ครูพละยิงเมียน้อยดับก่อนฆ่าตัวตาม | คมชัดลึก

                เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 28 พ.ค.56 ร.ต.อ.นพดล ภักดีสว่าง ร้อยเวร สภ.ท่าแซะ รับแจ้งเหตุยิงกันตายที่บ้านเลขที่ 31 หมู่ 4 บ้านควนทราย ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ภาณุเดช ณ พัทลุง ผกก.สภ.ท่าแซะ ทราบก่อนนำกำลังรุดไปสอบสวนที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธานี นาคหกวิค รอง.ผกก.ป. พ.ต.ท.อารมณ์ น้ำใจสุข สว.สส. พ.ต.ท.วิชัย ต้นกันยา พงส.ผู้ชำนาญการพิเศษ ร.ต.อ.สมมิตร บัวมาศ สวป. ตำรวจฝ่ายพิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.ชุมพร และหน่วยกู้ภัยสายชลชุมพร

               ทั้งนี้ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้หลังใหญ่ ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนมะพร้าว ห่างจากถนนเพชรเกษมฝั่งขาล่องใต้ ประมาณ 800 เมตร พบชาวบ้านกว่า 100 คนกำลังมุงดู พร้อมทั้งวิจารณ์ถึงสาเหตุการยิงกันในครั้งนี้ไปต่าางๆนานา

               จากการตรวจสอบพบว่า ที่ลานดินหน้าบ้านพบรถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแม็กซ์ ตอนครึ่ง สีบรอนซ์เทา ทะเบียน บน - 89 ชุมพร จอดติดเครื่อง เปิดไฟหน้า ประตูฝั่งคนขับเปิดอ้าอยู่ ที่พื้นข้างประตู พบศพหญิงสาว สภาพศพนอนเหยียดยาวตะแคงซ้าย สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีม่วง นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว สวมรองเท้าส้นสูงสีดำ ที่มือขวายังกำสนับมืออยู่แน่น ส่วนปลายเท้าพบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายตกอยู่ 1 เครื่อง ตรวจสอบพบบาดแผลถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 มม. จำนวน 4 นัด เข้าที่กกหูซ้ายทะลุหูขวา 1 นัด หน้าอกซ้าย 2 นัด กระสุนทะลุหลัง และที่ต้นแขนขวา อีก 1 นัด ทราบชื่อคือ นางนุชจรีย์ หรือ น้อย แก้วอ่อนจริง อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/11 หมู่ 5 ต.ขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร

               อีกทั้ง ห่างกันประมาณ 3 เมตร หลังรถกระบะ พบศพชายสภาพศพนอนหงาย นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีดำ สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีม่วงอ่อน ที่ปลายเท้าซ้ายพบปืนพกสั้น ออโตเมติก ขนาด 9 มม. ตกอยู่ 1 กระบอก ในลำกล้องมีกระสุนค้างอยู่ 1 นัด ส่วนในแม็กกาซีน มีกระสุนเหลืออยู่ 3 นัด ที่ขมับขวาพบบาดแผลถูกยิงด้วยปืนขนาดเดียวกัน 1 นัด กระสุนทะลุขมับซ้าย จนมันสมองปนเลือดกระจายไหลนองพื้น ทราบชื่อคือ นายจงจิตร ซังธาดา อายุ 54 ปี เจ้าของบ้าน

               นอกจากนี้ ยังมีคนเจ็บอีก 1 คนถูกยิงด้วยปืนขนาดเดียวกัน เข้าที่ท้อง 1 นัด กระสุนทะลุหลัง อาการสาหัส เพื่อนบ้านนำส่งโรงพยาบาล ท่าแซะ แต่อาการหนักทางรพ.จึงส่ง รพ.ชุมพรที่มีเครื่องมือดีกว่า ทราบชื่อคือ นางจรัสศรี ซังธาดา อายุ 51 ปี เป็นภรรยานายจงจิตรที่เสียชีวิต จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน 9 มม. ตกกระจายเกลื่อนจำนวน 7 ปลอก หัวกระสุน 1 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

