื่องการสอบสวนไปให้ตำรวจในรัฐกลันตันเนื่องจากเป็นท้องที่เกิดเหตุ
มาโนฮารา ซึ่งเป็นที่รู้จักในวงสังคมในกรุงจาการ์ตา อ้างว่า ขณะถูกกักตัวอยู่ในห้องนอนในพระราชวัง เธอถูกเฉือนด้วยมีดโกน และถูกฉีดยากล่อมประสาทจนทำให้เธอถึงกับอาเจียนเป็นเลือด ขณะที่ทนายของเธอ ระบุว่า เธอได้แจ้งความต่อตำรวจในข้อหาถูกล่วงละเมิด แต่ตำรวจอินโดนีเซียอ้างว่า ไม่สามารถไปสอบสวนเรื่องนี้ได้ เนื่องจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในสถานที่ที่อยู่นอกเหนืออำนาจหน้าที่ของพวกเขา ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชของอินโดนีเซีย ระบุว่า มาโนฮาราถูกล่วงละเมิดทางร่างกายจริง โดยทนายของมาโนฮารา กล่าวว่า เจ้าชายฟาครีห์ เพียงแค่เคลื่อนไหวเพื่อปกป้องชื่อเสียงของราชวงศ์ แต่ทางฝ่ายเขาสามารถพิสูจน์ได้ว่า มาโนฮาราถูกล่วงละเมิดจริง และพระองค์สมควรได้รับโทษตามกฎหมาย