ข่าว

สานวัฒนธรรมไทยผ่านงานแกะสลัก

สานวัฒนธรรมไทยผ่านงานแกะสลัก

08 ส.ค. 2556

ไลฟ์สไตล์ : สานวัฒนธรรมไทย ผ่านงานแกะสลัก

 

                             “เอกลักษณ์ชาติไทยไม่มีใครเสมอเหมือน” ถ้อยคำจาก อ.เพ็ญพรรณ สิทธิไตรย์ ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ประณีตศิลป์ ขนานนามให้งาน “แกะสลัก” ของไทย ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องความวิจิตรบรรจงและนับวันจะยิ่งมีการพัฒนารูปแบบของงานรวมถึงเทคนิคใหม่ๆ จนเป็นที่น่าเผยแพร่และยกย่อง โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว ฟอร์จูน โดย อารยา อรุณานนท์ชัย กรรรมการผู้จัดการ จึงขอร่วมสืบสานศิลปวัฒนธรรมอันสวยงามนี้ด้วยการจัดประกวด แกะสลักผัก ผลไม้ ผสานงานใบตอง ดอกไม้สด ขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 15 ภายใต้หัวข้อ “ศิลปาชีพไทย ก้องไกลทั่วโลก” โดยได้รับเกียรติจาก ท่านผู้หญิงภรณี มหานนท์ รองราชเลขานุการในองค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เป็นประธานในพิธี

                             สำหรับการประกวด แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มโรงแรมหรือบุคคลทั่วไป รางวัลชนะเลิศ โรงแรมดุสิตธานี รองชนะเลิศอันดับ 1 โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ รองชนะเลิศอันดับ 2 โรงแรมดิเอมมอรัล กลุ่มนักศึกษาและเยาวชน โดยผลการตัดสิน ชนะเลิศ ม.เทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพฯ รองชนะเลิศอันดับ 1 วิทยาลัยอาชีวศึกษานครปฐม รองชนะเลิศอันดับ 2 ม.มหาสารคาม นอกจากนี้ยังมีรางวัลถ้วยพระราชทานฯ แด่ผลงานที่ฝีไม้ลายมือโดดเด่นที่สุด ได้แก่ โรงเรียนสอนภาษามาริสา

                             กฤษฎา มาตัน และ วิทวัส ปอใฝ่ ตัวแทนจากทีม ม.เทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพฯ เผยว่า งานแกะสลัก ขึ้นอยู่กับความรัก ความชอบ ถ้ามีความสุขที่ได้ทำ ผลงานก็จะออกมาดี เพราะต้องใช้สมาธิและความอดทน หูตาต้องละเอียด ส่วนลวดลายต่างๆ ขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์ โดยผลงานชิ้นนี้ได้แรงบันดาลใจจากพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ใจความว่า "ถ้าในหลวงเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า ป่าที่จงรักภักดีต่อน้ำ" งานจึงเล่าถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนดินที่มีน้ำหล่อเลี้ยง ก่อให้เกิดสรรพสิ่งมากมาย รวมถึงสิ่งมีชีวิต ซึ่งก็ได้สร้างสรรค์ผลงานจากธรรมชาติ พร้อมเพิ่มมูลค่าดังเช่นผลงานหัตถศิลป์ถิ่นไทยภายในศูนย์ศิลปาชีพฯ ซึ่งทรงทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทรงงานเหน็ดเหนื่อยมากว่า 50 ปี เราก็แกะสลักตัวอย่างผลงานเล็กๆ น้อยๆ เพื่อบอกเล่าไปด้วย

                             ด้าน ณรงค์ กระสินฐ์สิทธิ์ จากโรงเรียนสอนภาษามาริสา เผยว่า จากแนวคิดเรื่องศิลปาชีพคือพื้นที่แสงทองของไทย เป็นการจุดประกายนำเอาศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญา และฝีไม้ลายมือ ของคนในชุมชนออกมาสร้างมูลค่าเพิ่ม นอกจากมีรายได้จากการยังชีพแล้วยังเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมไม่ให้เลือนหาย จุดเด่นของงานโชว์คือความละเอียดด้านการแกะสลักผลงานต่างๆ ของศิลปาชีพ เคล็ดลับอยู่ที่มีดและการเลือกวัตถุดิบก่อนอื่นต้องดีไซน์ก่อนว่าอยากให้ออกมาอย่างไร จากนั้นเลือกผลไม้ แล้วก็เป็นเรื่องของการจัดวาง ซึ่งผลงานดังกล่าวเป็นฝีมือของนักเรียนนานาชาติจากญี่ปุ่นร่วมด้วย