
ลุยสวน'เกษตรอินทรีย์'ของดีเมืองจันท์(2)
ลุยสวน'เกษตรอินทรีย์'ของดีเมืองจันท์(2) ชิมผลไม้ปลอดสารเคมีที่สวน'ลุงคำนึง' : คอลัมน์ท่องโลกเกษตร : โดย...สุรัตน์ อัตตะ
หลังเต็มอิ่มกับการสัมผัสความอลังการของไม้ดอกไม้ประดับภายในสวนวิชาพันธุ์ไม้ที่ต.หนองใหญ่ อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี ของคุณวิชา โกมลกิจเกษตร นายกสมาคมไม้ดอกไม้ประดับภาคตะวันออก จากนั้นเราก็มุ่งหน้าสู่สวนลุงคำนึง ชนะสิทธิ์ ที่บ้านซำปลาไหล หมู่ 12 ต.สองพี่น้อง อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เป็นที่หมายต่อไป ซึ่งเป็นสวนที่ได้ชื่อว่าเป็นสวนผลไม้อินทรีย์ต้นแบบของจ.จันทบุรี เพราะทุกอย่างที่นำมาใช้ในสวนแห่งนี้ปลอดสารเคมี 100%
ปัจจุบันสวนลุงคำนึง นอกจากเป็นจุดเรียนรู้ศึกษาดูงาน และเปิดอบรมให้แก่กลุ่มเกษตรกรที่สนใจศึกษาในเรื่องการทำเกษตรอินทรีย์แล้วยังเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร มีผลไม้ตามฤดูกาลให้ได้ลิ้มลองกันตลอดทั้งปี ส่วนการบริหารจัดสวนนั้น ลุงคำนึงบอกว่าได้ยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเครื่องชี้นำทาง ภายใต้แนวคิดที่ว่า "เกษตรอินทรีย์ทำได้จริง ดีจริง แต่ต้องทำด้วยความตั้งใจ"
ด้วยประสบการณ์ที่ปราชญ์ชาวบ้านวัยใกล้ 70 ได้คลุกคลีอยู่กับการทำสวนช่วยบิดามารดามาตั้งแต่อายุเพียง 10 ขวบ ทำให้วันนี้เขาได้กลายเป็นเกษตรกรหัวก้าวหน้าที่ผู้คนในแวดวงเดียวกันนับถืออย่างถ้วนหน้า โดยเริ่มจากทำอาชีพเกษตรอย่างจริงจังจากสวนยางพารา พริกไทย และส้ม ในเนื้อที่เพียง 10 ไร่ ก่อนเปลี่ยนมาปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ชะนี มังคุด ลองกองและผลไม้อื่นๆ อีกหลากหลายในเวลาต่อมา
ในอดีตลุงคำนึงก็ไม่ต่างจากเกษตรกรรายอื่นๆ ในจ.จันทบุรีที่นิยมปลูกพืชชนิดเดียว ตามกระแสความต้องการของตลาด ต้องแข่งขันกันปลูกเร่งให้ได้ผลผลิตสูง โดยการใช้สารเคมีเป็นตัวเร่ง ส่งผลให้เกิดโรคพืชมากมายในเวลาต่อมา มีการระบาดของเชื้อโรคพืชหลากชนิด โดยเฉพาะเชื้อรา เช่น โรครากเน่า โคนเน่า เป็นต้น หนำซ้ำเมื่อผลผลิตที่ออกมาพร้อมๆ กัน จึงเกิดปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำตามมา ผลที่ได้รับคือขาดทุน
