ข่าว

'ศิลปะเปลือกไข่'กับ'แพร-พญ.รตา'

'ศิลปะเปลือกไข่'กับ'แพร-พญ.รตา'

07 ก.ย. 2556

ขอเวลานอก : 'ศิลปะเปลือกไข่' ให้สุขกับ 'แพร-พญ.รตา'

 

                       "เปลือกไข่บางชิ้นซึ่งถูกน้ำท่วมเสียหายไปหลายสิบชิ้น ที่เสียหายเล็กๆ น้อยๆ ตัดใจทิ้งไม่ได้ก็เก็บไว้ ส่วนชิ้นไหนที่เยอะจริงๆ ก็ต้องตัดใจ แอบเครียด แอบเสียดาย เพราะบางชิ้นมันหาไม่ได้แล้วมีชิ้นเดียวในโลก แต่บางอย่างมันเหนือการควบคุมของเรา ทำใจอย่างเดียว เพราะถ้าเรามัวแต่ไปห่วงของพวกนี้เกรงว่าจะเกิดความเสียหายมากกว่า"

                       สรรพคุณของ "ไข่" ไม่เพียงให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายเท่านั้น แต่ "เปลือกไข่" เมื่อผ่านการประดิดประดอยในเชิงช่างศิลป์แล้ว ยังมีคุณประโยชน์ต่อจิตใจได้อีกด้วย ประการนี้ "แพร" พญ.รตา อภิเกษมสันติ์ เอ็กเซ็กคูทีฟ ไดเร็กเตอร์ บริษัท คริสตี้ คอสเมติค จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเวชสำอาง แบรนด์ "ราพีเต้ (Rapete') และแพทย์ประจำ "คลินิกหมอองอาจ" ซึ่งเปิดให้บริการรักษาโรคผิวหนังและดูแลเรื่องความงาม ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา การันตีได้ดีด้วยว่าเธอใช้เวลาค่อยๆ เก็บ ค่อยๆ สะสมมานานกว่า 10 ปี ถึงตอนนี้มีผลงาน "ศิลปะบนเปลือกไข่" ไว้ชื่นชมในตู้โชว์ที่บ้านอยุธยาไม่ต่ำกว่า 30 ชิ้นแล้ว

                       ทายาทสาวคนโตในจำนวน 2 คนของ นพ.องอาจ-พญ.รักษ์ฉนา อภิเกษมสันติ์ เปิดใจถึงที่มาของการสะสมงานศิลปะบนเปลือกไข่ ให้ฟังว่า เป็นความชอบที่ตกทอดมาจากดีเอ็นเอของคุณแม่ ซึ่งเป็นนักสะสมของกระจุกกระจิกชิ้นเล็กชิ้นน้อยจากการเดินทางทั้งในและต่างประเทศจนลูกสาวอย่างเธอค่อยๆ ซึมซับความชื่นชอบทางด้านนี้มาไว้ในตัว

                       "จริงๆ แล้วต้องเริ่มจากคุณแม่ ท่านชอบพวกของกระจุกกระจิก ผู้หญิงด้วยกันใจเดียวกัน เวลาเจออะไรน่ารักๆ ก็มักใจอ่อนซื้อติดมือกลับมาใส่ตู้โชว์ที่บ้าน ช่วยให้บ้านดูสดชื่นมีชีวิตชีวาขึ้นด้วย บวกกับครอบครัวของเรา 4 คนพ่อแม่ลูกชอบเดินทางเที่ยว ต่างประเทศบ้าง ต่างจังหวัดบ้าง ทำให้มีโอกาสได้เจอของประเภทนี้เยอะ เราก็ช่วยกันเลือก ช่วยกันซื้อเอากลับมา แต่ความชอบก็ไม่ถึงขั้นต้องติดตามไปหาซื้อตะลุยหาซื้อขนาดนั้น สรุปว่าขึ้นอยู่กับจังหวะถ้าเจอที่ถูกใจก็ซื้อเก็บกลับมาไว้ที่บ้าน" ว่าที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังในอนาคตอันใกล้นี้ เนื่องจากพอสำเร็จการศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เธอก็มุ่งเข้าศึกษาด้านผิวหนัง ณ สถาบันโรคผิวหนัง ต่อทันที เริ่มบทสนทนาด้วยการปูพรมให้รู้ถึงที่มาของบรรดาเปลือกไข่สวยในขณะที่สองมือกำลังง่วนอยู่กับการจัดเรียงบรรดาไข่ให้อยู่เป็นหมวดเป็นหมู่อย่างทะนุถนอม

