'สมีคำ'แหกตา!หยกปลอมทำพระแก้วฯ | คมชัดลึก

              16ก.ค.2556 หลังการประชุมร่วมคณะพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับการพิจารณาเพื่อขอศาลออกหมายจับนายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระวิรพล (หลวงปู่เณรคำ)ที่ถูกคณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษมีมติให้พ้นจากการเป็นพระเหตุต้องอาบัติปาราชิก รวมถึงการโยกย้ายเงินในบัญชีที่มีอยู่จำนวน 200-300 ล้านบาท และเหลือเพียง 2-3 ล้านบาทนั้น  ร.ต.อ.หญิงเสาวนีย์ แสวงผล รองเลขาธิการปปง. กล่าวว่า ยังไม่มีรายงานส่งเข้ามายัง ปปง. ดังนั้นจึงต้องขอดูรายละเอียดที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง ทั้งนี้ ปปง.ได้มีการขอความร่วมมือไปยังสถาบันทางการเงิน เกี่ยวกับประวัติการทำธุรกรรมด้วย

              "ในส่วนของบัญชีที่มีการโยกย้ายเงินนั้น ไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวกับบัญชีที่ ปปง.สั่งอายัดไว้ก่อนมานี้แล้ว แต่หากมีการโยกย้ายบัญชีที่มีการสั่งอายัดเอาไว้ก็จะเข้าข่ายการฟอกเงินทันที สำหรับกรณีทองคำจำนวน 8,000 กิโลกรัมนั้น ปปง.ได้ร่วมกับกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พยายามติดตามอยู่ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากยังอยู่ในชั้นความลับอยู่" ร.ต.อ.หญิงเสาวนีย์ กล่าว

จนท.ลงพื้นที่เก็บข้อมูล-สืบพยาน

              ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอดิศร กิจบำรุง นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ ปปง. ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ เรียกสอบพยานเกี่ยวกับกรณีอดีตพระวิรพล เกี่ยวกับเส้นทางการเงิน ความเคลื่อนไหวในพื้นที่ การได้มาซึ่งทรัพย์สิน การได้มาซึ่งเงินบริจาค การใช้ชีวิตขณะปฎิบัติธรรมที่ที่พักสงฆ์ป่าขันติธรรม และเดินทางไปที่ไหนบ้าง ไปทำอะไร ขณะที่เทศนาได้เทศน์เกี่ยวกับเรื่องใดบ้าง เทศนาแล้วไปไหน ไปด้วยยานพาหนะอะไรบ้าง ได้นำสิ่งของเครื่องใช้ เงินทองที่ญาติโยมถวายไปด้วยหรือไม่ นำไปเก็บไว้ที่ใด ฝากธนาคารหรือไม่ ฝากธนาคารไหนบ้าง จำนวนเท่าใด มีบัญชีรายชื่อเกี่ยวข้องเชื่อมโยงใครบ้าง พร้อมกับมีการออกใบรับบริจาคเพื่อนำไปลดหย่อนภาษีหรือไม่ ใครลงนามในใบลดบริจาค หรือใบอนุโมทนาบัตรเหล่านั้น

              นายอดิศร กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นเพียงการลงมาสอบสวนข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนที่ยังไม่ครบถ้วน หลังจากที่มีการเดินทางมาสอบสวนไปแล้วรอบหนึ่ง แต่เมื่อมีประเด็นที่จะต้องขยายความถึงเส้นทางทางการเงิน ที่ไปที่มาของเงินที่นำมาใช้จ่ายในวัด ในส่วนตัวของอดีตพระวิรพล หรือในสำนักงานมูลนิธิฯ จะต้องลงมาขอข้อมูลเพิ่มเติม ประกอบกับขณะนี้ทางเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ มีคำสั่งให้อดีตพระวิรพลอาบัติปาราชิกแล้ว การทำงานจะสะดวกมากขึ้นในการเข้าถึงข้อมูล และการดำเนินคดีทางกฎหมาย โดยจะได้นำข้อมูลไปเสนอฝ่ายหัวหน้างานเพื่อสรุปส่งดำเนินการต่อไป คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้

แย้มเจอหลักฐานสำคัญโยงเครือข่าย

              นายวิรอด ไชยพรรณา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ในการขอข้อมูลของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของ ปปง. จะเน้นในส่วนของการมาเป็นพระของอดีตพระวิรพล ว่ามาได้อย่างไร มาจากไหน และมีใครสนับสนุน สังกัดที่ไหน มีใครมาถวายเงินสร้างวัด สร้างสิ่งก่อสร้างได้อย่างไร ส่วนใหญ่น่าจะพุ่งเป้าไปที่เส้นทางทางการเงินทั้งในส่วนของวัด และส่วนตัวอดีตพระ ข้อมูลเหล่านี้ได้รายงานให้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้รับทราบมาโดยตลอด ถือว่าเป็นเรื่องปกติในด้านข้อมูล ส่วนจะพาดพิงไปสู่ใครบ้าง และสอบใครบ้างก็ไม่ทราบเช่นกัน

