ข่าว

ละติจูดที่6เปลี่ยนมุมมอง3จังหวัดชายแดนใต้

ละติจูดที่6เปลี่ยนมุมมอง3จังหวัดชายแดนใต้

08 มิ.ย. 2556

ละติจูดที่6เปลี่ยนมุมมอง3จังหวัดชายแดนใต้ : ทีมข่าวบันเทิงรายงาน


               ภาพของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในมุมมองของคนส่วนใหญ่อาจนึกถึงปัญหาเหตุการณ์ความไม่สงบ ที่มีให้เห็นในข่าวหน้า 1 อยู่แทบจะทุกวัน เสียทั้งเลือด เสียทั้งน้ำตา

               หลายคนคงสงสัยว่า ทำไมผู้คนที่นั่น หลายคนยังไม่ย้ายออกไปไหน เพราะอะไรเขาถึงยังคงเลือกที่จะอยู่ "บ้าน"

               สำหรับ "บ้าน" ในความคิดของหลายคน คือ สถานที่หลบภัยที่เราคิดว่า "ปลอดภัยมากที่สุด"

               หากบริเวณรอบบ้านไม่ปลอดภัย ทำไมพวกเขาถึงยังเลือกที่อยู่?

               หลายคนคงอยากจะถาม คำถามนี้

               นี่คือต้นธารแห่งแรงบันดาลใจให้แก่ผู้กำกับ "เจมส์" ธนดล นวลสุทธิ์ ที่คิดจะทำหนังแนวฟีลกู้ด (ภาพยนตร์ที่ให้ความรู้สึกที่ดี) เป็นเรื่องราวของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ในแง่มุมของความรัก ความผูกพัน น้ำใจ และเรื่องราวดีๆ ของผู้คนที่นั่น ที่เขายังมีความเชื่อและศรัทธาว่า บ้านเกิดเมืองนอนที่เขาใช้ชีวิตมาตั้งแต่เกิดนั้น จะกลับมาสงบสุขดังเดิม ผ่านภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า "ละติจูดที่ 6"

               "เจมส์" ธนดล เล่าว่า หนังละติดจูดที่ 6 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยหนังจะพูดถึงชีวิตของคนที่นั่น เล่าผ่านมุมมองของคนกรุงเทพฯ ที่มีโอกาสได้เดินทางไปทำงานที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้ไปเจอกับผู้คนที่นั่น เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักชาวมุสลิม คือนางเอก มีความรักความผูกพันกับคนกรุงเทพฯ พูดง่ายๆ มันเป็นหนังรัก โดยการคัดเลือกนักแสดงนั้น ได้ ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล ซึ่งส่วนตัวเขาคิดว่า ปีเตอร์มีความสดมากกับหนัง เพราะยังไม่ค่อยมีผลงานเกี่ยวกับภาพยนตร์เท่าไหร่ อีกทั้งปีเตอร์มีคาแรกเตอร์ ตรงกับในหนังมาก เพราะในเรื่องนี้เขาเป็นนักดนตรี เขาจะเข้าใจเป็นอย่างดีถึงความรู้สึกของนักดนตรี

               ส่วนนางเอกเราได้ "โบว์ลิ่ง" ปริศนา กัมพูสิริ เป็นนางเอกใหม่ มารับบทเป็นสาวมุสลิม ที่มีความรักกับคนกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังมี "เม้าส์" ณัฐชา จันทพันธ์ "ภีม" ภาคิน จิกิตศิลปิน ฯลฯ ซึ่งนักแสดงทุกคนตรงกับคาแรกเตอร์ที่เราวางไว้ตั้งแต่แรกทั้งหมด

