
'บิ๊วจิ๋ว'เสียดายเลิกตั้ง'มหานครปัตตานี'
'บิ๊วจิ๋ว' ทำบุญวันเกิดครบ 81 ปี ตอกย้ำตั้ง 'มหานครปัตตานี'แนะแก้ปัญหาหลักภาคใต้ก่อน ให้อำนาจจัดการตัวเอง ปัดตอบ'พรบ.ปรองดอง'
17 พ.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี จัดงานทำบุญเลี้ยงพระเพล จำนวน 9 รูป เนื่องในโอกาสครบรอบวันคล้ายเกิดอายุ 81 ปี เมื่อวันที่ 15พ.ค.ที่ผ่านมา ที่ศาลากลางน้ำ วัดเทพศิริทราวาสราชวรวิหาร โดยมีคุณหญิงพันธุ์เครือ ยงใจยุทธ ภรรยาและเครือญาติ พร้อมด้วยอดีตนายทหารสนิทมาร่วมงาน อาทิ พล.อ.วิชิต ยาทิพย์ อดีตรอง ผบ.ทบ. , พล.ต.ศรชัย มนตริวัตร ,พล.อ.วัฒนา สรรพานิช , นายอรรถสิทธิ์ ทรัพยสิทธิ์ รวมทั้ง นายภูมิธรรม เวชชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และนายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส. ยโสธร พรรคเพื่อไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนพิธีทำบุญจะเริ่ม พล.อ.อ.ณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์ ประธานคณะกรรมการอำนวยการวิทยาลัยการบินนานาชาติ มหาวิทยาลัยนครพนม นำคณะร่วมอวยพรวันเกิด พร้อมทั้งประดับปีกเกียรติยศ และมอบใบประกาศเกียรติคุณ ให้แก่พล.อ.ชวลิต ในฐานะที่เป็นผู้ให้แนวคิดการจัดตั้ง วิทยาลัยการบินนานาชาติ และให้การสนับสนุนการดำเนินงานของวิทยาลัยในทุกด้าน มาตลอดระยะเวลา 7 ปี โดยพล.อ.ชวลิต ได้กล่าวขอบคุณ และมอบพระนาคปรก หลวงปู่ทิน วัดมะขาม เป็นของที่ระลึกให้กับผู้ที่มาร่วมงานในครั้งนี้
จากนั้น พล.อ.ชวลิต ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ว่า ปัญหาภาคใต้เป็นปัญหาที่สะท้อนปัญหาของประเทศ ทั้งนี้ปัญหาภาคใต้เป็นปัญหาการเมือง ต้องเอาการเมืองแก้ หากเอาวิธีอื่นไปแก้ก็คงไม่สำเร็จ เมื่อแก้ปัญหาหลักได้แล้วปัญหาอื่นๆก็จะแก้ได้เอง แต่ต้องคิดก่อนว่าปัญหาหลักคืออะไรวันนี้พี่น้องทางใต้บอกว่ารัฐบาลให้เขาทุกอย่าง ให้เขามากเว้นแต่สิ่งที่เขาต้องการกลับไม่ให้ คือ เขาต้องการอำนาจในการจัดการกับตัวเองในระดับหนึ่ง เขายังไม่ต้องการถึงขั้นอำนาจสูงสุดหรืออำนาจอธิปไตย แต่เขาต้องการเพียงบางส่วนที่ไปจัดการตัวเอง เช่น กฎหมายท้องถิ่นบางฉบับ ซารีอะกฎหมายที่มีอยู่เอามาใช้ได้หรือไม่ เอาเรื่องการรอมชอมกันในระบบของเขามาใช้ได้หรือไม่ เอาเรื่องระบบเศรษฐกิจของเขาที่สอดคล้องกับระบบเศรษฐกิจ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานไว้ คือ เศรษฐกิจพอเพียง สรุปคือ เขาต้องการดูแลตัวเองในกรอบของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
