ข่าว

'โลก'หรือ'เรา'ที่อยู่ยาก!

'โลก'หรือ'เรา'ที่อยู่ยาก!

16 มิ.ย. 2556

'โลก' หรือ 'เรา' ที่อยู่ยาก ! : คอลัมน์วันอาทิตย์คิดเรื่องเงิน : โดย...ขวัญชนก วุฒิกุล [email protected]

               คำว่า “โลกมันอยู่ยากขึ้นทุกวัน” กลายเป็นคำที่ทั้งคล่องปากและติดหู อาจเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งๆ ที่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นโดยมนุษย์ แต่สุดท้ายก็มนุษย์นั่นแหละที่เป็นฝ่ายตามไม่ทันกฎ กติกาที่ตัวเองสร้างขึ้น จนต้องโทษว่า ที่เป็นเช่นนั้น เพราะโลกเปลี่ยนแปลงเร็ว และกลายเป็นโลกซับซ้อนขึ้น ดราม่าขึ้น จนในที่สุดโลกใบเดิมกลายเป็นโลกที่อยู่ยากขึ้น

                และผู้คนบนโลกต่างต้องใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวังที่มากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ

                ในขณะที่หลายคนมีความทุกข์บนโลกที่เปลี่ยนแปลงเร็วจี๊ด เพราะตามไม่ทัน ก็มีอีกหลายคนที่มีความสุขบนกฎ กติกาใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น เนื่องเพราะความสามารถในการปรับตัวของมนุษย์มีไม่เท่ากัน ใครปรับตัวได้เร็ว เรียนรู้ที่จะอยู่บนความซับซ้อนได้เร็ว ก็หาประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงได้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นประโยชน์ในแง่ของการมีชีวิตอยู่ ประโยชน์ในแง่ของความสุข หรือประโยชน์ในแง่ของผลตอบแทนในรูปแบบต่างๆ

                ถึงตรงนี้ก็ต้องยอมรับว่า เทคโนโลยีการสื่อสารก็มีส่วนสำคัญอย่างมากกับการเปลี่ยนแปลงและการดำรงอยู่ของชีวิต โดยเฉพาะในยุคที่ “ข้อมูล” มีอำนาจมาก

                จะฉลาด จะอยู่รอด จะปลอดภัยแค่ไหน อย่างไร ต้องเริ่มต้นที่ “ข้อมูล” ในมือเป็นสำคัญ หลังจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการนำข้อมูลนั้นไปใช้ ไปวิเคราะห์ ไปแยกแยะ ไปสังเคราะห์ หรือไปต่อยอด

                ที่ดีกว่าเดิม ก็คือ ความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลของผู้คนเปลี่ยนแปลงไป เพราะผู้คนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น ส่วนหนึ่งก็เพราะการมี “โซเชียลเน็ตเวิร์ก” ที่เชื่อมโยงข้อมูลและผู้คนให้กระชับวงเข้าหากันได้ง่ายขึ้นและมากขึ้น

                “โซเชียลเน็ตเวิร์ก” จึงกลายเป็นช่องทางที่หน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ พยายามพัฒนา เพื่อส่งผ่านข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้แก่กลุ่มเป้าหมาย พอๆ กับกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้ช่องทางนี้ในการหาเหยื่อ

                หลังจากใช้เวลากับโซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นเวลาหลายชั่วโมงในแต่ละวัน และต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี ค้นพบว่า ถ้าเราไม่มีความโลภ ความอยากได้จนเกินพอดี หรือมีอาการขาดสติมาเกี่ยวข้อง เราสามารถหาประโยชน์ได้จากโซเนียลเน็ตเวิร์กหรือสังคมออนไลน์ได้มากกว่าจะหาโทษใส่ตัว

                ประโยชน์ที่เพิ่งค้นพบล่าสุดมาจากเฟซบุ๊กของ “ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.)” ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดธนาคารแห่งประเทศไทย ลองนั่งอ่านนั่งติดตามไปเรื่อยๆ แล้วพบว่า นอกจากเฟซบุ๊กของ ศคง.จะพยายามนำเสนอข้อมูลด้านการเงินอย่างหลากหลายแล้ว ยังมีการรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับความไม่เป็นธรรมจากผู้ใช้บริการทางการเงิน ทำให้ผู้เดือดร้อนมีช่องทางเข้าถึง และมีความรู้ความเข้าใจกติกามารยาทด้านการเงินมากขึ้น

                ลองดูตัวอย่างที่เฟซบุ๊หของ ศคง.นำเสนอ อาทิ 7 หน้าที่ของผู้ใช้บริการทางการเงิน (ใครจะไปคิดว่า ในฐานะผู้ใช้บริการทางการเงิน เราต้องมีหน้าที่ด้วยหรือ) ศคง.ระบุหน้าที่ 7 ประการไว้ดังนี้ ประการแรก คือ ผู้ใช้บริการทางการเงินมีหน้าที่ “วางแผนการเงิน” ทั้งนี้ เพื่อให้ทราบฐานะทางการเงินและจัดการรายรับ-รายจ่ายของตนเองได้อย่างเหมาะสม