              นอกจากนี้ทีมงานของเจ้าหน้าที่ชุดนี้ได้ลงปูพรมยังพื้นที่ทั้งในตัวหมู่บ้านยาง ในส่วนตำบลยาง ในเขตอำเภอกันทรารมย์ และในตัวเมืองศรีสะเกษ พบว่าได้ออกสอบพยานในหลายพื้นที่ บางแห่งเปิดเผยได้ บางแห่งยังถือว่าเป็นความลับของพยานปากสำคัญๆ

พบแหกตาใช้ปูนทำพระแก้วมรกตไม่ใช่หยก

               ขณะเดียวกันพ.อ.ชัชนันท์ เชื้ออำนาจ รอง ผบ.สำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ชำนาญการพิเศษและคณะ ได้เดินทางพร้อมกับนายขจร มุกมีค่า ผอ.สำนักงานศิลปากรที่11 อุบลราชธานี เพื่อมาร่วมกันตรวจสอบองค์พระแก้วมรกตจำลองที่สร้างใหญ่ที่สุดในโลก ที่พักสงฆ์ป่าขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ และเปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างองค์พระแก้วมรกตจำลองที่อ้างว่าสร้างจากหินหยกจากประเทศอินเดีย แต่พบว่าด้านท้ายองค์พระแก้วฯมีเศษวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างที่อ้างว่าเป็นหินหยกแต่พบกระสอบปูนเขียวๆและเมื่อนำมาผสมกับน้ำ ผงปูนเขียวดังกล่าวจะแข็งตัวและเป็นคล้ายวัสดุที่นำมาหล่อเป็นแผ่นนำมาติดกันเป็นแผ่นขนาดใหญ่ และนำไปติดตามตัวองค์พระที่หล่อองค์พระด้านในเป็นปูนไว้ก่อน

              "ในชั้นนี้จึงเชื่อได้ว่าวัสดุที่นำมาสร้างองค์พระแก้วฯ ไม่ใช้หินหยกที่นำเข้ามาจากประเทศอินเดียอย่างที่มีการโฆษณาชวนเชื่อเพื่อให้ญาติโยมร่วมกันบริจาคเงินจำนวนมากๆ มาร่วมสร้างแต่อย่างใด"  พ.อ.ชัชนันท์ กล่าว

              นายทัศนะ ภูผาธรรม หัวหน้ากลุ่มอนุรักษ์โบราณสถานี สำนักงานศิลปากรที่11 อุบลราชธานี  กล่าวว่า  องค์พระได้ก่อสร้างยังไม่สมบูรณ์และขณะนี้คานที่รับน้ำหนักเริ่มทรุดตัว เหล็กที่สร้างยังไม่แล้วเสร็จแต่มีการทิ้งงานไปอันเนื่องมาจากเกิดคดีความกับอดีตพระวิรพลเสียก่อน ทำให้เริ่มมีสนิมและองค์พระเอนไปด้านหลังเล็กน้อยแล้ว เชื่อว่าหากเจอฝนตกหนักๆ ในช่วงนี้องค์พระอาจที่จะทรุดตัวและพังลงมาได้
 

"สุขุม"ยื่นทูตมะกันให้ความเป็นธรรม


            นายสุขุม วงประสิทธิ ประธานเครือข่ายบ้านวิมุตติธรรม กล่าวว่า ได้เดินทางไปยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงเอกอัคราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย เรื่องขอความเป็นธรรม ในการปฏิบัติหน้าที่ พิจารณาคำร้องของสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ ดีเอสไอ มหาเถรสมาคม ในการร้องขอให้มีการถอนวีซ่าของนายวิรพล

เปิดรับบริจาคเงินแล้วขอเครื่องราชฯไม่เหมาะ

              สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม) เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) กล่าวว่า กรณีที่ทางอดีตพระวิรพลมีการขอรับบริจาคเงินเพื่อนำไปสร้างตึกสงฆ์อาพาธที่รพ.ร้อยเอ็ด โดยระบุด้วยว่าจะมีการขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้กับผู้ที่บริจาคเงินตั้งแต่ 1 แสนบาทขึ้นไปนั้น การที่พระสงฆ์กระทำในลักษณะดังกล่าวถือว่าไม่มีความเหมาะสม เพราะเหมือนเป็นการทำให้ประชาชนหลงเชื่อ ทั้งนี้หากจะมีการกระทำในลักษณะดังกล่าวโดยที่จะมีการขอเครื่องราชฯ ให้กับผู้ที่บริจาคเงินนั้นสามารถทำได้ แต่ควรที่จะดำเนินการภายหลังจากที่มีผู้บริจาคเงินด้วยความศรัทธาเข้ามาแล้ว ไม่ใช่นำไปโฆษณาในลักษณะดังกล่าวเพื่อเป็นการเชิญชวนให้ประชาชนหลงเชื่อและบริจาคเงิน   
 

