โจรปัตตานีบุกปล้นแบงค์ถูกรปภ.ยิงดับ1

               เมื่อเวลา 13.50 น. วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ต.อ.กองอรรถ สุวรรณขำ ผกก.สภ.มายอ จ.ปัตตานี รับแจ้งเกิดเหตุ ยิงกันและปล้นเงินธนาคารกสิกรไทย สาขาปาลัส ตั้งอยู่ริมถนนสาย 42 นราธิวาส-ปัตตานี ม.5 บ้านปาลัส ต.ลางา อ.มายอ จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และ รอง ผบก. จ.ปัตตานี ร่วมไปตรวจสอบ

                ทั้งนี้ ที่เกิดเหตุบนถนห่างจากธนาคารประมาณ 20 เมตร พบศพคนร้ายนอนจมกองเลือด ตรวจสอบแล้วยังไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 25 ปี ค้นในตัวพบอาวุธปืน 9 มม. 1 กระบอก และพบกระสุนปืนอยู่ในกระเป๋ากางเกง.อีก 20 นัด นอกจากนั้น บนถนนพบปลอกกระสุนหลายชนิด ทั้ง เอ็ม 16, 9 มม. ,11 มม.และ .38 ตกอยู่เกลื่อนกลาดบนถนนประมาณ 30 กว่าปลอก จึงเก็บไว้เป้นหลักฐาน

                นอกจากนั้น มีเจ้าหน้าที่ขนเงินของบริษัทแห่งหนึ่ง ถูกคนร้ายยิงได้รับบาดเจ็บ 2 คน ทราบชื่อว่า นายนภัทร สุขเพชร อายุ 32 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามเข้าลำตัวหลายนัด ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตที่โรงพยาบาลปะนาเระ และนายทิธิวัตร ทองสงต์ อายุ 30 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกันถุกที่ขาบาดเจ็บ แต่ปลอดภัยแล้ว ทั้งนี้ มีคนเจ็บเป็นชาวบ้านเป็นหญิงไม่ทราบชื่อ ขณะกำลังกดเงิน เอทีเอ็ม ถูกยิงที่ขาบาดเจ็บเช่นกัน ทั้งหมดนำตัวส่งโรงพยาบาลปะนาเระ จ.ปัตตานี

                นอกจากนั้น ห่างจากที่ปล้นเงินธนาคาร ประมาณ 800 เมตร บนถนนสาย ปาลัส- มายอ ม.3 ต.ลางา เจ้าหน้าที่สามารถสกัดรถยนต์คนร้ายได้ ส่วนคนร้ายที่หลบหนี เป็นรถยนต์ มาสด้า 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กข.7968 ปัตตานี สภาพถูกยิงล้อยางแตก ส่วนภายในรถพบปลอกกระสุนปืนสั้น 9 มม. และพบกองเลือดในรถ จาการตรวจสอบแล้วเป็นทะเบียนปลอม ส่วนรถยนต์เป็นรถที่ถูกปล้นจาก จนท.อบต.น้ำบ่อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา ทะเบียนเดิม กข 5193 ปัตตานี

               พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก.ภ.จ.ปัตตานี จึงได้สั่งการให้ จนท.ตร. สภ.ใกล้เคียง รวมทั้งประสานทหาร และฝ่ายปกครอง ให้สกัดรถยนต์โตโยต้าวีโก้ ที่คนร้ายหลบหนี พร้อมทั้งประสานโรงพยาบาล และโรงพยาบาลชุมชน ให้ตรวจสอบคนร้ายที่ถูกยิงอาจจะพาเข้ารักษา

                จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้ายประมาณ 15 คน ได้ใช้รถยนต์ปิกอัพ 2 คัน และ รถ จักรยานยนต์ 1 คัน กระจายอยู่ตามจุดเส้นทางต่างๆ โดยคนร้ายมีการเตรียมการเป็นอย่างดี โดยคนร้ายเริ่มปฏิบัติการ โดยคนร้าย 2 คน นำรถ จยย. จอดห่างจากธนาคารประมาณ 15 เมตร จากนั้น มีรถยนต์คนร้าย จอดอยู่ถนนในหมู่บ้านข้าง ธนาคารกสิกรไทย โดยคนร้าย 2 คน ลงจากรถ มาสมทบกับคนร้ายที่มากับรถ จยย. ที่หน้าธนาคาร ซึ่งเป็นช่วงที่รถขนเงินของบริษัทเดินทางมาถึงเพื่อขนเงินจากธนาคาร โดยผู้ตาย และผู้บาดเจ็บ ได้เดินลงไปขนเงินจากธนาคารออกมา ขณะที่นำเงินใส่ในรถ คนร้าย ทั้ง 4 คน ได้ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิง จนท.ขนเงินทั้งสอง จากนั้นคนร้ายจะเข้ามาปล้นเงิน รปภ.ที่เฝ้าธนาคารได้ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงปะทะกับคนร้ายประมาณ 10 นาที กระสุนปืนถูกคนร้ายเสียชีวิต 1 คน ส่วนคนร้ายอีก 3 คน เห็นท่าไม่ดี จึงเร่งเครื่อง จยย.หลบหนี ส่วนอีก 2 คน ขึ้นรถยนต์แยกย้านกันหลบหนี

                จากนั้นรถยนต์คนร้ายที่หลบหนีเกิดปะทะกับเจ้าหน้าที่ระหว่างทาง เกิดยิงต่อสู้ ประมาณ 10 นาที คนร้ายทิ้งรถยนต์ และหนีขึ้นรถยนต์วีโก้ ไม่ทราบชนิด ที่เตรียมการมารอรับหลบหนีไป จนท.พยายามสกัดแต่ไร้วี่แวว ส่วนรถคนร้ายทิ้งไว้ ซึ่งเป้นรถ อบต.น้ำบ่อ อ.ปะนาเระ ที่ปล้นมา ตร.จึงยึดไว้ ก่อนคนร้ายกระจายหลบหนีไป คนร้ายได้ทิ้งตะปูเรือใบ บนถนนเส้นทางหลายเส้นทาง เพื่อป้องกัน จนท.ไล่ติดตาม ทำให้ถูกรถยนต์ชาวบ้านที่ผ่านไปมาทำให้ยางแตกไม่ต่ำกว่า 10 คัน

                จากการขยายผลของเหตุการณ์ครั้งนี้ ทราบชื่อ คนร้ายที่เสียชีวิตแล้ว ทราบชื่อว่า นายมะตอเฮ มุสลีมิน อาวุ 23 ปี อยุ่บ้านเลขที่ 3 ม.5 ต.กะดูนง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี มีอาชีพ เปิดร้านขายเสื้อผ้า ที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี จนท.ตรวจสอบในสารบบคนร้ายแล้ว ปรากฏว่า ไม่มีประวัติเกี่ยวข้องคดีความั่นคง แต่มีบ้านพักใกล้กับบ้านของน่ายซอมือลี สาเร๊ะ แนวร่วมที่ถูกวิสามัญที่ อ.บาเจาะ เมื่อหลายเดือนที่แล้ว จึงน่าเชื่อว่า น่าจะเป็นแนวร่วมในพื้นที่ ซึ่งเบื้องต้น เจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นกลุ่มคนร้ายที่สร้างสถานการณ์ในพื้นที่ โดยอยู่ในคราบของกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่ พร้อมทั้งรับจ้างยิง และก่อคดีที่ไม่เกี่ยวความั่นคง เช่นคดีปล้นเงินธนาคารเป็นต้น อย่างไรก็ตาม จนท.ยังคงกดดันคนร้ายที่เหลืออยู่อย่างต่อเนื่อง

               ส่วนเงิน 5.5 ล้านบาท ที่ จนท.ขนเงินของธนาคาร ยังอยู่ครบ โดยคนร้ายไม่สามารถชิงไปได้

               
 

 

รวบชายชาวอเมริกันผู้ต้องหาบุกเดี่ยวจี้แบงก์กรุงเทพ

 

