
สมคิด พุ่มพวง...ผู้เริ่มตำนาน "มาตกรต่อเนื่อง"
ใครจะคิดว่าสังคมอันสงบสุขอย่างประเทศไทยจะต้องเผชิญกับ "ฆาตกรต่อเนื่อง" เหมือนกับเมื่อ 1 ศตวรรษก่อน คนอังกฤษต้องตกอยู่ในความหวาดผวา จากฆาตกรโรคจิตเลื่องชื่อ "แจ็ค เดอะ ริปเปอร์" เนื่องจากสภาพทางสังคมแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หรือว่าวันนี้ประเทศไทยที่ก้าวตาม
แม้องค์ความรู้เรื่องฆาตกรต่อเนื่องในไทยจะมีอยู่น้อยมาก แต่เท่าที่นักจิตวิทยาหลายๆ คนศึกษาเรียนรู้มาพบว่า สภาพสังคมต่างคนต่างอยู่ มีปัญหาครอบครัว ถูกกระทำรุนแรงในวัยเด็ก ฯลฯ เป็นส่วนหนึ่งที่ก่อกำเนิดฆาตกรต่อเนื่อง กำลังจะพบได้ในสังคมไทยปัจจุบัน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ กรณีของ "สมคิด พุ่มพวง" ฆาตกรต่อเนื่องในโลกยุคใหม่ของไทย เมื่อเขาก่อเหตุฆาตกรรมหญิงสาวติดต่อกันถึง 5 ศพ ภายในเวลา 5 เดือน
สมคิดเติบโตขึ้นมากับชายสูงอายุคนหนึ่งใน ต.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช โดยพ่อแม่นำมาฝากฝังตั้งแต่อายุได้ 8 ขวบ ภาพที่คนภายนอกเห็นคือเป็นเด็กนุ่มนวล เงียบขรึม พูดน้อย แต่ถ้าเป็นคนสนิทจะรู้ดีว่าเขาเป็นเด็กพูดเก่งแค่ไหน พูดจาไพเราะ ไม่กระโชกโฮกฮาก แต่สิ่งที่คนภายนอกไม่อาจรู้ได้เลย คือ นิสัยใจคอจริงๆ ของสมคิด เขาเป็นคนดื้อตาใส เวลาใครพูดอะไรก็จะรับฟัง แต่ไม่ปฏิบัติตาม เป็นคนไม่ยอมคน ชอบใช้กำลัง และมีนิสัยขี้ขโมย จนครอบครัวที่รับอุปการะทนไม่ไหวต้องตัดหางปล่อยวัด เขาออกไปใช้ชีวิตตามลำพัง ระหว่างนี้ไม่มีใครรู้ว่าสมคิดไปทำอะไรอยู่ที่ไหน คนรู้จักส่วนใหญ่คิดว่าเขาเสียชีวิตไปแล้วด้วยซ้ำ...หากว่าไม่มีข่าวฆาตกรรมต่อเนื่องในอีกหลายปีต่อมา และมีชื่อสมคิดเข้าไปพัวพันในฐานะผู้ต้องสงสัย
เช้ามืดวันที่ 30 มกราคม 2548 "วารุณี พิมพะบุตร" ถูกพบเป็นศพอยู่ในห้องพักเลขที่ 609 รร.พลอยพาเลซ ต.มุกดาหาร อ.เมือง จ.มุกดาหาร ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุตามปกติ ก่อนจะลงความเห็นว่าเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ จากนั้น ก่อนเที่ยงวันที่ 4 มิถุนายนปีเดียวกัน "ผ่องพรรณ ทรัพย์ชัย" ถูกฆาตกรรมภายในห้องพักเลขที่ 604 รร.เวียงละคอน ต.สวนดอก อ.เมือง จ.ลำปาง อีก 7 วันต่อมา "พัชรีย์ อมตนิรันดร์" ก็ถูกฆาตกรรมภายในห้องพักเลขที่ 505 รร.ธรรมรินทร์ธนา ต.ทัพเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง
เที่ยงคืนเศษ วันที่ 18 มิถุนายน มีเหตุฆาตกรรม "พรตะวัน ปังคะบุตร" ภายในห้องพักเลขที่ 1126 รร.เจริญศรีแกรนด์ อ.เมือง จ.อุดรธานี อีก 3 วันต่อมาก็มีคดีฆาตกรรม "สมปอง พิมพรภิรมย์" ภายในห้องพักเลขที่ 221 ปิยะแมนชั่น ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
