
เทควันโดอ้อนกองทุน ไฟเขียวสร้างยิมใหม่
06 มิ.ย. 2552
ส.เทควันโดอ้อนกองทุนพัฒนากีฬาชาติ ช่วยพิจารณาการสร้างศูนย์ฝึกเทควันโดใหม่ หลังเรื่องทั้งหมดไม่ได้อนุมัติไฟเขียวตามงบที่ขอไป 10 ล้านบาท จากงบจริงที่จะต้องใช้ 31 ล้าน "บิ๊กชา" ปรีชา ต่อตระกูล ประธานดำเนินงาน เปรียบเทียบสนามเทนนิสมูลค่าเป็น 100 ล้าน กับสนามบ
นายปรีชา ต่อตระกูล ประธานดำเนินงานหาสถานที่ฝึกซ้อมสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย ออกมากล่าวถึงเรื่องที่กองทุนพัฒนากีฬาชาติไม่อนุมัติงบประมาณจำนวน 10 ล้าน เพื่อนำมาสร้างศูนย์ฝึกเทควันโดแบบครบวงจรมูลค่า 31 ล้านบาท ว่าส่วนตัวรู้สึกผิดหวังมากที่การของบประมาณสร้างศูนย์ฝึกเทควันโดไม่ผ่านการพิจารณา ทั้งที่จริงศูนย์แห่งนี้มีความจำเป็นอย่างมาก เพราะปัจจุบันนี้เราใช้ศูนย์ฝึกกีฬาเพื่อการแข่งขันเป็นสถานที่ฝึกซ้อมของนักกีฬาทีมชาติ มีแค่ 2 ฟลอร์ ซึ่งแต่ละฟลอร์จะใช้ซ้อมนักกีฬาเพียง 4 คู่เท่านั้น แต่ตอนนี้เรามีนักกีฬาทีมชาติที่เก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ถึง 2 ทีมจำนวน 32 คน และยังจะมีนักกีฬาเยาวชนอีกเกือบ 20 คน รวมแล้วประมาณ 50 คน ไม่เพียงพอที่จะรองรับได้
ที่สำคัญบางครั้งนักกีฬามีจำนวนมาก ทีมงานสตาฟฟ์โค้ชต้องพานักเทควันโดไปซ้อมที่สนามพื้นปูนหน้า กกท.แทน สมาคมจึงมีความจำเป็นต้องมีศูนย์ฝึกซ้อมเทควันโดแบบครบวงจรเกิดขึ้น เพื่อพัฒนาทุกอย่างไปทั้งระบบ ส่วนตัวอยากวิงวอนให้คณะกรรมการกองทุนพัฒนากีฬาชาติช่วยนำกลับไปพิจารณาใหม่ เพราะขนาดศูนย์กีฬาเทนนิสมูลค่า 100 ล้านบาท ที่เมืองทองธานี และสนามยิงปืนกว่า 50 ล้านบาท กองทุนยังพิจารณาไฟเขียวได้ ซึ่งเรื่องนี้ก็กรณีเดียวกันทำไมแค่ 10 ล้านบาท จะพิจารณาให้ไม่ได้ เพราะส่วนที่เหลือสมาคมจะต้องวิ่งเต้นหาจากสปอนเซอร์เองทั้งหมด
"บิ๊กชา" กล่าวว่า ศูนย์ฝึกแห่งนี้จะมีอุปกรณ์ทุกอย่างครบครันขนาดตึก 3 ชั้น จะมีประโยชน์ต่อประเทศชาติมาก ทุกอย่างเราทำไปเพื่อนักกีฬา และเป็นสมบัติของทุกคนไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง โดยเฉพาะจะเป็นแหล่งผลิตนักเทควันโดหน้าใหม่ๆ มาประดับวงการ มีตัวตายตัวแทนเกิดขึ้นมาใช้งานได้ทันเวลา งบประมาณ 10 ล้านบาทที่ขอไปน่าจะได้รับการพิจารณา เพราะบางชนิดกีฬาสนามฝึกซ้อมยังไม่มีเลย แต่ของบประมาณจัดการแข่งขันรายการนานาชาติทีละหลายล้านบาท คณะกรรมการกองทุนยังอนุมัติได้เลย และนี่เราเอามาสร้างศูนย์เพื่อพัฒนากีฬาเทควันโด ซึ่งเราถือว่าเป็น หนึ่งในชนิดกีฬาที่สามารถทำชื่อเสียงให้ประเทศไทยในรายการระดับโลกอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะโอลิมปิกเกมส์ น่าจะได้รับการอนุมัติบ้าง
อย่างไรก็ตามหากไม่ได้เราก็คงต้องกลับไปศึกษาว่า อะไรตรงกับหลักเกณฑ์การพิจารณาบ้าง เราอาจจะของบซื้ออุปกรณ์ฝึกซ้อมจากกองทุนทดแทนได้ ส่วนงบประมาณค่าก่อสร้างอาคาร สมาคมคงต้องเดินหน้าก่อสร้างกันต่อไป โดยหาผู้ให้การสนับสนุนเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งทุกวันนี้เรามีธนาคารอาคารสงเคาระห์ การกีฬาแห่งประเทศไทย และบุญรอด บริวเวอรี่ ที่ให้การสนับสนุนอยู่ แต่ส่วนใหญ่เงินทุกบาทจะมุ่งไปที่ตัวนักกีฬาเพื่อสู่ความเป็นเลิศสร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติไม่ได้เอามาปนกับการก่อสร้างศูนย์ฝึกในครั้งนี้