ข่าว

เรือรบรัสเซียถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแล้ว!

เรือรบรัสเซียถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแล้ว!

12 ก.ย. 2556

เรือลาดตระเวณติดขีปนาวุธ มอสควา ของรัสเซีย ถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแล้ว ด้าน'CIA'เริ่มทยอยส่งความช่วยเหลือไปให้ฝ่ายต่อต้านในซีเรียแล้ว

                12 ก.ย.56 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เรือลาดตระเวณติดขีปนาวุธ มอสควา ของรัสเซีย หรือที่องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ เรียกว่า " แคร์ริเออร์-คิลเลอร์ " ได้แล่นผ่านช่องแคบยิบรอลต้าแล้ว และกำลังมุ่งหน้าสู่น่านน้ำฝั่งตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เพื่อเข้าร่วมกับศูนย์บัญชาการกองทัพเรือของรัสเซีย ที่แถลงก่อนหน้านี้ว่า เรือลาดตระเวณมอสควา ได้ผ่านช่องแคบยิบรอลต้า ตั้งแต่วันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา

               สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ รายงานว่า เรือลาดตระเวณมอสควา มีความพร้อมที่จะเข้าร่วมการซ้อมรบในขณะนี้ หลังจากเข้าสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ในพื้นที่ความรับผิดชอบของกองทัพเรือรัสเซีย เมื่อเวลา 23.00 น. ตามเวลาในมอสโคว์ และคาดว่าจะถึงจุดหมายราววันที่ 15 หรือ 16 กันยายน

               ทั้งนี้ ปัจจุบัน ศูนย์บัญชาการกองทัพเรือของรัสเซีย ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีเรือพิฆาตปราบเรือดำน้ำแอดไมรัล แพนเทเลเยฟ ประจำการอยู่ และจะถูกแทนที่โดยเรือลาดตระเวณมอสควา ซึ่งอุปกรณ์ทางเทคนิคและยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ส่วนลูกเรือก็อยู่ในสภาพพร้อมรบ

               เรือลาดตระเวณ มอสควา ที่ตอนแรกหน่วยข่าวกรองของกองทัพเรือของตะวันตก เรียกว่าสลาว่า(Glory) เปิดตัวเมื่อปี 2512 และเข้าประจำการเมื่อปี 2526 ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น มอสควา เมื่อปี 2538 เป็นเรือชั้น 1134 ติดตั้งขีปนาวุธ พี-1000 วูลคัน (Volcano) 16 ลูก

               นอกจากมอสควาแล้ว ยังมีเรือนิโคไล ฟิลเชนคอฟ และเรือสเม็ตลิวี่ เดินทางไปสมทบด้วย โดยจะผ่านช่องแคบบอสฟอรัส และดาร์ดาเนลเลส ภายในวันที่ 12-14 กันยายน ก่อนมุ่งหน้าน่านน้ำฝั่งตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แหล่งข่าวในกองทัพรัสเซีย ระบุว่า การเข้าสมทบของเรือเหล่านี้ มีเป้าหมายเพื่อสังเกตการณ์สถานการณ์รอบซีเรีย

               อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน แสนยานุภาพทางทะเลในเมดิเตอร์เรเนียนของรัสเซีย ประกอบด้วย เรือบรรทุกเครื่องบินอเล็กซานดร์ ชาบาลิน , แอดไมรัล เนเวลสคอย , เปเราเวท , โนโวเชอร์คาสสค์ และมินสค์ ที่มาจากกองเรือในทะเลดำและบอลติก

                

                

               
CIA เริ่มทยอยส่งความช่วยเหลือไปให้ฝ่ายต่อต้านในซีเรียแล้ว

 

               หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ รายงานว่า สำนักข่าวกรองกลางของสหรัฐ หรือ CIA เริ่มการจัดส่งอาวุธให้กับฝ่ายต่อต้านในซีเรีย อันเป็นการยุติการประวิงเวลามาหลายเดือน และเป็นไปตามที่ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้สัญญาไว้ก่อนหน้านี้

               อีกทั้ง การขนส่งอาวุธไปให้ฝ่ายต่อต้านในซีเรีย ได้เริ่มเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน นอกเหนือจากการส่งยานพาหนะและอุปกรณ์อื่น ๆ อันเป็นสิ่งที่บ่งชี้ว่า สหรัฐเพิ่มเข้าไปมีบทบาทในสงครามกลางเมืองของซีเรียมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเรือบรรทุกอาวุธ ที่ถูกจำกัดแค่อาวุธเบาและกระสุน สามารถติดตามร่องรอยได้ และเริ่มเข้าไปในซีเรียในช่วงที่เกิดความตึงเครียดอย่างสูง อันเนื่องมาจากประธานาธิบดีโอบามา ขู่ว่าจะยิงขีปนาวุธโจมตีซีเรีย เพื่อเป็นการตอบโต้ที่รัฐบาลใช้อาวุธเคมีสังหารพลเรือนในพื้นที่ใกล้กับกรุงดามัสกัส เมื่อเดือนที่แล้ว