มาถึงตอนนี้ตำรวจเริ่มสังเกตเห็นถึงความผิดปกติบางอย่าง นั่นคือ ความเหมือนของเหยื่อและสถานที่ก่อเหตุของฆาตกร ยุคนั้น พล.ต.ท.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ ผบช.ก.สั่งการให้ พล.ต.ต.อัศวิน ขวัญเมือง รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผบก.ป.สืบสวนติดตามจับกุมตัวฆาตกร โดยเริ่มแกะรอยหาความเชื่อมโยงระหว่างเหยื่อแต่ละคน กระทั่งพบเบาะแสหนึ่ง คือ หลังเกิดเหตุมีผู้ชายคนหนึ่งใช้ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือของเหยื่อรายสุดท้ายโทรไปหาผู้หญิงคนหนึ่ง จึงเริ่มตรวจสอบประวัติและเฝ้าติดตามดูพฤติกรรมจนแน่ใจว่า เป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมหญิงสาวทั้ง 5 รายต่อเนื่องกัน
10 โมงเช้า วันที่ 29 มิถุนายน หรือ 5 เดือนนับตั้งแต่เหยื่อรายแรกถูกฆาตกรรม ตำรวจก็สามารถจับกุมฆาตกรต่อเนื่องได้ คือ "สมคิด พุ่มพวง" วัย 41 ปี ขณะพยายามพาเหยื่อรายที่ 6 ไปสังหารในโรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.ชัยภูมิ นำตัวไปตรวจค้นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ หมู่ 1 ต.รอบเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นบ้านภรรยาใหม่ของสมคิด พบกระเป๋าสะพายสีดำและสร้อยทองประดับทับทิม แหวนทองคำ ตุ้มหูทองคำ ของเหยื่อรายที่ 5
นอกจากนี้ ยังพบซิมการ์ดมือถือ 6 อัน ถุงยางอนามัย 2 ห่อ คีย์การ์ดโรงแรมแห่งหนึ่ง กระเป๋าสตางค์ผู้หญิง ที่สำคัญคือพบตั๋วรถไฟจากนครราชสีมาไป จ.บุรีรัมย์ 2 ใบ วันที่ 20 มิถุนายน 2548 และตั๋วขากลับจากบุรีรัมย์มา อ.จักราช จ.นครราชสีมา 1 ใบในวันที่ 21 มิถุนายน 2548 หรือวันเกิดเหตุฆาตกรรมเหยื่อรายสุดท้ายนั่นเอง !!!
ตำรวจยึดของกลางทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน โดยเฉพาะตั๋วรถไฟเป็นหลักฐานสำคัญที่ยืนยันว่า สมคิดได้พาสมปองหมอนวดแผนโบราณนิวหัตถเวช จ.นครราชสีมา ไปฆาตกรรมที่ปิยะแมนชั่น จ.บุรีรัมย์ ซึ่งสอดคล้องกับพยานที่ให้การไว้ก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรพบว่า สมคิดเคยเบิกความเป็นพยานเท็จในคดีฆาตกรรม "ปรีณะ ลีพัฒนะพันธ์" อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร จนถูกศาลพิพากษาจำคุก 6 เดือน ระหว่างถูกจองจำยังเขียนจดหมายข่มขู่ครอบครัวแกนนำกลุ่มต่อต้านการสร้างบ่อขยะราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ คดีนี้ศาลชั้นต้นได้พิพากษาประหารชีวิตสมคิด พุ่มพวง ปัจจุบันอยู่ระหว่างอุทธรณ์