กระทั่งได้รับการแนะนำจากเจ้าหน้าที่พัฒนาที่ดินจังหวัด และสำนักงานเกษตรอำเภอท่าใหม่ในเรื่องการดูแลรักษาปรับปรุงบำรุงดิน โดยแนะนำให้ใช้ปูนโดโลไมท์มาหว่าน เพื่อลดกรดในดิน ทำให้ดินดีขึ้น และลดการระบาดลงได้ จากนั้นหาวิธีใช้ต้นทุเรียนพันธุ์ต้านทานโรคปลูกจากเมล็ดพันธุ์พื้นเมือง และใช้พันธุ์ทุเรียนหมอนทองมาทาบกิ่งและติดตา จนได้พันธุ์ที่ต้านทานต่อโรคได้ ก่อนขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มอีก 20 ไร่
นอกจากนี้ยังได้นำสมุนไพรหลายชนิดมาปลูกแซมในสวนเพื่อเป็นการอนุรักษ์แต่กลายเป็นรายได้ให้ทุกสัปดาห์สามารถขายได้ตลอดทั้งปี ส่วนไม้ผลที่ปลูกเป็นหลักปีหนึ่งขายได้เพียงครั้งเดียวและสังเกตได้ว่าจากการปลูกพืชผสมผสานทำให้ต้นไม้มีการเจริญเติบโตที่ดี เนื่องจากการช่วยเหลือเกื้อกูลกันตามธรรมชาติเกิดเป็นสังคมพืช สมุนไพรหลากหลายชนิดใต้โคนต้นผลไม้
ไม่ว่าจะเป็นกระวาน หน่อแดง ว่านสาวหลง ขมิ้นชัน ขมิ้นอ้อย เตยหอม ตะไคร้หอม ชะพลู และอีกหลายสิบชนิดช่วยคลุมดินให้ชุ่มชื้น ทำให้สิ่งมีชีวิตในดินและแมลงที่เป็นประโยชน์กลับคืนมา ป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา นอกจากนี้ กลิ่นของสมุนไพรสามารถขับไล่แมลงศัตรูพืชได้อีกด้วย
ส่วนช่วงเกิดวิกฤติภัยแล้ง ลุงคำนึงก็ได้คิดวิธีการให้น้ำไม้ผลในสวน ด้วยระบบมินิสปริงเกลอร์ ทำให้ประหยัดน้ำ จนมีเกษตรกรได้ไปศึกษาดูงานการวางระบบน้ำในสวน พร้อมทั้งได้รับเชิญไปสาธิตในงานนิทรรศการต่างๆ ทั้งในจ.จันทบุรีและใกล้เคียงเป็นประจำทุกปี
ปัจจุบันสวนลุงคำนึง มีการพัฒนาตามระบบจัดการคุณภาพภายใต้มาตรฐานจีเอพี ตามโครงการความปลอดภัยอาหารด้านพืช และได้รับรองแปลงผลิตโดยกรมวิชาการเกษตร นับตั้งปี 2541 เป็นต้นมา จนสามารถผลิตทุเรียนคุณภาพมาตรฐานการส่งออกได้ถึง 100%
วันนี้ลุงคำนึง ชนะสิทธิ์ ไม่เพียงเป็นแค่เกษตรกรเจ้าของสวนผลไม้และสมุนไพรเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่วิทยากรเดินสายบรรยายให้ความรู้เรื่องการทำเกษตรอินทรีย์ให้กลุ่มเกษตรกร หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่สนใจไม่เว้นแต่ละวัน
และในวันเสาร์ที่ 29 มิถุนายนนี้ โครงการท่องโลกเกษตร "คม ชัด ลึก" จัดทริปพิเศษพาผู้สนใจตะลุยชม ชิม ช็อปผลไม้คุณภาพส่งออกของสวนลุงคำนึง ชนะสิทธิ์และอีกหลายสวน สนใจสอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งโทร.0-2338-3356-7 (รับเพียง 40 ท่าน)
.........................................................
(ลุยสวน'เกษตรอินทรีย์'ของดีเมืองจันท์(2) ชิมผลไม้ปลอดสารเคมีที่สวน'ลุงคำนึง' : คอลัมน์ท่องโลกเกษตร : โดย...สุรัตน์ อัตตะ)