               จากการสอบสวนนายหวน จันทวิเชียร อายุ 79 ปี ซึ่งเป็นพ่อนางจรัสศรี และเป็นพ่อตานายจงจิตรผู้ตาย ทราบว่านางจรัสศรี ลูกสาวเป็นครูสอนวิชาการอาชีพ (คหกรรม)ตำแหน่ง (คศ.3) ส่วนนายจงจิตร ลูกเขยเป็นครูสอนวิชาพลศึกษา ตำแหน่งเป็นครูชำนาญการ(คศ.2) สอนอยู่โรงเรียนเดียวกันที่ ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ ก่อนเกิดเหตุตอนหัวค่ำขณะตนกำลังให้ข้าวสุนัขที่หลังบ้าน ส่วนนางเจียน จันทวิเชียร อายุ 75 ปี ภรรยาตนอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำชั้นล่าง ขณะที่นายจงจิตร ลูกเขย นอนดูทีวีอยู่ในห้องนอนชั้นบน และนางจรัสศรี ลูกสาวนั่งทำงานอยู่ในห้องโถงชั้นล่าง จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงรถยนต์มาจอดติดเครื่องรออยู่หน้าบ้านและบีบแตรรถเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แต่ตนเองไม่ได้สนใจ เพราะทราบดีว่าคนที่มาจอดรถรออยู่หน้าบ้านคือ นางนุชจรีย์ แก้วอ่อนจริง ภรรยาน้อยของนายจงจิตร ที่มักจะมาหาเรื่องที่บ้านอยู่เป็นประจำ จนนางจรัสศรี ลูกสาว ซึ่งเป็นภรรยาหลวง รู้สึกชาชินและวางตัวเฉยไม่อยากมีเรื่องมีราว จนทำให้ นางนุชจรีย์ ได้ใจบางครั้งถึงกับมายิงปืนขู่ที่หน้าบ้านตน

               "หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงนายจงจิตรและนางนุชจรีย์ทะเลาะกันเสียงดัง โดยมีนางจรัสศรี ลูกสาว ที่ทนนั่งฟังอยู่ในบ้านไม่ไหว ออกไปผสมโรงทะเลาะกับเขาด้วย ไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นสนั่นหวั่นไหวติดกันหลายนัด ตนจึงรีบออกมาดู เป็นจังหวะเดียวกันที่นางจรัสศรีลูกสาววิ่งไปให้ตนช่วยบอกว่าถูกยิง เมื่อเสียงปืนสงบ จึงพบว่า นางนุชจรีย์ ถูกยิงเสียชีวิต และนายจงจิตรใช้ปืนยิงตัวเองตายตามไปด้วย ตนจึงวิ่งไปตามเพื่อนบ้านให้ช่วยนำลูกสาวไปส่งโรงพยาบาล" นายหวน กล่าว

               พ.ต.ท.ธานี นาคหกวิค รอง.ผกก.ป.สภ.ท่าแซะ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนที่เกิดเหตุและพยานแวดล้อม ทราบว่า สาเหตุน่าจะมาจากความหึงหวง โดยนางนุชจรีย์ ผู้ตายซึ่งเดิมที่พื้นเพเป็นชาว อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และเป็นเจ้าของร้านคาราโอเกะ ชื่อ “ร้านเจ๊น้อย”ตั้งอยู่ที่ ต.ขุนกระทิง อ.เมืองชุมพร นอกจากนี้ ยังเป็นเจ้าของตู้เพลงหยอดเหรียญให้เช่า รายใหญ่ที่สุดในจังหวัดชุมพร เป็นคนมีฐานะดีและหน้าตาสวย แต่เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาได้มาเป็นภรรยาน้อย ของนายจงจิตร ที่ร่วมทำธุรกิจตู้เพลงหยอดเหรียญอยู่ด้วยกัน และก่อนหน้านี้ก็เป็นภรรยาของนายตำรวจดังคนหนึ่ง แต่ได้หย่าร้างกันแล้วประมาณ 2 ปี วันเกิดเหตุ คาดว่านางนุชจรีย์ น่าจะมาเจรจาตกลงปัญหาอะไรบางอย่างกับนายจงจิตร แต่นางจรัสศรี ที่อดรนทนไม่ไหวเข้าไปผสมโรงจึงพูดจากันไม่รู้เรื่อง ก่อนที่นางนุชจรีย์จะควักเอาสนับมือเข้าไปจะทำร้ายนางจรัสศรี นายจงจิตร ผู้เป็นสามี เห็นเข้าจึงควักปืน พก 9 มม.กระหน่ำยิงนางนุชจรีย์ ภรรยาน้อย ส่วนนางจรัสศรี คาดว่า น่าจะถูกลูกหลง ก่อนที่นายจงจิตร จะตัดสินใจใช้ปืนกระบอกเดียวกันปลิดชีพตัวเองตายตาม