เรื่องฆาตกรต่อเนื่องถือเป็นเรื่องใหม่ในประเทศไทย แต่สำหรับต่างประเทศมีการศึกษาค้นคว้ามานาน นับตั้งแต่สมัยอาณาจักรโรมันมีจักรพรรดิพระองค์หนึ่ง มีพฤติกรรมนำทาสมาทรมานจนเสียชีวิต กระทั่งยุคกลาง Gilles Der Rais ชอบนำเด็กผู้ชายมาฆ่า หรือแม้แต่ Elisabeth Bathory ที่นำหญิงชาวนามากรีดเลือดแล้วนำเลือดมาอาบชำระร่างกาย จนมาถึงยุค แจ็ค เดอะ ริปเปอร์ ฆาตกรผู้โด่งดังแห่งยุคปัจจุบัน ที่ฆ่าโสเภณีแล้วชำแหละท้อง สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
สำหรับประเทศไทยเองก็มีฆาตกรต่อเนื่อง โดยเมื่อกว่า 50 ปีก่อน "ซีอุย แซ่อึ้ง" ชายหนุ่มเชื้อสายจีนได้ฆ่าเด็กควักตับมาต้มกิน เชื่อกันว่ามีเด็กอย่างน้อย 6 คนที่ตกเป็นเหยื่อของซีอุย แต่ยุคนั้นคำว่าฆาตกรต่อเนื่องยังไม่เป็นที่แพร่หลาย กระทั่งมาถึงยุค "สมคิด พุ่มพวง" ที่ฆ่าหญิงสาวติดต่อกัน 5 คนภายในเวลาแค่ 5 เดือน
พล.อ.ต.นพ.วิชาญ เปี้ยวนิ่ม หัวหน้าฝ่ายนิติเวช รพ.รามาธิบดี เปิดเผยว่า ฆาตกรต่อเนื่องส่วนใหญ่ 99 เปอร์เซ็นต์ มีความบกพร่องทางจิตใจ มีความทรงจำด้านลบในอดีต อย่างเช่นคนที่รักถูกกระทำ เช่น พ่อ แม่ ลูก เมื่อมีโอกาสจึงแก้แค้นเอากับคนในสังคม เมื่อการฆาตกรรมครั้งแรกเกิดขึ้นแล้ว และตัวฆาตกรเองสามารถลอยนวลอยู่ได้ในสังคม จะทำให้เขาฮึกเหิมและก่อเหตุฆาตกรรมแบบเดิม เพื่อตอบสนองความต้องการของตนเองอีก
"คดีฆาตกรรมต่อเนื่องในประเทศไทยไม่ค่อยพบมากนัก แตกต่างกับชาวตะวันตก เพราะรูปแบบสังคมแตกต่างกัน ชาวตะวันตกโตขึ้นมาด้วยการช่วยเหลือตัวเอง พ่อแม่จะปล่อยให้ใช้ชีวิตด้วยตัวเอง แต่สังคมไทยมีครอบครัวคอยเป็นต้นแบบ เมื่อเกิดการฆาตกรรมต่อเนื่องแล้ว เราไม่สามารถบอกได้ทันทีว่า ผู้ต้องหาเป็นโรคจิตหรือไม่ จนกว่าจะได้ทำแบบทดสอบ บางครั้งไม่ได้เป็น แต่เกิดจากแรงกดดันในจิตใต้สำนึกของตัวผู้ต้องหาเอง" พล.อ.ต.วิชาญ ให้ความเห็น
ด้าน รศ.ดร.พวงรัตน์ บุญญานุรักษ์ จากภาคนิติเวชวิทยา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ปัจจุบันในต่างประเทศและเมืองไทยมีการศึกษาเรื่องการฆาตกรรมต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีการเปิดเผยสักเท่าไร เพราะเป็นเรื่องคาบเกี่ยวระหว่างอาชญวิทยากับจิตเวช แต่สำหรับตนเองแล้วเชื่อมั่นว่าพฤติกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับฆาตกรที่กระทำกับเหยื่อ ขึ้นอยู่กับจิตใต้สำนึกเป็นอันดับแรก
"จริงๆ แล้วเป็นพื้นฐานของการวินิจฉัยเลยก็ว่าได้ เกี่ยวกับฆาตกรต่อเนื่องก็คือ พื้นฐานทางบ้าน การเลี้ยงดู พื้นฐานทางจิตใจ ตั้งแต่สมัยยังเด็กๆ ว่าเป็นอย่างไร ตรงนี้ต้องเอามาเป็นส่วนประกอบ บางรายจากในตำราพบว่าฆาตกรบางคนชอบมีเพศสัมพันธ์กับเด็ก แต่จำเป็นต้องฆ่าเพราะเกรงเด็กจะจำหน้าได้ ตรงนี้ต้องดูว่าขณะที่เขาทำผิดเขามีสติรู้ผิดชอบชั่วดีหรือไม่ อย่างไร" รศ.ดร.พวงรัตน์ กล่าว