ข่าว

ไปมวกเหล็กเข้า'คุณสุขฟาร์ม'

ไปมวกเหล็กเข้า'คุณสุขฟาร์ม'

07 ก.ค. 2556

ไปมวกเหล็กเข้า 'คุณสุขฟาร์ม'แหล่งใหญ่เลี้ยงแพะภาคกลาง : คอลัมน์ท่องโลกเกษตร : โดย...ดลมนัส กาเจ

               ปีนี้เป็นปีแรกที่กรมปศุสัตว์เปลี่ยนสถานที่จัดงาน "วันแพะแห่งชาติครั้ง "จากปกติที่เคยจัดในพื้นที่ภาคใต้มาแล้ว 9 ครั้ง พอครั้งที่ 10 กรมปศุสัตว์โดยสำนักงานปศุสัตว์เขต 1 ร่วมกับจังหวัดสระบุรี มาจัดในภาคกลาง ณ ลานประกวดขององค์การส่งเสริมการเลี้ยงโคนมแห่งประเทศไทย( อ.ส.ค.) อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ซึ่งจัดไปแล้วระหว่างวันที่ 11-13 มิถุนายนที่ผ่านมา เพราะเห็นว่าในพื้นที่ภาคกลางเกษตรกรหันมาเลี้ยงแพะมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่สระบุรีและลพบุรี เป็นต้น

                การที่กรมปศุสัตว์หันมาจัดงานวันแพะแห่งชาติภาคกลาง เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรหันมาเลี้ยงแพะ เนื่องจากสถานการณ์การผลิตแพะในประเทศไทยกำลังขาดแคลน ไม่เพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ ทำให้ราคาเนื้อแพะในพื้นที่ภาคใต้ขายทั้งตัวตกกิโลกรัมละ 190-200 บาท ฉะนั้นควรอย่างยิ่งที่จะส่งเสริมให้มีการเลี้ยงแพะ เนื่องจากอีก 1 ปีครึ่งเท่านั้นที่ประเทศในกลุ่มอาเซียนจะรวมตัวเป็นหนึ่งเดียวภายใต้กรอบประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ถึงเวลานั้นเรามีประชากรที่จะทำการค้าโดยเฉพาะสินค้าเกษตรชนิดที่ไร้ขอบเขตภาษีกับคนอีกกว่า 600 ล้านคน

                ในจำนวนประชากรเออีซีกว่า 600 ล้านคน จะเป็นผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม หรือมุสสลิมกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งปกติชาวมุสลิมนิยมบริโภคแพะอยู่แล้ว แต่ปัจจุบันไม่แพร่หลาย เนื่องเพราะแพะราคาแพง ที่สำคัญในปัจจุบัน แพะไม่ใช่อาหารมุสลิมอีกต่อไป หากแต่บริโภคกันทั้งโลกโดยเฉพาะออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และยูโรป แม้แต่ประเทศจีนหลายมณฑลที่นิยมบริโภคเนื้อแพะเป็นอาหารประจำวัน

                ในระหว่างที่จัดงาน "วันแพะแห่งชาติครั้ง 10" ที่ อ.มวกเหล็ก ได้มีโอกาสแวะไปที่ "คุณสุขฟาร์ม" ของ เชาวรัตน์ อ่ำโพธิ์ ประธานกลุ่มเกษตรกรการพัฒนาแพะ-แกะสระบุรี ที่ ต.ลำสมพุง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี  ซึ่งเป็นฟาร์มแพะเนื้อขนาดกลาง แต่เฉพาะในภาคกลางถือเป็นรายใหญ่ที่สุดก็ว่าได้ ที่สำคัญฟาร์มแห่งนี้มีการพัฒนาสายพันธุ์ให้แม่แพะออกลูกเป็นครอก ครั้งละ 4 ตัว 

                "คุณสุขฟาร์ม" อยู่ท่ามกลางล้อมรอบของขุนเขา กินเนื้อที่เกือบ 100 ไร่ ภายในฟาร์มแบ่งพื้นที่บ้านพักของเจ้าของ และเรือนพักของนิสิตนักศึกษา ส่วนใหญ่ที่ไปมาจากภาควิชาสัตวบาล คณะเกษตรและคณะสัตวแพทย์ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ไปฝึกงานรุ่นละกว่า 10 คน อีกส่วนหนึ่งเป็นโรงเรือนของแพะ-แกะ โรงเรือนขุนแพะ และโรงเรือนสำหรับแม่แพะลูกอ่อน ขณะที่พื้นที่สวนใหญ่ของฟาร์มเป็นทุ่งหญ้าสำหรับเป็นที่หากินของแพะราว 500 ตัวในฟาร์มแห่งนี้นั่นเอง   

