
'ปวีณา'เยี่ยมด.ญ.4ขวบโดนข่มขืนสภาพจิตใจดีขึ้น
"ปวีณา" เยี่ยม 4 ขวบ เหยื่อถูกข่มขืนบ้านเด็กชลบุรี มอบเงินช่วยเหลือ 3 หมื่นบาท ลั่นคนผิดต้องได้รับโทษ เตรียมรื้อระบบบ้านสงเคราะห์ทั่วประเทศ
วันที่ 1 ก.ย.56 เวลา 11.00 น. นางปวีณา หงสกุล รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วย นายวิเชียร เชาวลิต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายปกรณ์ พันธุ อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เดินทางมาที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อเข้าเยี่ยมอาการ ด.ญ.บี โดยมารดาและด.ญ.บีแสดงอาการดีใจเมื่อเห็นคณะของนางปวีณา โดยสภาพจิตใจของ ด.ญ.บีก็ดีขึ้น เพราะได้กลับมาอยู่กับแม่อีกครั้ง จากนั้น พ.ต.อ.ณรัชต์ได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวน 3 หมื่นบาท
ด้าน น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี มารดาของ ด.ญ.บี กล่าวว่า ตอนเห็นสภาพลูกใจแทบสลาย จึงเข้าไปแจ้งความที่ สภ.บางละมุง วันที่ 30 สิงหาคม และทางนางปวีณาทราบเรื่องจึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบรายละเอียดกับตำรวจผู้เกี่ยวข้อง และเมื่อพูดคุยกับลูกสาวก็ทราบว่าถูกข่มขืนจริงและระบุชัดว่าใครเป็นผู้กระทำ จึงให้ตำรวจประสานอัยการ นักสังคมสงเคราะห์ เร่งสอบสหวิชาชีพ และได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหา แต่ยังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนทำ และยังอ้างว่ามีโรคประจำตัว ข้อสะโพกเสื่อมจนขาขวาใช้การไม่ได้ต้องกลายเป็นคนพิการ และเป็นโรคร้าย จึงขอเข้าอาศัยที่บ้านพักเด็กและครอบครัวชลบุรี
นางปวีณา กล่าวว่า รู้สึกสะเทือนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการเอาผิดกับหัวหน้าบ้านพัก รวมถึงผู้เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป และมีคำสั่งย้าย นางสุดา สุหลง หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชลบุรี เข้ามาประจำส่วนกลางแล้ว คาดว่าจะตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ประมาณ 1 สัปดาห์ สำหรับคดีนี้มีหลักฐานชัดเจนทางนิติวิทยาศาสตร์ แสดงผลตรวจภายในของเด็กว่าถูกกระทำชำเราจริง และได้มอบหมายให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ รายงานผลสรุปในที่ประชุมในวันที่ 2 กันยายนนี้ ผู้ที่กระทำความผิดได้รับบทลงโทษมีมาตรการชัดเจน
อย่างไรก็ตาม จะเรียกประชุมผู้บริหารกระทรวงทั้งหมดหารือแนวทางการทำงานของบ้านเด็กและครอบครัวทั้ง 77 จังหวัด และสถานสงเคราะห์ทุกแห่ง และมีการอบรมประเมินผลพนักงานที่เข้าไปทำหน้าที่ควรเป็นพนักงานหญิงมากกว่าผู้ชาย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา และติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อเก็บข้อมูลต่างๆ ไม่ให้เด็กถูกทำร้าย ตอนนี้ได้ตั้งคณะทำงานและทีมที่ปรึกษาเพื่อลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการทำงานของบ้านพักเด็กและสถานสงเคราะห์ทุกแห่งแล้ว
พ.ต.อ.นพ.พงค์ธร สุโฆสิต นายแพทย์ (สบ 5) หัวหน้ากลุ่มงานผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า ตอนแรกอาการของเด็กมีสภาพศีรษะบวมฟกช้ำ และการรักษาให้ยาปฏิชีวนะ และยาฆ่าเชื้อจนไข้ได้ลดลง อยู่ในสภาพปกติ สภาพจิตใจของเด็กดีขึ้น ตอนแรกเด็กมีความหวาดกลัว ไม่พูดกับใคร ระแวงตลอด จึงให้นักจิตวิทยาคอยเข้าช่วยเหลือฟื้นฟูจิตใจเด็กจนสุขภาพจิตดีขึ้น เด็กมีการพูดคุยกับผู้อื่นมากขึ้น