ข่าว

'ว้า'เล็งตั้งรัฐแยกตัวจาก'พม่า'

'ว้า'เล็งตั้งรัฐแยกตัวจาก'พม่า'

28 พ.ค. 2556

กองทัพสหรัฐว้า หรือ UWSA ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธ ที่มีอาวุธหนักมากที่สุดและทรงอิทธิพลที่สุดในพม่า ระบุว่า กำลังหาทางแยกตัวไปตั้งรัฐที่ชอบด้วยกฎหมาย

 

                        28 พ.ค. 56  UWSA มีทหารติดอาวุธราว 3 หมื่นนาย และยึดครองพื้นที่ห่างไกลแถบภูเขาด้านชายแดนทางเหนือสุดติดกับประเทศจีน ที่เชื่อว่า จะเป็นแหล่งรวมยาเสพติด และโดดเดี่ยวจากการควบคุมของรัฐบาลพม่ามายาวนาน / การมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับจีนและมีกำลังทหารจำนวนมากเป็นเสมือนโล่กำบังที่ทำให้รัฐบาลทหารพม่าในอดีตเอื้อมไม่ถึง นักสังเกตการณ์ ระบุว่า กลุ่ม UWSA กำลังใช้การเมืองที่เปิดกว้างภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ เป็นตัวผลักดันให้กลุ่มได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการมากขึ้่น

                        ภูมิภาคที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของ UWSA ประกอบด้วย 6 เมือง ในแถบพื้นที่ชายแดนของรัฐฉาน แต่นายโทน ซาน โฆษกของ UWSA กล่าวว่า แค่นั้นยังไม่พอ พวกเขาต้องการได้รับการยอมรับในฐานะรัฐ / UWSA ได้ทำข้อตกลงหยุดยิงกับรัฐบาล มาตั้งแต่ปี 2532 นับเป็นหนึ่งข้อตกลงยาวนานสุดในพม่า ที่เป็นศูนย์รวมของกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์จำนวนมาก นับตั้งแต่แยกตัวเป็นเอกราช เมื่อปี 2491

                        การลงนามการหยุดยิงล่าสุด ลงนามโดยรัฐบาลกึ่งพลเรือนชุดใหม่ ที่เข้ามาแทนรัฐบาลทหารพม่าเมื่อ 2 ปีก่อน อันเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูป ที่สร้างความหวังว่าจะเป็นการสร้างประเทศที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันที่ยิ่งใหญ่ / นิโคลัส ฟาร์เรลลี่ นักวิเคราะห์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลียให้ความเห็นว่า UWSA ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพในอดีต การมีทรัพยากรทางทหาร เศรษฐกิจ และการเมืองทำให้พวกเขาเป็นกองกำลังที่รัฐบาลต้องคิดหนัก ยิ่งไปกว่านั้น การปล่อยให้พวกเขาทำในสิ่งที่ทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนอิสระอยู่ในพื้นที่ชายแดน มันก็ทำให้เกิดตรรกะได้ว่า ว้า เป็นกลุ่มแรกที่จะต้องเผชิญบททดสอบรูปแบบใหม่ของการกระจายอำนาจ  

                        ประชากรว้า มีเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ของประชากรพม่า ที่มีประชากรราว 8 แสนคน กระจายไปตามกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ในเขตที่พวกเขาปกครองตนเอง / UWSA ได้ร้องขออย่างเป็นทางการ ในการยกระดับตัวเองขึ้นมาเป็นรัฐว้า ในระหว่างการเจรจากับทีมเจรจาสันติภาพของรัฐบาลในเดือนนี้ และพวกเขาก็ได้รับการรับรองว่า เรื่องนี้จะถูกนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร

                        กลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ อาศัยอยู่ใน 7 รัฐและ 7 ภูมิภาค แต่ประชากรส่วนใหญ่เป็นพม่า และการที่ว้าต้องการมีรัฐของตนเอง ก็เพื่อโอกาสที่จะได้พัฒนาภูมิภาค เนื่องจากเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์และอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งเป็นการเก็บเกี่ยวผลตอบแทนเมื่อสิ้นสุดการถูกโดดเดี่ยวมายาวนานหลายทศวรรษ

                        นายสาย เปา นัพ วุฒิสมาชิกจากพรรคพรรคประชาธิปไตยว้า ให้ความเห็นว่า ทางกลุ่มต้องการจะทำข้อตกลงโดยตรงกับรัฐบาล แทนที่จะใช้วิธีการสื่อสารผ่านทางเจ้าหน้าที่ทางการในรัฐฉานในปัจจุบัน / ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า การเรียกร้องขอปกครองตนเองในฐานะรัฐ จะไม่นำไปสู่ความยุ่งยาก เพียงแต่อาจยังมีปัญหาคาราคาซังมานาน 2 ปี กรณีที่ UWSA ขอเข้าร่วมการรักษาดินแดนภายใต้การบัญชาการของกองทัพพม่า

                        การเรียกร้องของว้า ได้ติดพันกับช่วงที่รัฐบาลกำลังมีปัญหาขจัดแย้งกับกองกำลังในรัฐคะฉิ่่นที่ข้อตกลงหยุดยิงที่ดำเนินมานาน 17 ปี ต้องล่มสลายในเวลาไม่นาน หลังรัฐบาลใหม่เข้าสู่อำนาจ เมื่อปี 2554 แต่รัฐบาลเตรียมเจรจากับกองกำลังคะฉิ่นในวันนี้ แต่ความรุนแรงยังคงดำเนินต่อไป ท่ามกลางข้อสงสัยว่า กองทัพอาจพยายามกำราบทุกกลุ่มชาติพันธุ์

                        รายงานจาก ไอเอชเอส เจน'ส ระบุว่า ข้อตกลงหยุดยิงกับ UWSA เป็นสิ่งที่เปราะบาง และทางกลุ่มก็มีการเตรียมพร้อมที่เข้มแข็ง ด้วยการซื้อเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธหลายลำจากจีน อันเป็นส่วนหนึ่งของโครงการติดอาวุธที่รวดเร็ว (programme of rapid rearmament) แต่ทั้งจีนและ UWSA ไม่ยอมรับ

                        โฆษกของ UWSA อ้างว่า อากาศยานบางชนิด ถูกซื้อมาเพื่อเป็นตัวอย่าง เพื่อนำมาแสดงต่อสาธารณชน ไม่ใช่ของจริงและใช้การไม่ได้ เพียงแต่ต้องการให้คนไปชมพิพิธภัณฑ์เท่านั้น แต่นักวิเคราะห์ ต่างเชื่อว่า จีนเป็นสปอนเซอร์และผู้อำนวยความสำเร็จให้กับว้า แม้รัฐบาลพม่าจะไม่พอใจ แต่ก็ไม่สามารถต้านทานอะไรได้ พม่าได้รู้อยู่แก่ใจว่า จีนกำลังแสดงบทบาทที่ไม่น่ายินดีอยู่หลังบ้านของพวกเขา