               แหล่งข่าว ระบุว่า สหรัฐส่งมอบอาวุธชนิดใหม่ให้กับฝ่ายต่อต้าน รวมถึงยานพาหนะ , อุปกรณ์สื่อสารทรงประสิทธิภาพ , อุปกรณ์การแพทย์ภาคสนามและอาหารสำเร็จรูปแคลอรี่สูง แบบที่ทหารสหรัฐบริโภคเวลาปฏิบัติภารกิจในสมรภูมิ ซึ่งสหรัฐหวังว่า จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ฝ่ายต่อต้านในการทำสงครามที่ยืดเยื้อมานานถึง 2 ปีครึ่ง

               ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโอบามา ได้ส่งสัญญาณมาหลายเดือนแล้วว่า จะเพิ่มความช่วยเหลือให้ฝ่ายต่อต้าน แต่ได้ประวิงเวลาไว้ เนื่องจากเป็นเรื่องที่เสี่ยงในการส่งความช่วยเหลือเข้าไปในเขตสงคราม และวิตกว่า อาจจะไปตกอยู่ในมือพวกมุสลิมญีฮัด

               ทั้งนี้ การประวิงเวลาในการส่งความช่วยเหลือไปให้ฝ่ายต่อต้าน ได้ส่งผลให้สมาชิกนิติบัญญัติหลายคนในสภาคองเกรส ตำหนิฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโอบามา โดยเฉพาะวุฒิสมาชิกบ๊อบคอร์คเกอร์ ของรีพับลีกัน จากรัฐเทนเนสซี่ ที่บอกว่า มันเป็นเรื่องที่น่าอัปยศ ในเมื่อประธานาธิบดีได้ประกาศไว้เมื่อเดือนมิถุนายนว่า จะส่งอาวุธไปช่วยฝ่ายต่อต้าน แต่กลับยังไม่เริ่มต้น จนพวกเขาขาดแคลนกระสุน

               เป้าหมายในการส่งความช่วยเหลือของสหรัฐ อยู่ที่กองกำลังภายใต้การนำของพลเอกซาลิม ไอดริสส์ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการของสภาทหารสูงสุด ซึ่งแหล่งข่าวระบุว่า ความช่วยเหลือของสหรัฐ นอกจากจะช่วยจัดโครงสร้างของหน่วยรบของฝ่ายต่อต้านแล้ว ยังจะช่วยให้เป็นกองกำลังที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และรวบรวมหลาย ๆ กลุ่มเข้าด้วยกันเป็นกองกำลังผสม

               ด้านฝ่ายต่อต้านอีกกลุ่มหนึ่งคือ กองกำลังผสมต่อต้านซีเรีย ระบุว่า ยินดีที่สหรัฐจะให้ความช่วยเหลือ แต่เขาคิดว่า มันยังไม่เพียงพอที่จะทำให้สงครามกลางเมืองครั้งนี้พลิกผันได้ เพราะความช่วยเหลือเพียงเล็กน้อยจากสหรัฐ เทียบไม่ได้กับที่ฝ่ายรัฐบาลซีเรีย ได้รับจากอิหร่านและรัสเซีย

               อย่างไรก็ตาม การขนส่งความช่วยเหลือของ CIA ไปให้กับฝ่ายต่อต้านในซีเรีย ได้ผ่านเครือข่ายฐานทัพลับของสหรัฐในตุรกีและจอร์แดน ที่สหรัฐพยายามขอความช่วยเหลือจากพันธมิตรในตะวันออกกลาง รวมทั้ง ซาอุดิอาระเบีย และกาตาร์ ในการส่งมอบอาวุธให้กลับฝ่ายต่อต้านที่มีแนวคิดสายกลาง ไม่ใช่พวกที่เอนเอียงไปทางญีฮัด ด้วยความหวังว่า จะเปลี่ยนขั้วอิทธิพลต่อซีเรียโดยที่สหรัฐจะกลายเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งกับซีเรีย หลังสงครามสิ้นสุดและปราศจากระบอบของประธานาธิบดีอัสซ้าดแล้ว