               "ส่วนการถ่ายทำกว่า 80% ทีมงานได้ยกไปถ่ายทำกันที่ จ.ปัตตานี โดยถ่ายทำช่วงเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ตอนที่ยกกองไปถ่ายทำที่นั่น ทางกองถ่ายไม่ได้เจอกับเหตุการณ์อะไรแต่จะมีบริเวณพื้นที่รอบๆ บ้าง ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับกองถ่าย โดยสาเหตุที่ตัดสินใจลงไปถ่ายทำที่นั่น คือ ตอนแรกไม่ได้คิดหรอกว่าจะลงไปถ่าย แต่พอได้ลองลงไปดูโลเกชั่นจริงๆ แล้ว รู้สึกว่ายังมีโลเกชั่นสวยๆ ที่ยังไม่มีคนได้ไป และรู้สึกว่ามันปลอดภัย ในหนังได้สื่อถึงความรู้สึกของคนในพื้นที่ว่า ทุกอย่างจะกลับมาปลอดภัยเหมือนเดิมได้ เราจึงไม่อยากหลอกตัวเองและคนดู ที่จะไปถ่ายทำในสถานที่อื่น แต่อ้างว่าเป็นจังหวัดชายแดนภาคใต้" เจมส์กล่าว

               อย่างไรก็ดี ผู้กำกับ เล่าอีกว่า ต้องใช้เวลาในการหานักแสดงหลายเดือนมาก เพราะนักแสดงหลายคนถึงกับถอดใจและรู้สึกกลัวความไม่ปลอดภัย ที่ต้องลงไปถ่ายทำในพื้นที่ จ.ปัตตานี จริงๆ แต่นักแสดงที่ตกปากรับคำมาเล่น จนถ่ายทำเสร็จเรียบร้อยนั้น กลับไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย ทั้งนี้ผู้กำกับคนเดิมยังเปิดเผยต่อเกี่ยวกับข่าวที่ว่า หนังได้ทุนสร้างจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ถึง 20 ล้าน ว่า ไม่เป็นความจริง ทาง กอ.รมน.ให้ทุนมาจริง แต่ได้มาไม่ถึง 20 ล้าน

               "ถ้าได้ถึงขนาดนั้น คงจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก แต่อีกส่วนหนึ่ง หนังได้ทุนมาจากบริษัท ยูซีไอ มีเดีย จำกัด ซึ่งเป็นค่ายหนังใหม่ ที่ประเดิมสร้างหนังละติจูดที่ 6 เป็นเรื่องแรกของค่ายอีกด้วย ส่วนทุนการสร้างของหนังเรื่องนี้ จริงๆ ลงทุนไปไปเกือบ 20 ล้าน แต่ทั้งนี้ยังไม่สามารถบอกยอดใช้จ่ายทั้งหมดได้สาเหตุที่ กอ.รมน.ให้ทุนในการสนับสนุนหนังเรื่องนี้ เพราะว่าเริ่มแรกทาง กอ.รมน.มีโจทย์ว่า อยากทำหนังเกี่ยวกับชายแดนภาคใต้ ที่อยากจะเสนอในหนังแนวฟีลกู้ด โดยเปิดกว้างให้ค่ายหนังนำผลงานไปเสนอได้ ปรากฏว่าเรื่องของเราได้รับการคัดเลือก ในฐานะคนทำหนัง ก็รู้สึกดีใจที่มีโอกาสได้ทำหนังเรื่องนี้ แต่ก็กังวลว่าจะไม่ได้เข้าฉายเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้มีหนังเกี่ยวกับเรื่องราวชายแดนใต้ที่ไม่ได้เข้าฉาย อยากให้มองที่เจตนาว่า หนังมีเจตนาที่ดี" เจมส์กล่าว

