
'อ่างคลองหัวช้าง'ป้องน้ำท่วม-แก้น้ำแล้ง
ทำมาหากิน : อานิสงส์ 'อ่างคลองหัวช้าง' พัทลุง ป้องน้ำท่วม-แก้น้ำแล้งภาคเกษตร : โดย...สุรัตน์ อัตตะ
แม้จะมีเพียงแห่งเดียวใน จ.พัทลุง สำหรับแหล่งเก็บกักน้ำต้นทุน ภายใต้ชื่อโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหัวช้าง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ในท้องที่ ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง แต่ทว่าอ่างเก็บน้ำแห่งนี้มีคุณประโยชน์มหาศาลต่อชาว จ.พัทลุง ที่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม อาทิ สวนผลไม้ ปาล์มน้ำมัน ยางพาราและนาข้าว ขณะเดียวยังช่วยป้องกันบรรเทาอุทกภัยในช่วงฤดูฝนที่มักเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.ตะโหมด เขาชัยสนและบางแก้ว
"โครงการอ่างเก็บน้ำคลองหัวช้าง อันเนื่องมาจากพระราชดำริแห่งนี้เป็นอีกโครงการหนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชดำริให้พิจารณาดำเนินการเพื่อช่วยเหลือราษฎรให้มีน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคและทำการเกษตรในพื้นที่ อ.ตะโหมดและยังเป็นแหล่งน้ำต้นทุนให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่าเชียด ซึ่งจะส่งน้ำต่อไปยังพื้นที่การเกษตรในอีก 2 อำเภอคือ อ.เขาชัยสน และ อ.บางแก้ว" พลากร สุวรรณรัตน์ องคมนตรีกล่าวระหว่างเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ
พลากร กล่าวต่อว่า เป็นที่ประจักษ์โดยทั่วกันว่าโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั่วประเทศกว่า 4,350 โครงการในปัจจุบันนั้น ล้วนเอื้ออำนวยก่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชนและนับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฎรในพื้นที่ภาคใต้เมื่อปี 2502 ทำให้ทรงรับทราบข้อมูล สภาพปัญหาของพื้นที่ภาคใต้ ทั้งน้ำท่วม น้ำแล้ง ดินเค็ม ดินเปรี้ยว จนนำมาสู่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่กระจายอยู่ทั่วภาคใต้จำนวน 822 โครงการในปัจจุบัน แยกเป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำจำนวน 561 โครงการ เฉพาะในพื้นที่จ.พัทลุง มีจำนวน 33 โครงการ
ขณะที่ สุวัฒน์ เทพอารักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ย้อนที่มาของโครงการ โดยเริ่มจากประธานสภาตำบลตะโหมดนายบุญชอบ เพชรหนู ประธานสภาตำบลคลองใหญ่นายหวัง เสถียรและประธานสภาตำบลแม่ขรีนายสวัสดิ์ มุสิกะสงศ์ ได้มีหนังสือถึงราชเลขาธิการเพื่อขอพระราชทานก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองหัวช้าง โดยให้เหตุผลว่าท้องที่ทั้ง 3 ตำบลนี้มีประชากรรวมทั้งสิ้น 21,443 คนประกอบอาชีพทำนาและทำสวนเป็นอาชีพหลัก มีพื้นที่ทำการเกษตรกว่า 73,158 ไร่ แต่การประกอบอาชีพดังกล่าวไม่ได้ผลเต็มที่เนื่องจากขาดแคลนน้ำ
ต่อมาสำนักราชเลขาธิการได้มีหนังสือถึงกรมชลประทานขอให้พิจารณาความเป็นไปได้ของโครงการ โดยกรมชลประทานร่วมกับ จ.พัทลุง ได้ศึกษารายละเอียดของโครงการและพิจารณาความเหมะสมเห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่จะดำเนินโครงการ จากนั้นวันที่ 18 เมษายน 2534 สำนักราชเลขาธิการได้มีหนังสือแจ้งให้กรมชลประทานและผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงในขณะนั้นรับทราบว่าความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
เลขาธิการสำนักงาน กปร.กล่าวต่อว่า จากนั้นกรมชลประทานได้ดำเนินการศึกษารายละเอียดโครงการโดยได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมในการก่อสร้างและเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี 2548 แล้วเสร็จในปี 2555 รวมระยะเวลาดำเนินการก่อสร้าง 8 ปี ค่าก่อสร้างประมาณ 802.2 ล้านบาท ประกอบด้วยทำนบดิน 3 แห่งและอาคารประกอบ ความยาวเขื่อน 747 เมตร สามารถเก็บกักน้ำสูงสุด 30 ล้านลูกบาศก์เมตร มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งน้ำต้นทุนช่วยเหลือการเพาะปลูกในพื้นที่การเกษตรเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำในภาวะฝนทิ้งช่วงและช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยในฤดูฝนในพื้นที่ 3 อำเภอได้แก่ อ.ตะโหมด เขาชัยสน และบางแก้ว ตลอดจนใช้เป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจของคนในพื้นที่อีกด้วย
สำหรับโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหัวช้าง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ถือเป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำตามแนวพระราชดำริ 1 ใน 2,900 โครงการที่มีอยู่ทั่วประเทศ มีเป้าหมายหลักในการช่วยเหลือราษฎรมีน้ำใช้เพื่ออุปโภคบริโภคและการเกษตร อันจะส่งผลให้ราษฎรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นนั่นเอง
-----------------------------
(ทำมาหากิน : อานิสงส์ 'อ่างคลองหัวช้าง' พัทลุง ป้องน้ำท่วม-แก้น้ำแล้งภาคเกษตร : โดย...สุรัตน์ อัตตะ)