"สิ่งที่เขาต้องการสูงสุดคือ ระบบการปกครองท้องถิ่น แต่เขาไม่เคยได้ และคนเสนอก็ยังถูกกล่าวหาว่าเสนอเพื่อให้พี่น้องชาวใต้แบ่งแยกดินแดน ผมคิดว่าเลอะเทอะกันใหญ่ เพราะถ้าเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการและอยู่ในกรอบของตัวกฎหมายของพวกเรา คิดว่าก็น่าจะพิจารณาแก้ไข"พล.อ.ชวลิต กล่าว
พล.อ.ชวลิต กล่าวต่อว่า ตนเสียดายที่วันแรกของการเป็นนายกรัฐมนตรี ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเราก็รู้ว่านายกฯพยายามที่จะแก้ปัญหาบ้านเมืองเท่าที่จะทำได้ นายกฯก็พยายามทำทุกอย่างน่ารักมาก วันแรกที่นายกฯ เดินทางไปภาคใต้สวมฮิญาบสีแดง และประกาศที่นั่นว่าจะนำเอาความต้องการของเขา ในเรื่องของการจัดตั้งมหานครปัตตานี ซึ่งพี่น้องคนใต้ดีใจมากในวันนั้น แต่ปรากฎว่าอีกไม่กี่วันก็มีการประกาศในรัฐสภา ถึงนโยบายว่านโยบายนี้ รัฐบาลไม่เอาแล้ว เพราะเป็นนโยบายของคนคนเดียว นี่คือสิ่งที่นำความเสียใจมาให้พี่น้องชาวใต้ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันนี้สถานการณ์ได้รุนแรงขึ้นตามลำดับ
"วันนี้ภาพของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโปรดเข้าใจด้วยว่าความจริงไม่ได้รุนแรงอะไรขึ้น คำว่ารุนแรงขึ้นต้องรุนแรงขึ้นทั้งรูปแบบด้วย ทั้งจำนวนและวิถีทางในการปฏิบัติ เช่น รูปแบบที่เขาสร้างความเสียหาย หรือดำเนินการอยู่ทุกวันนี้แต่เรายังแก้ไม่ได้ก็คือ การซุ่มโจมตีเอาเครื่องเจาะถนนมา เขาอยากจะฝังตรงไหนเขาก็มาเจาะหมู่บ้านไหนก็ได้ยิน แล้วก็เอาระเบิดที่ทำเองยัดเข้าไปแล้วรอรุ่งเช้าเมื่อรถของทหารผ่านไป เขาก็กดระเบิดรถก็หงายท้องคนก็ตาย ภาพก็เกิดอย่างนี้มาไม่รู้กี่ครั้งซ้ำซาก ขอถามว่าทำไมเขาถึงมาเจาะถนนได้ ทำไมถึงเอาระเบิดมายัดได้ ซึ่งวิธแก้ง่านนิดเดียว คือ ใช้การปฏิบัติในเวลากลางคืนแทนที่จะใช้การปฏิบัติในเวลากลางวัน คือ กลางคืนให้หนัก กลางวันเบา ดูแลเป้าหมายที่อ่อนแอ กลางคืนมีกำลังเท่าไหร่เอาออกให้หมด เรื่องนี้คือสิ่งที่เห็นชัดแล้วเราก็บอกว่าสร้างความเสียหาย สถานการณ์รุนแรงความจริงแล้วไม่มีอะไรสถานการณ์เป็นแบบเดิมทุกอย่าง ตนยังไม่เห็นเขารวมกำลังกันเข้าตีตรงไหน หรือรวมกำลังกันปฏิบัติการด้วยกำลังขนาดใหญ่ตรงไหน แต่ระเบิดที่ทำกันเองเท่าที่ทราบกว่าจะทำได้ลูกนึงก็เรี่ยไรเงินกัน 5 บาท 10 บาท 20 บาท หรือ 100บาท ไม่เห็นมีการได้รับเงินสนันสนุนเป็นแสนเป็นล้าน ถ้าเป็นอย่างนั้นคงออกมาในรูปแบบอื่นแล้ว เพราะฉะนั้นต้องระวังเรื่องนี้คือสิ่งที่อยากจะเล่าให้ฟัง ไม่ใช่ว่าทหารหรือตำรวจจะไม่ทำ ทหารกับตำรวจทำแต่เรามักจะหันไปให้ความสนใจทางด้านอื่น เช่น ทหารบอกว่า 2,300 ภารกิจมันไม่ไหวกลายเป็นว่ากระจายความอ่อนแอ ความจริงแล้วต้องเสียสละบางจุดรักษาบางจุด และจะขยายออกไปให้เต็มพื้นที่ก็จะสามารถนำความสงบสุขมาสู่ประเทศได้" พล.