                เมื่อเวลา  10.00 น. พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบก.ภ.จ.นนทบุรี ได้เรียกประชุม พ.ต.อ.ณัฐพล ศุกระศร รอง ผบก.พ.ต.อ.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี พ.ต.ท.ปัณณพัฒน์ เดชโชติพิสิฐ รอง ผกก.สืบสวน พ.ต.อ.กิตติ สุขสมภักดิ์ ผกก.สส.กก.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.ท.วรชาติ แสนคำ รอง ผกก.กก.สส.พ.ต.ท.สมชาย ขำสัจจา สว.กก.สส.พ.ต.ท.นักรบ ชอบทำทาน สว.สส.พ.ต.ต.วัชรพงษ์ สิทธิรุ่งโรจน์ สว.สส.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เพื่อหาแนวทางการสืบสวน พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนแบ่งกำลังออกสืบสวนหาข่าวและหลักฐานในคดีที่มีคนร้ายเป็นชายชาวต่างชาติก่อเหตุ จี้ชิงทรัพย์เงินสดจำนวนประมาณ 380,000 บาท เหตุเกิด ธนาคารกรุงเทพ สาขา โลตัส พงษ์เพชร ถนนงามวงษ์วาน หมู่ 2 ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี เหตุเกิดเวลา 18.00 น.วันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งได้ใช้เวลาประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง

                ต่อมา พ.ต.ท.ปัณณพัฒน์  เดชโชติพิสิฐ  รอง.ผกก.สืบสวน ได้นำกำลังไปเชิญตัวผู้ต้องสงสัยชาวต่างชาติหลังจากได้รับรายงานว่า มีบุคคลตามภาพวงจรปิดมาพักอาศัยอยู่ในลุมพินีคอนโดมิเนียม ม.2 ต.บางเขน  อ.เมือง จ.นนทบุรี  ซึ่งจากการตรวจสอบพบชายชาวต่างชาติคนดังกล่าวจึงได้เชิญตัวมาสอบสวนต่อที่ สภ.เมืองนนทบุรี  ทราบชื่อต่อมาคือ นายลอยด์  เดนนิส  ฮออล์  อายุ  62 ปี  สัญชาติอเมริกัน  อาชีพอาจารย์พิเศษสอนภาษาอังกฤษ  โดยใช้เวลาการสอบสวนนานกว่า  3 ชม. แต่นายลอยด์  เบื้องต้นได้ให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา

                จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานและคำให้การของ นางศรีวัย  บุญรักษ์ อายุ 44 ปี  แม่บ้านของห้างโลตัส ที่ให้ปากคำว่า พบเห็นนายลอยด์  มานั่งที่ศูนย์อาหารฟาดฟู้ดของห้างซึ่งอยู่ตรงข้ามกับธนาคารที่เกิดเหตุตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งมาเกิดเหตุขึ้นประกอบกับการเข้าตรวจค้นที่คอนโดดังกล่าวซึ่งเป็นที่พักของนายลอยด์ บริเวณชั้น 7 ที่ถังขยะพบหมวกกันน็อคสีบรอนซ์เงินและเสื้อเชิ๊ตแขนยาวลายทางสีเทาฟ้าของคนร้ายที่ก่อเหตุบุกเดียวจี้ชิงทรัพย์ธนาคารถูกทิ้งอยู่ในถังขยะ จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง

                ด้าน พล.ต.ต.ธนายุตม์ ผบก.ได้ให้ พ.ต.ท.รัชกฤช วุฒิชัยภิญโญ รอง ผกก.ผู้ชำนาญการพิเศษ ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดนนทบุรีและขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 323 / 2556 ลงวันที่ 30 พ.ค.56   และจากการตรวจค้นภายในห้องพักผู้ต้องหาเลขที่ 93 /91 ชั้น 7 เจ้าหน้าที่ตำรวจพบกระเป๋าถือสีดำภายในบรรจุธนบัตรฉบับต่างๆ พร้อมสายรัดระบุธนาคารกรุงเทพ จำนวน 370,000 บาท ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายสีดำ ภายในห้อง  ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชุดที่ตรวจสอบบริเวณใกล้เคียงพบรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า  รุ่นเวฟ  สีเทา ทะเบียน ปธจ 425 กทม.  ที่ใช้ก่อเหตุจอดทิ้งอยู่ที่โต๊ะสนุ๊กหลังห้างเดอะมอลล์งามวงศ์วาน  จึงยึดไว้เป็นของกลาง และล่าสุดผู้ต้องหาให้การรับสารภาพแล้วเพราะจนด้วยหลักฐาน