                ประการที่ 2 ต้องศึกษารายละเอียดของบริการทางการเงินก่อนเลือกใช้ หากสงสัยควรสอบถามทันที สามต้องเปรียบเทียบข้อมูล โปรโมชั่น อัตราดอกเบี้ย ผลประโยชน์ และเงื่อนไขที่พ่วงท้าย เพื่อเลือกสิ่งที่ดีและเหมาะสมที่สุด สี่ตรวจทานความถูกต้อง ทุกครั้งที่ทำธุรกรรมทางการเงิน ห้าเป็นหนี้ต้องจ่าย เพราะการผิดนัดหรือไม่ชำระหนี้ นอกจากจะทำให้หนี้สินเพิ่มพูน ยังทำให้ประวัติเครดิตไม่ดี ซึ่งอาจส่งผลต่อการพิจารณาสินเชื่อจากสถาบันการเงินอื่นๆ ได้ หกอ่านและทำความเข้าใจทุกข้อความในเอกสารหรือสัญญาก่อนเซ็นชื่อ และสุดท้าย เจ็ดติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ เพื่อก้าวทันบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ๆ และไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

                แล้วทราบหรือไม่ว่า 4 สิทธิของผู้ใช้บริการทางการเงิน มีอะไรบ้าง

                ข้อมูลของ ศคง.ระบุว่า 4 สิทธิดังกล่าว ประกอบด้วย 1.สิทธิที่จะได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยเจ้าหน้าที่สถาบันการเงินต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนและเพียงพอต่อการตัดสินใจ เช่น ค่าธรรมเนียม หรือค่าปรับที่อาจเกิดขึ้นหากไม่ทำตามเงื่อนไข รวมทั้งความเสี่ยงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

                2.สิทธิที่จะเลือกใช้บริการได้อย่างอิสระ เพราะเราสามารถปฏิเสธบริการทางการเงินอื่นๆ ที่ไม่ต้องการ เช่น พนักงานให้ทำบัตรเดบิตหรือบัตรเอทีเอ็ม เมื่อเปิดบัญชีเงินฝาก หรือให้ช่วยซื้อประกันชีวิต หากเราไม่อยากทำก็มีสิทธิปฏิเสธหรือเลือกได้โดยอิสระ

                3.สิทธิที่จะร้องเรียนเพื่อความเป็นธรรม หากไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการใช้บริการควรติดต่อศูนย์บริการลูกค้า (คอลเซ็นเตอร์) ของสถาบันการเงินแห่งนั้น หากไม่ได้รับคำชี้แจงหรือแก้ไขปัญหาในเวลาอันควร ติดต่อร้องเรียนได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) โทร.1213

                4.สิทธิที่จะได้รับการพิจารณาค่าชดเชย โดยผู้ใช้บริการทางการเงินมีสิทธิได้รับชดเชยตามความเหมาะสม หากพิสูจน์แล้วว่าสถาบันการเงินไม่ปฏิบัติตามแนวปฏิบัติที่ดี โดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อส่งผลให้เกิดความเสียหาย

                ไม่ใช่แค่เรื่องหน้าที่และสิทธิ แต่ในเฟซบุ๊กของ ศคง.ยังมีเรื่องราวเทคนิคสำหรับผู้ใช้บริการทางการเงินที่หลากหลาย อย่างเช่นคำแนะนำในการใช้ธนาคารออนไลน์อย่างปลอดภัย ที่ต้องมั่นใจตาม 5 ข้อนี้ ได้แก่ 1.ไม่ใช้ลิงค์เชื่อมโยงที่แนบมากับอีเมล หรือเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ 2.ติดตั้งโปรแกรมตรวจจับไวรัสที่มีลิขสิทธิ์และมีการอัพเดทอยู่เสมอ 3.หลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านร้านอินเทอร์เน็ตสาธารณะ หรือฟรี wi-fi 4.พิจารณาข้อความที่ได้รับพร้อมรหัสผ่านชั่วคราวว่ารหัสดังกล่าวใช้ยืนยันทำธุรกรรมใด และ 5.หลีกเลี่ยงการเข้าเว็บไซต์ธนาคารออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่เครื่องผ่านการเจลเบรค (Jailbreak) หรือรูท (Root) มาแล้ว

                ยังมีอีกหลายเรื่องราวทางการเงินที่น่าสนใจในเฟซบุ๊กของ ศคง. ซึ่งหากว่าใครไม่นิยมอยู่ในโลกออนไลน์เสมือนจริงอย่างเฟซบุ๊ก แต่อยากรู้เรื่องราวดีๆ รวมถึงมีคำแนะนำหรือมีข้อร้องเรียนในฐานะผู้ใช้บริการทางการเงิน ก็สามารถคลิกไปที่เว็บไซต์ http://www.bot.or.th/Thai/FinancialLiteracy

                สื่อออนไลน์ที่ใช้อย่างสร้างสรรค์ ได้ประโยชน์ก็มีมากมาย ไม่ใช่จะมีเฉพาะที่แชทล่อลวง ต้มตุ๋นกันอย่างเดียว แค่ต้องรู้จักเลือกใช้ (ให้ถูกเรื่อง) ซะบ้าง โลกมันจะได้อยู่ง่ายขึ้น

 

 ........................................................

('โลก' หรือ 'เรา' ที่อยู่ยาก ! : คอลัมน์วันอาทิตย์คิดเรื่องเงิน : โดย...ขวัญชนก วุฒิกุล [email protected] )