               ผู้กำกับละติจูดที่ 6 บอกด้วยว่า ข้อคิดของหนังเรื่องนี้ มาจากโจทย์ของหนัง คือ ขอให้มีศรัทธา และมีความเชื่อ ถ้ามีความเชื่อ ทุกอย่างจะเป็นไปได้อย่างผู้คนที่นั่น ยังมีอีกหลายคนที่เขายังใช้ชีวิตอยู่ ทำไมถึงยังใช้ชีวิตที่นั่นอยู่ได้ มันแสดงให้เห็นว่า เรื่องราวดีๆ ยังมีอยู่ เราอยากให้คนเปิดใจกับหนัง คนอาจจะคิดว่า พอเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับภาคใต้ อาจจะฟังดูซีเรียส แต่อยากให้เปิดใจไปลองดู แล้วจะเห็นอะไรอีกเยอะ ซึ่งหนังจะเข้าฉายน่าจะไม่เกินเดือนตุลาคมนี้

               ขณะที่ ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล พระเอกของภาพยนตร์เรื่อง "ละติจูดที่ 6" กล่าวว่า ถือว่าเป็นหนังเรื่องแรกของเขา บทบาทที่ได้รับ ได้เล่นเป็นพนักงานธนาคารที่ถูกส่งตัวไปดูเรื่องระบบใหม่ของทางธนาคารที่ภาคใต้ โดยเนื้อหาของหนังจะเล่าผ่านสายตาของเขาในฐานะของคนกรุงเทพฯ ซึ่งเมื่อไปถึงภาคใต้จะมีความรู้สึกระแวง เพราะได้เห็นข่าวทางโทรทัศน์ ทำให้เหมือนเป็นภาพติดตา

               "หนังเรื่องนี้จะเล่าถึงผลกระทบที่เกิดจากสถานการณ์ภาคใต้ แล้วก็จะมีเรื่องของความรัก ระหว่างคนไทย-พุทธ และไทย-มุสลิม หนังเรื่องนี้ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพบก เพื่อมาคลี่คลายสถานการณ์ภาคใต้ เพราะว่าธุรกิจที่ภาคใต้ตอนนี้คนไม่กล้าลงไปเที่ยว คนที่อยู่ในท้องถิ่นก็เริ่มรู้สึกกลัวไปด้วย ทำให้เกิดมีการโยกย้าย จริงๆ แล้วภาคใต้ยังมีความเป็นธรรมาชาติที่สวยมาก มีทะเล มีป่า ซึ่งหนังเรื่องนี้จะทำให้คนเห็นว่า ภาคใต้มีสถานที่สวยงามอย่างนี้อยู่"

               ส่วนบรรยายกาศระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ พระเอกของเรื่องเผยว่า มีแต่เรื่องที่สนุกสนาน และไม่มีสถานการณ์อะไรที่ดูเป็นอันตราย ทว่ากลับรู้สึกตื่นเต้นมากกว่า แล้วที่น่าประทับใจ คือ คนท้องถิ่นที่นั่นน่ารักมาก เหมือนกับว่าเขาเริ่มจะเหงากัน เพราะไม่มีคนมาเที่ยวนานแล้ว ทุกคนที่นั่นมีความสุขกันดี แต่ก็มีการระวังตัว อย่างเช่น ตอนกลางคืนจะไม่มีใครออกไปไหน สาเหตุที่ตัดสินใจมารับแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้

               "ผมเห็นว่าเป็นโครงการที่ดี ตัวหนังก็น่ารัก มีการให้ข้อคิดที่ว่า ในที่สุดแล้ว เราก็เป็นคนไทยด้วยกันทุกคน ผมว่าผู้ชมจะได้เปิดตา เปิดใจกันมากขึ้นกับสถานการณ์ภาคใต้ และหนังจะบอกว่า ท้ายที่สุดแล้ว เราก็เป็นมนุษย์เหมือนกันทุกคน สามารถอยู่ด้วยถ้ามีการพูดคุยกันได้" ปีเตอร์กล่าวสรุป

               และแน่นอนที่สุด เราเป็นมนุษย์และคนไทยด้วยกันทุกคน

..........................................

(หมายเหตุ : ละติจูดที่6เปลี่ยนมุมมอง3จังหวัดชายแดนใต้ : ทีมข่าวบันเทิงรายงาน)