                       ความวิจิตร ความเป็นยูนิคของผลงานแต่ละชิ้น คือเสน่ห์มัดใจคุณหมอวัย 26 ปี ให้ยอมควักเงินจากกระเป๋าอย่างไม่คิดเสียดาย แม้บางชิ้นจะมีสนนราคาค่างวดตั้งแต่หลายพันยันหลายหมื่นก็ตาม นอกจากนี้เปลือกไข่ที่สะสมยังเป็นเสมือนเครื่องเตือนความทรงจำในวันวานได้ดีอีกซะด้วยว่า แต่ละชิ้นนั้นได้มาจากไหน แล้วมีความประทับใจอย่างไรบ้าง

                       "ศิลปะที่เขาออกแบบแต่ละชิ้นล้วนมีความสวยความน่ารักต่างกันออกไป เพราะงานแต่ละชิ้นเป็นงานแฮนด์เมดไม่ซ้ำแบบกันเลย นอกจากนี้ก็ช่วยรีมายด์เราได้อย่างดีด้วย เช่น เซตไข่การ์ตูน 4 พี่น้อง นี่เป็นสมาชิกในตู้โชว์ล่าสุดได้มาตอนไปเที่ยวฮ่องกง มันให้อารมณ์เหมือนครอบครัวตัวเอง ส่วนไข่เพ้นท์แผนที่โลกใบนี้ได้มาตอนไปเที่ยวประเทศแอฟริกาใต้ ทำจากเปลือกไข่นกกระจอกเทศ รู้สึกชอบเพราะแปลกดีไม่มีในเมืองไทยก็เลยซื้อกลับมา ส่วนที่เป็นทรงไข่แล้วมีกรอบรูปมันสามารถหุบเข้าไปได้ กับตัวที่เปิดมาเป็นผีเสื้อ ชุดนี้ได้มาจากประเทศรัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่แพรชอบมากๆ ขณะเดียวกันก็มีผลงานของคนไทยด้วย แถมบางชิ้นสวยกว่าต่างประเทศอีกด้วย อย่างเซตเปลือกไข่วินเทจนี่ก็ซื้อในบ้านเรา แสดงว่าฝีมือดีของช่างไทยไม่แพ้ชาติอื่น ที่สำคัญราคาก็ไม่แพงมากเท่าของเมืองนอกอีกด้วย เสียแต่ว่าของบ้านเราหากจะซื้อต้องไปเดินตามงานแฟร์ เนื่องจากเป็นสินค้าเน้นส่งไปจำหน่ายต่างประเทศมากกว่าขายในประเทศ จึงไม่มีวางขายตามท้องตลาดทั่วไปอย่างที่อื่น" คุณหมออารมณ์ดีค่อยๆ เปิดลิ้นชักแห่งความทรงจำเกี่ยวกับของสะสมสุดโปรดออกมาให้ฟังทีละชิ้น

                       ระหว่างหยิบ "ของสะสม" ขึ้นโชว์ถึงความวิจิตรและความพิเศษของแต่ละชิ้น "หมอแพร" เล่าว่า เพราะเป็นชิ้นงานศิลปะซึ่งค่อนข้างบอบบาง จึงต้องใส่ใจและประคับประคองเป็นพิเศษ แม้เธอเองหากอยากเชยชมความงามก็ต้องมองผ่านกระจกตู้โชว์เกือบทั้งสิ้น จะหยิบจับบ้างก็ตอนนำออกมาทำความสะอาด แต่ถึงระมัดระวังขนาดนั้น ก็เคยมีเหตุให้ต้องเสียเปลือกไข่ที่รักไปจำนวนไม่น้อยจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ เพราะต้องรีบขนย้ายหนีน้ำด้วยความรวดเร็ว

