ข่าว

ออกหมายจับ!15แกนนำม็อบยาง

ออกหมายจับ!15แกนนำม็อบยาง

27 ส.ค. 2556

'โฆษก.ตร.'ยืนยันไม่ใช้กำลังสลาย'ม็อบสวนยาง' ย้ำยังไม่จำเป็นใช้กม.พิเศษ พร้อมออกหมายจับม็อบยาง 15 ราย

               27 ส.ค.56 พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงสรุปสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราใน จ.นครศรีธรรมราช ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการปิดการจราจรโดยได้นำรถเทรลเลอร์ขนาดใหญ่มาปิดกั้นเส้นทาง 2 จุด ได้แก่ แยกควนหนองหงส์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช มีผู้ชุมนุมจำนวน 300 คน และบริเวณแยกบ้านตูล ซึ่งเป็นทางกั้นรถไฟ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช มีผู้ชุมนุมจำนวน 150 คน ซึ่งจากการปิดเส้นทางทั้งทางรถยนต์และรถไฟ ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ใช้เส้นทาง จำนวน 15,000 คน รถไฟกว่า 10 ขบวนไม่สามารถเดินทางได้ทำให้มีผู้โดยสารตกค้าง ส่วนผู้ที่เดินทางโดยรถยนต์ต้องอ้อมเส้นทางกว่า 100 กม. หรือต้องใช้เวลาเดินทางเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที รวมถึงการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคได้รับผลกระทบดังกล่าวด้วย

                พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า ล่าสุด พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ได้สั่งเปิด ศปก.ตร. เพื่อติดตามสถานการณ์เต็มรูปแบบตลอด 24 ชม. โดยสั่งการให้สันติบาล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนในพื้นที่ เกาะติดสถานการณ์ด้านการข่าวอย่างใกล้ชิด โดยสรุปว่าขณะนี้มี 2 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มเกษตรกรสวนยางในพื้นที่ที่เดือดร้อนจริงๆ และกลุ่มคนนอกพื้นที่ และกลุ่มที่หวังผลทางการเมือง มีพรรคการเมืองหนุนหลัง รวมทั้งมีกลุ่มวัยรุ่นที่พร้อมก่อเหตุรุนแรง ซึ่งการชุมนุมที่มีการแยกส่วนเช่นนี้ทำให้การเจรจาไม่สามารถทำได้ เพราะไม่มีแกนนำที่ชัดเจน อย่างไรก็ตามการเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการเจรจาผ่านช่องทางฝ่ายปกครอง อาทิ กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน และ อบต.

                โฆษก.ตร. กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการดูแลการชุมนุมในส่วนภูมิภาคอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้อำนวยการเหตุการณ์ และผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เป็น ผู้บัญชาการกองกำลังเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตามเพื่อสนับสนุนการทำงานของกำลังในพื้นที่ ผบ.ตร. ได้มอบอำนาจให้ ผบช.ภ.8 มีอำนาจเต็มในการสั่งการกำลังมาช่วยเหลือในการปฎิบัติภารกิจคลี่คลายสถานการณ์ทั้ง ภ.จว., ตชด., ทล., ทท.,รฟ. และ บ.ตร. และให้จัดตั้งทีมสืบสวนสอบสวน โดยมี รอง ผบช.ภ.8 เป็นหัวหน้า ดำเนินมาตรการทางกฎหมายกับแกนนำที่กระทำผิดกฎหมาย และผู้ก่อความรุนแรงและก่อเหตุวุ่นวายต่างๆ เช่น ขอหมายจับ, การบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว เพื่อดำเนินคดีภายหลังจากการชุมนุม นอกจากนี้ล่าสุด ผบ.ตร.ได้สั่งทีมเชี่ยวชาญการบริหารเหตุการณ์วิกฤต หน่วยบินตำรวจ และฝ่ายเทคโนโลยี ไปสนับสนุนการปฎิบัติ ในพื้นที่เกิดเหตุแล้ว

                ส่วนกรณีกลุ่มผู้ชุมนุม ประกาศจะยกระดับการชุมนุม ในวันที่ 3 ก.ย.นั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ตำรวจในพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด กำชับให้มีการตั้งด่านตรวจค้น ตามจุดต่างๆเพื่อคัดกรองอาวุธและบุคคลต้องสงสัย ,พร้อมให้จัดทำแผนเผชิญเหตุ เตรียมกำลังพลและอุปกรณ์ให้พร้อมรับกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินด้วย ได้สั่งการให้บช.ภ.1-9 บช.น.และศชต.เปิดศปก.ตร.เต็มรูปแบบเพื่อติดตามสถานการณ์การชุมนุมในพื้นที่ของตนเอง เตรียมการทั้งกำลังพลและอุปกรณ์พร้อมไว้ โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความอดทน ละมุนละม่อมและใช้มาตรการตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อให้สามารถเปิดเส้นทางจราจรเพื่อให้ประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้อง สามารถใช้เส้นทางสัญจรไปมาได้

 

 

ตร.ออกหมายจับม็อบยาง15ราย

                พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวด้วยว่า ล่าสุดศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้อนุมัติออกหมายจับแกนนำก่อเหตุรุนแรง 6 คน ได้แก่ นายชญานิน คงลัง นายก้องเกียรติ ชูทอง นายสมภาษณ์ ขวัญทอง นายสัมมิตร จุ้ยปลอด นายประภาส ภักดีรัตน์ และนางวนิดา แก้วมณี ในข้อหากระทำการใดๆ ให้ทางสาธารณะอยู่ในลักษณะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่จราจร ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 229

                ส่วนเหตุการณ์เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ที่เกิดการปะทะกัน ได้อนุมัติออกหมายจับ 9 คน ได้แก่ นายพีรพงศ์ วิชัยดิษฐ์ นายภิญโญ หมื่นจร นายบัญชา ณ พัทลุง นายกิตติวดี ขุนทอง นายสมโภชน์ กำเนิดรักษา นายสำราญ คงสวัสดิ์ นายสากล อินทระ นายสมสุข กำเนิดรักษา และนายสมเกียรติ ทองเสน ในข้อหาร่วมกันปิดกั้นทางหลวง หรือนำสิ่งใดมาขวางหรือวางไว้บนทางหลวง ตาม พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ. 2535 มาตรา 39