ศน.จัดงานอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษา

              ที่หน้าศาลาการเปรียญวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์  กรมการศาสนา (ศน.) กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จัดแถลงข่าวงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ประจำปี 2556  โดยมีพระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร   เป็นประธานฝ่ายสงฆ์  นายสุระ เตชะทัต ที่ปรึกษา รมว.วธ. เป็นประธานฝ่ายฆราวาส  พร้อมด้วย นายปรีชา กันธิยะ   อธิบดี ศน.  และประชาชน นักเรียนนักศึกษาเข้าร่วมพิธีจำนวนมาก
    
              นายสุระ  กล่าวว่า ศน. กำหนดจัดกิจกรรมในเทศกาลอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษาทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ระหว่างวันที่ 16 - 22 กรกฎาคมนี้  โดยส่วนกลางกำหนดจัดพิธีพิธีที่บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยมีกิจกรรมเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีหล่อเทียนพรรษาโบราณ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ   สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ  61 พรรษา  28 ก.ค. 2556  ร่วมหล่อเทียนพรรษา จำนวน 10 ต้น  ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์  จากนั้น ในวันที่ 19 ก.ค. 56 เวลา 09.00 น. จะมีการจัดริ้วขบวนแห่ต้นเทียนพรรษา 10 ริ้วขบวน  ณ  มณฑลพิธีท้องสนามหลวง  แห่ไปถวายยังพระอารามหลวง 10 วัด  ได้แก่ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร   วัดปากน้ำภาษีเจริญ วัดบวรนิเวศวิหาร วัดสุทัศน์เทพวราราม วัดไตรมิตรวิทยาราม วัดสามพระยา วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ วัดราชนัดดาราม วัดสุวรรณาราม และวัดปรินายก เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติ ถวายเป็นพระราชกุศล และร่วมสืบสานประเพณีทางพระพุทธศาสนา
    
              ที่ปรึกษา รมว. วธ. กล่าวอีกว่า ในส่วนภูมิภาค จะมีพิธีหล่อเทียนพรรษา และถวายเทียนพรรษา ในวันที่  20 - 22 ก.ค.    ทั้งนี้ภายในงาน จะมีกิจกรรมทางพุทธศาสนา อาทิ  พิธีถวายผ้าอาบน้ำฝน  ทำบุญตักบาตร   เวียนเทียนฟังพระธรรมเทศนา และเจริญจิตภาวนา  พร้อมทั้งส่งเสริมให้ พุทธศาสนิกชนแต่งกายด้วยชุดขาวเข้าวัดปฏิบัติในวันธรรมสวนะตลอดเทศกาลเข้าพรรษา ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.  เป็นต้นไป รวมทั้งเชิญชวนชายไทย ร่วมบรรพชาอุปสมบทเป็นพระสงฆ์อยู่จำพรรษาตลอดฤดูพรรษากาลทั้ง 3 เดือน
    
              ด้านนายปรีชา กล่าวว่า ในช่วงเข้าพรรษานี้ ศน. ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมพิธีหล่อเทียนโบราณเพื่อร่วมสืบสานประเพณีที่ดีงามของพุทธศาสนิกชนไว้  ช่วงเทศกาลเข้าพรรษา  ถือ เป็นช่วงเลาจะได้มีโอกาล ถวายเทียนที่แสดงถึงความส่องสว่าง ใครที่ได้ถวายเทียนจะได้รับอานิสงส์ให้มีสติปัญญาสว่างไสว  อีกทั้งการที่คนในชุมชน หรือองค์กรต่างๆ มีโอกาสมาร่วมกันหล่อเทียนนำไปถวายวัด ยังเป็นการรักษาพระพุทธศาสนา  เกิดความสามัคคีกันในชุมชน  โดยเฉพาะสังคมไทยในปัจจุบันที่ยังขาดการทำกิจกรรมทางศาสนา จึงก่อให้เกิดความขัดแย้งกันทั้งในสังคม และครอบครัว ดังนั้น จึงอยากให้ประชาชนเห็นความสำคัญของเทศกาลทางศาสนาใช้ช่วงเวลานี้เข้าวัดทำบุญ  เพื่อความสมานฉันท์กันในประเทศ