'ชาวตลาดริมเมย'เข้าดูความเสียหายหลังน้ำลด | คมชัดลึก

 
          วันที่ 1 ส.ค.56  ผู้สื่อข่าวรายงานจากอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ว่า ขณะนี้น้ำในแม่น้ำเมยได้ลดลงไปมาก ทำให้สภาพน้ำเกือบเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ยังมีน้ำท่วมขังอีกหลายชุมชนกับส่วนราชการ เช่น สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก ต้องให้เจ้าหน้าที่เร่งสูบน้ำออก ขณะผู้ประกอบการร้าคาตลาดริมเมย ซึ่งมีร้านค้าอัญมณี สิ่งประดิษฐ์ที่ทำด้วยไม้และร้านค้าของเก่า รวมทั้งสินค้าอื่นๆ ที่นำเข้ามาจากประเทศพม่า ต่างเข้าไปทำความสะอาด และไปดูความเสียหายของร้านค้าตัวเอง
 
          พบว่าส่วนมากทรัพย์สินเสียหายไปจำนวนมาก เนื่องจากไม่สามารถขนย้ายได้ทัน เพราะกระแสน้ำมาเร็วมาก สภาพร้านค้าเต็มไปด้วนโคลน แต่ก็มีปัญหาน้ำประปาหยุดไหลกับไม่มีไฟฟ้าใช้ จากช่วงที่เกิดเหตุน้ำท่วม เจ้าหน้าที่ต้องตัดกระแสไฟฟ้าบางจุด  เกรงว่าจะได้รับอันตราย นอกจากนี้ยังพบเรือท้องแบนของหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 33 อ.แม่สอด ที่ล่มระหว่างช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยน้ำท่วม อยู่ในสภาพที่เสียหาย
 
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดเมียวดีของพม่าก็ได้รับความเสียหายจำนวนมาก ชาวบ้านต้องไปดูซากทรัพย์สินที่ขนย้ายไม่ทัน แต่โดยภาพรวมน้ำได้ลดลงแล้ว ส่วนทางการไทยยังคงตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือราษฎร ที่มีหลายหน่วยงานในพื้นที่ บริเวณตลาดริมเมย ตำบลท่าสายลวด  อย่างไรก็ตาม สภาพน้ำน้ำท่วมขณะนี้ไหลไปทางด้านอำเภอแม่ระมาด และอำเภอท่าสองยาง
 
          นายบรรพต ก่อเกียรติเจริญ ที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดตาก กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น ถือว่าเป็นบทเรียนของทุกฝ่าย เพราะฝนตกหนักมากมาหลายวัน น่าจะเป็นสัญญาณบ่อบอกว่า น้ำจะท่วมใหญ่ แต่เมื่อดูแล้ว ฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีแต่พูดกันว่ามีระบบสัญญาณเตือนภัย แต่ไม่เคยเห็นเป็นรูปธรรมและขาดเจ้าภาพที่แท้จริง ส่วนความเสียหายนั้น หากมองภาพรวมการค้าชายแดนทั้งหมดแล้ว มีความเสียหายไม่ต่ำ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป จาก 5 วันที่ผ่านมา ทำให้ระบบการค้าทั้งในแม่สอดและจังหวัดเมียวดีของพม่าหยุดชะงักหมด ส่วนทรัพย์สินที่เสียหาย ประมาณกว่า 100 ล้านบาทขึ้นไป โดยเฉพาะการค้าชายแดนวันละ 300 ล้านบาท ขณะที่ร้านค้าในตลาดแม่สอด ตลาดริมเมย ต้องการหยุดสนิทด้วย




 

น้ำป่าทะลักท่วมหมู่บ้านแม่ระมาด ลดลงแล้ว

          นายนรภัทร ปลอดทอง นายอำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในอำเภอแม่ระมาด ได้ลดลงเกือบเข้าสู่สภาวะปกติ โดยเฉพาะในตัวอำเภอน้ำลดลงจนถนนแห้งเป็นที่เรียบร้อย ส่วนพื้นที่อยูติดกลับแม่น้ำเมยยังเสี่ยงภัยอยู่เพราะไม่ทราบว่าจะเพิ่มขึ้มเมื่อไหร่ อย่างไรก็ตาม ได้ตั้งกลุ่มชุดเฝ้าระวังหมู่บ้านและมีทหารพรานช่วยเฝ้าระวังให้อยู่ ซึ่งในขณะนี้ชาวบ้านส่วนหนึ่งได้ย้ายจากที่อพยพเข้าที่พักของตนเองได้ส่วนหนึ่ง ยังเหลืออีกส่วนหนึ่งที่บ้านอยู่ติดริมแม่น้ำเมยยังไม่สามารถย้ายกลับเข้าบ้านของตนได้
 
          ทั้งนี้ อบต. เทศบาลและชาวบ้านได้ระดมกำลังกันช่วยทำความสะอาดถนนและหมู่บ้านซึ่งได้รับความเสียหายเล็กน้อย ส่วนใหญ่จะเสียหายมากในพื้นที่ที่อยู่ติดกับแม่น้ำเมยไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือนหรือร้านค้าและที่เสียหายหนักสุดจะเป็นพื้นที่ทำการเกษตร อาทิ นาข้าว ไร่ถั่วเหลือง และข้าวโพด จะได้รับความเสียหายมากสุด
 
          "จุดที่อพยพชาวบ้านได้มีการช่วยดูแลในเรื่องต่างๆ มีการประกอบอาหารให้ทุกมื้อ จากเจ้าหน้าที่ที่ดูแลและยังมีตั้งจุดรับบริจาคของ โดยตั้งที่โรงเรียนบ้านวังผา เพื่อนำสิ่งของที่ได้รับจากการร่วมบริจาคไปแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในปีนี้ซึ่งตอนนี้ก็ยังมีฝนตกลงเล็กน้อย อาจจะทำให้เกิดน้ำทะลักเข้ามาอีกได้ โดยมีการเฝ้าระวังซึ่งจะดูจากห้วยแม่ระเมาที่มาประจบแม่น้ำเมย" นายนรภัทร กล่าว