อ.ชวลิต กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เห็นด้วยกับการเจรจาระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มบีอาร์เอ็นหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า การเจรจาก็ต้องทำ ตีกันได้ด้วยทำไปด้วย พูดไปด้วยเป็นเรื่องธรรมดา แล้วแต่ว่าจะทำปกปิดหรือเปิดเผย แต่ผู้เจรจาต้องเข้าใจปัญหา และเข้าใจความคิดของกลุ่มที่จะไปเจรจา ไม่ใช่ว่าเจรจาโดยไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร ตนก็เห็นว่าทีมเจรจาของเราก็เป็นคนที่ดี คงจะไม่มีอะไรเพียงแต่ปรับปรุงพัฒนากันให้ดีอีกเล็กน้อย ก็คงทำภารกินนี้สำเร็จได้ ก็ขออำนวยพรให้พวกเราต้องช่วยกัน ซึ่งสื่อเป็นคนที่มีความสำคัญสิ่งที่เขียนออกมามีความาหมายกับสังคมมาก อยากให้พี่น้องประชาชนบอกเราบ้าง ทำไมเขาถึงสามารถวางระเบิดได้ทุกที่ทำไมพี่น้องประชาชนไม่ช่วยเราเลย ถ้าไม่บอกตรงๆวันไหนผ่านบ้านหลังนี้แล้วมีผ้าขาวผูกไว้ที่เสาบ้านแสดงว่ากำลังมีอันตรายส่งสัญญาณกันได้ อยากถามว่าทำไมพี่น้องประชาชนถึงไม่ช่วยเราบ้างเลย ที่ผ่านมาเราก็ช่วยเขาเยอะแยะแล้วทำไมเขาถึงไม่ช่วยเรา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากเราไม่สามารถใช้กฎหมายพิเศษ เช่น กฎอัยการศึกในพื้นที่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ใช่หรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ตนไม่อยากไปวิพากษ์วิจารณ์ถึงปลีกย่อย เรื่องหลักหัวใจก็คือ การเมืองถ้าแก้ปัญหาทางการเมืองเสร็จทุกอย่างก็จบ เหมือนการแก้ปัญหาความปรองดองก็ต้องแก้ด้วยการเมือง จะไปแก้โดยตั้งอะไรขึ้นมา หรือมองไปที่กฎหมายอย่างนั้นมันยาก นี่เป็นความเห็นจากผู้เฒ่าคนหนึ่งที่เคยผ่านและเห็นมา
อีกทั้ง ผู้สื่อข่าวถามถึงสถานการณ์ทางการเมือง ที่มองกันว่าหากกฎหมายปรองดองเข้าสู่สภาจะทำให้บ้านเมืองวุ่นวายยิ่งขึ้นหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ตนไม่ขอออกความเห็นเรื่องที่เขากำลังทำกันอยู่ ทำกันไปเถอะ ซึ่งหวังว่าทุกสิ่งทุกอย่างคงบรรลุผลสำเร็จได้ สิ่งที่เตือนไว้ก็คือ เรื่องที่ทำนั้นสำคัญจริงแต่อะไรคือหัวใจของปัญหาแก้ตรงนั้นก็จบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากรัฐบาลต้องการให้ท่านเข้าไปช่วยงานโดยเฉพาะรับตำแหน่งเพื่อแก้ปัญหา พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ง่ายนิดเดียว เขาไม่ต้องการอยู่แล้ว เพราฉะนั้นอย่าไปคิดเรื่องนั้นเลย คนแก่แล้วไม่ไหวหรอก จะให้อุ้มไปแก้ปัญหาคงไม่ไหวแล้ว เดินก็ไม่ค่อยจะไหวแล้ว