                เชาวรัตน์ เล่าว่า เริ่มทำฟาร์มแพะเนื้อขนาดเล็กมาตั้งแต่ปี 2548 โดยใช้โรงเรือนของโคขุนมาดัดแปลงเป็นโรงเรือนเลี้ยงแพะเป็นโรงเรือนยกพื้นสูง 1.5 เมตร ในพื้นที่ 15 ไร่เริ่มจากแม่พันธุ์แพะ 36 ตัว พ่อพันธุ์ 2 ตัวเลี้ยงไปพัฒนาสายพันธุ์ให้ได้แพะโตเร็วและแข็งแรงเหมาะกับสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย เวลาผ่านไป 2 เดือนซื้อแพะเพศผู้ที่หย่านมแล้ว 32 ตัว ทดลองขุน

                เวลาผ่านไป 1 ปี ในปี 2549 ได้ปรับพื้นที่อีก 52 ไร่ เพื่อจะทำเป็นฟาร์มแพะตามหลักวิชาการ โดยกั้นบริเวณเป็นพื้นที่สำหรับสร้างโรงเรือนแพะแยกตามเพศ วัย และประเภทของแพะ พร้อมโรงเก็บอาหารแพะ ห้องเก็บยา อุปกรณ์ และห้องทำงานเกี่ยวกับสัตวบาลรวมเป็นเนื้อที่ 5 ไร่ ส่วนที่เหลือ ได้กั้นรั้วเพื่อทำเป็นแปลงหญ้าสำหรับปล่อยแพะแทะเล็มโดยได้แบ่งเป็นแปลงย่อยจำนวน 8 แปลง จนปัจจุบันขยายพื้นที่ทำฟาร์มแพะเกือบ 100 ไร่ มีแม่แพะราว 500 ตัว เน้นเป็นแพะลูกผสม 3 สายพันธุ์ คือ พันธุ์บอร์ซาแน และพันธุ์แองโกลนูเบียน 

                สำหรับการเลี้ยงแพะจะสร้างความมั่นคงแก่เกษตรกรหรือไม่ เชาวรัตน์ บอกว่า ขึ้นอยู่กับระบบบริหารจัดการด้วย โดยเฉพาะในเรื่องของการคัดเลือกสายพันธุ์ที่จะใช้ปรับปรุง เพราะหากพ่อแม่พันธุ์เป็นแม่พันธุ์ที่ให้น้ำนมน้อยและให้น้ำนมเพียงระยะสั้นแล้ว ลูกแพะที่เกิดอาจไม่รอดหรือแคะแกร็นได้ โดยเฉพาะเมื่อให้ลูกแฝด เนื่องจากแม่แพะมีน้ำนมเลี้ยงลูกไม่เพียงพอ ที่สำคัญอย่ามองข้ามในเรื่องของพ่อพันธุ์ อย่างที่คุณสุขฟาร์ม หลังจากที่นำแม่พันธุ์ไปถ่ายพยาธิ ให้อาหารเสริมพวกโปรตีน วิตามิน พ่อแพะมีสุขภาพแข็งแรง จึงใช้แม่พันธุ์ 50 ตัวต่อพ่อพันธุ์ 20 ตัว เพื่อให้มีการผสมพันธุ์มากที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงในการที่จะไม่ตั้งท้อง

                "ตอนนี้ที่ฟาร์มแม่พันธุ์ของผม 1 ตัว ออกลูกเป็นครอก 4 ตัว พอลูกแพะหย่านม นำไปขุนอีก 50 วันก็สามารถขายได้แล้ว ตอนนี้แพะในพื้นที่ จ.สระบุรี และภาคกลาง ขายทั้งตัวเป็นๆ ราคากิโลกรัมละ 135-150 บาท ถ้าเกษตรกรดูแลดี การเลี้ยงแพะถือเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ดี เพราะตลาดต้องการสูงมาก เฉพาะในประเทศไทยก็ไม่เพียงพอ ตลาดหลักอยู่ที่ภาคใต้ หากเรารวมเป็นเออีซีตลาดแพะยังมีอีกมาก อย่างฟาร์มผมแต่ละที่ก็มีรายได้พอสมควร นอกจากนี้ผมยังได้ส่งเสริมให้มีการใช้หนังแพะแกะทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ และใช้นมแพะทำสบู่ และครีมทาผิวอีกด้วย" เชาวรัตน์ กล่าว

                ส่วนการดูแลฟาร์ม เชาวรัตน์บอกว่า ต้องเน้นในเรื่องของความสะอาด มีการกวาดมูลแพะออกจากโรงเรือนทุกวัน ต้องพ่นยาฆ่าเชื้อโรคตามที่กำหนด นอกจากนี้ต้องหมั่นฉีดพ่นสารจุลินทรีย์เป็นประจำเพื่อกำจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์อีกด้วย หากเกษตรกรประสงค์ที่จะเลี้ยงแพะและแกะ แต่ยังขาดความ รู้สามารถสอบถามหรือเข้าฝึกอบการเลี้ยงแพะ แกะที่ฟาร์มคุณสุขฟาร์มได้ สนใจสอบถามที่ 08-9203-1424
 

.......................................

(ไปมวกเหล็กเข้า 'คุณสุขฟาร์ม'แหล่งใหญ่เลี้ยงแพะภาคกลาง : คอลัมน์ท่องโลกเกษตร : โดย...ดลมนัส  กาเจ)