                       "ของทุกชิ้นแพรวางไว้ในตู้โชว์ แค่เดินผ่านไปมาในบ้านแล้วเห็นว่าของที่เรารักอยู่ในนั้นก็มีความสุขแล้วค่ะ นอกเสียจากหากมีเวลาว่างจริงๆ ค่อยหยิบออกมาทำความสะอาดด้วยผ้าแห้งอย่างเบาๆ มือ เพราะมิเช่นนั้นอาจทำให้สีหรือคริสตัลที่ติดเอาไว้หลุดลอกออกมาได้ ส่วนเรื่องที่ถามว่าหวงไหมก็ยอมรับว่าหวงมาก  แต่บางครั้งเราทำอะไรไม่ได้ เช่นเมื่อครั้งน้ำท่วม บ้านของแพรอยู่จังหวัดอยุธยาน้ำท่วมสูงมากและนานมาก ต้องรีบขนของที่สำคัญๆ ออกจากบ้านก่อน ทำให้เปลือกไข่บางชิ้นซึ่งถูกน้ำท่วมเสียหายไปหลายสิบชิ้น ที่เสียหายเล็กๆ น้อยๆ ตัดใจทิ้งไม่ได้ก็เก็บไว้ ส่วนชิ้นไหนที่เยอะจริงๆ ก็ต้องตัดใจ แอบเครียด แอบเสียดาย เพราะบางชิ้นมันหาไม่ได้แล้วมีชิ้นเดียวในโลก แต่บางอย่างมันเหนือการควบคุมของเรา ทำใจอย่างเดียว เพราะถ้าเรามัวแต่ไปห่วงของพวกนี้เกรงว่าจะเกิดความเสียหายมากกว่า คือต้องจัดลำดับความสำคัญว่าอะไรมากอะไรน้อยก็ว่ากันไป" คุณหมอวัย 26 ปี เล่าถึงเหตุการณ์สะเทือนใจที่ทำให้ต้องเสียของรัก

                       และถึงแม้ตารางชีวิตของ "หมอแพร" จะแน่นเอี้ยดหาเวลาพักผ่อนอย่างเพื่อนรุ่นเดียวกันไม่ค่อยได้ เพราะต้องช่วยดูแลบริหารงานที่บริษัทซึ่งอยู่ในกรุงเทพฯ ควบคู่กับการเรียนเพิ่มเติมต่อทางด้านผิวหนังที่สถาบันโรคผิวหนัง ตลอด 5 วันต่อสัปดาห์ เสร็จสรรพต้องตีรถกลับบ้านที่อยุธยา เพื่อไปช่วยงานคุณแม่ที่คลินิกในวันเสาร์และอาทิตย์ เจ้าตัวยังยืนยันว่า ทุกวันนี้เธอไม่เหนื่อยและมีความสุขดี นั่นเป็นเพราะเธอมีวิธีคลายความเหนื่อยล้าให้ตัวเอง

                       "จริงๆ แล้ววันเสาร์ อาทิตย์ ไม่ค่อยได้ออกไปไหน เพราะต้องทำงานที่คลินิก ช่วยคุณแม่ทำหน้า ทำเลเซอร์ คลินิกสกินรักษาทั้งสวยงามทั้งโรคผิวหนังด้วย โรคทั่วไปด้วย และมีเวลาเหลือน้อย จะไปไหนก็ไม่ค่อยสะดวก ดังนั้น วิธีผ่อนคลายจากความเครียดของแพรส่วนใหญ่จึงพักผ่อนอยู่ที่บ้าน นั่งดูนั่งชื่นชมของสะสมต่างๆ ที่มีนอกเหนือจากเปลือกไข่ ก็มีพวกรูปสัตว์ทำจากคริสตัล และกระดานหมากรุก ตุ๊กตาเต้นบัลเล่ต์ ฯลฯ หรือไม่ก็ดูหนังฟังเพลง ออกกำลังกายที่บ้าน เพราะมีค่อนข้างครบอยู่แล้ว อีกอย่างแค่ได้นั่งคุยกับคุณพ่อคุณแม่ก็รีแลกซ์ไปในตัวแล้ว" คุณหมอผู้มีศิลปะในหัวใจ เล่าถึงวิธีการสร้างสุขให้ตัวเองเพื่อให้มีแรงสู้กับงานและการเรียนตลอดทั้งสัปดาห์