
คึกคัก!พม่าเปิดใช้วีซ่าที่ด่านพรมแดน
'รมว.ความมั่นคงและชายแดน' รัฐฉาน ประเทศพม่า เผยนักท่องเที่ยวสามารถทำวีซ่าผ่านแดนเข้า-ออกพม่าได้ ชี้เดินทางกลับได้ในทุกช่องทาง
28 ส.ค.56 ทางการพม่าจัดให้มีพิธีเปิดการใช้หนังสือเดินทางระหว่างประเทศและวีซ่าไทย-พม่า ขึ้น โดยมี พ.อ.อ่องดู่ รมว.ความมั่นคงและชายแดน รัฐฉาน ประเทศพม่า เดินทางไปเป็นประธานในพิธีพร้อมได้นำกล่าวชี้แจงเรื่องการอนุญาตประชาชนทั้งสองประเทศ และชาวต่างชาติที่จะสามารถเดินทางเข้าและออกผ่านด่านพรมแดนดังกล่าวได้โดยสะดวกในอนาคต จากนั้น พ.อ.อ่องดู่ และอูชายบ่งติ้น รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมืองเชียงตุง กรมตรวจคนเข้าเมือง ได้ร่วมกันติดริบบิ้นเปิดพิธีบริเวณกลางสะพานข้ามลำน้ำสาย โดยมีภาครัฐและเอกชนของทั้งฝั่งพม่าและฝั่งไทยเดินทางไปร่วมเป็นเกียรติเป็นจำนวนมาก เช่น พ.อ.ยงยุทธ เหล่าเขตร์การ รอง ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง นายสมชัย รุ่งสาคร นายอำเภอแม่สาย นายบุญธรรม ทิพย์ประสงค์ ประธานหอการค้าจังหวีดเชียงราย นายตอง ติ่นทวย ผู้ว่าการจังหวัดท่าขี้เหล็ก
สำหรับการใช้พาสปอร์ตและวีซ่าดังกล่าวจะไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมใดๆ โดยเมื่อไปถึงชายแดนสามารถยื่นพาสปอร์ตแล้วจะดำเนินการนำไปตรวจสอบหรืออ่านสกรีนพร้อมบันทึกภาพบุคคลด้วยกล้องอัตโนมัติส่งข้อมูลเข้าไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ เสร็จแล้วบันทึกข้อมูลเก็บไว้ก่อนจะตีตราอนุญาตให้เข้าสู่ประเทศพม่าได้ ซึ่งผู้ยื่นสามารถเดินทางไปยังทุกแห่งในพื้นที่ที่ได้รับการอนุญาตและยังสามารถเดินทางกลับออกมาได้ในทุกช่องทางไม่ว่าจะเป็นที่สนามบินย่างกุ้ง ช่องทางชายแดนมูเซ-จีน ช่องทางเมียวดี ฯลฯ ได้ด้วย
กรณีเดินทางผ่านยังชายแดนด้านอื่น เช่น เมียวดี เกาะสอง ฯลฯ ก็มีการให้บริการในลักษณะนี้แล้วเช่นกันและสามารถเดินทางออกมาทางท่าขี้เหล็กได้ด้วย อย่างไรก็ตาม หากว่าอายุของวีซ่าเกินกำหนดก็จะมีการปรับวันละ 3 ดอลล่าร์สหรัฐ เสร็จแล้วตีตราเข้าสู่ช่องทางประเทศไทยได้ตามปกติต่อไป เช่นเดียวกับชาวพม่าที่ใช้พาสปอร์ตและวีซ่าก็สามารถเข้าสู่ประเทศไทยสามารถออกและเข้าตามช่องทางต่างๆ ได้โดยเสรี.
พ.อ.อ่องดู่ กล่าวว่า การเปิดพิธีดังกล่าวจะทำให้ประชาชนทั้งสองประเทศและชาวต่างชาติอื่นๆ สามารถใช้พาสปอร์ตและวีซ่าเดินทางเข้าออกผ่านสะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 นี้ได้โดยสะดวก ทั้งนี้สะพานดังกล่าวสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1958 โดยรัฐบาลไทยและพม่าได้ร่วมกันลงนามในสัญญาก่อสร้างและได้ใช้เวลาก่อสร้างเป็นเวลา 3 ปีจึงแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1961 จากนั้นได้มีการทำพิธีเปิดและใช้ประโยชน์ร่วมกันเริ่มมาก กระทั่งวันที่ 16 พ.ค.1997 พล.ท.หม่องหล้า รมว.ว่าการกระทรวงตรวจคนเข้าเมือง ประเทศพม่า และนายประจวบ ไชยศาสนต์ รมว.กระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้ลงนามในบันทึกช่วยจำหรือเอ็มโอยูในการทำหนังสือสัญญาผู้ที่เดินทางเข้าออกระหว่างกัน ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า ผลของข้อตกลงทำให้สามารถใช้หนังสือผ่านแดนชั่วคราวหรือบอร์เดอร์พาส และบัตรผ่านแดนหรือเทมโบรารีบอร์เดอร์ ระหว่างกันได้ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย.1997 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
"ขณะนี้ ประชาชนทั้งฝั่งท่าขี้เหล็กและแม่สาย ทั้งสองฝ่ายมีความสัมพันธไมตรีอันดีต่อกันได้พึ่งพาอาศัยสะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 ในเรื่องการค้าขาย การลงทุน การไปมาหาสู่ได้ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี ที่ชายแดนด้านเมียวดีก็เชื่อมกับ อ.แม่สอด จ.ตาก และที่เกาะสองก็เชื่อมกับ จ.รนอง ก็เช่นเดียวกัน ดังนั้นโครงการนี้จึงทำให้เกิดความกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศให้มีความแน่นแฟ้นมากขึ้น ทั้งด้านการพัฒนาพื้นที่ การท่องเที่ยว การโรงแรม การเตรียมความพร้อมด้านอื่นๆ และว่าช่วงแรกของการปฏิบัติงานคงจะมีคนไทยและประเทศที่สามที่ใช้พาสปอร์ตและวีซ่าเดินทางเข้าออกมาไม่มากนัก กระนั้นเชื่อว่าเมื่อถึงช่วงฤดูหนาวซึ่งเป็นฤดูท่องเที่ยวจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางไปเป็นจำนวนมาก" พ.อ.อ่องดู่ กล่าว