'แก้มลิง'แก้น้ำท่วมเทศบาลนครสุราษฎร์ | คมชัดลึก

 

                         ปัญหาน้ำท่วมเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานีหลายจุดหลายพื้นที่เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูฝนหรือมีน้ำหลากมักจะถูกน้ำท่วมขังเป็นเวลานานและซ้ำซาก โดยมีสาเหตุหลัก มาจากการที่คูคลองตื้นเขิน ไม่ได้ปรับปรุงเป็นเวลานาน ประกอบกับความเจริญในส่วนของการขยายตัวเมืองและความเจริญด้านวัตถุ ทำให้เมืองขยายตัวมากขึ้น บางจุด บางพื้นที่ในอดีตเคยเป็นคูคลองที่ใช้สัญจรทางเรือหรือเป็นแหล่งระบายน้ำได้ดี แต่เมื่อความเจริญเข้ามาเยือน ทำให้คูคลองถูกทับถม เต็มไปด้วยดินหิน ทรายหรือซากปรักหักพัง จนมีสภาพที่ตื้นเขิน หรือบางแห่งมีสิ่งปลูกสร้างขวางทางน้ำ เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูฝนจะทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นประจำ

                         นับเป็นโอกาสก็ว่าได้ที่นโยบายของรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมบริเวณสนามกีฬา หน้าค่ายวิภาวดีรังสิต จังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี โดยการทำเป็นแหล่งเก็บกักน้ำหรือแก้มลิงตามแนวพระราชดำริ ซึ่งปฏิบัติการโดยกองทัพบกทำการขุดลอกให้มีบริเวณเก็บน้ำเพียงพอและวางแผนการระบายน้ำอย่างเป็นระบบ โดยใช้งบประมาณ 5.3 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาให้เบาบางไปได้มาก

                         ล่าสุด พล.อ.ศิริชัย ดิฐกุล ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้า โดยมีนายธีรกิจ หวังมุทิตากุล นายกเทศมนตรีเทศบาลนครสุราษฎร์ธานีและทีมบริหาร ต้อนรับเป็นอย่างดี

                         ทั้งนี้ โครงการขุดลอกและพัฒนาพรุคลองควาย สวนหลวง ร.9 ช่วงที่ 1 เพื่อทำแก้มลิงในพื้นที่ประมาณ 40 ไร่ ลึกโดยประมาณ 3 เมตร ปริมาณเก็บกักน้ำ 2 แสนลูกบาศก์เมตรโดยประมาณ พร้อมจัดทำคันดินกว้างประมาณ 15 เมตร โดยรอบบริเวณยาวประมาณ 1,500 เมตร แล้วจัดทำเป็นทางเดินหรือทางจักรยาน กับมีบริเวณเก็บน้ำจืดและที่เหลือทำเป็นที่ชมนก เป็นทางเดินและมีการทำเป็นเกาะกลุ่มทำเป็นทางเดินเชื่อมต่อ มีที่พักผ่อนและโรงเรือนสำหรับทำกิจกรรม ทั้งมีประตูระบายน้ำเพื่อควบคุมปริมาณน้ำกับมีโรงสูบน้ำเพื่อสามารถนำน้ำจืดไปใช้ในฤดูแล้ง คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนพฤษภาคมนี้

                         "ธีรกิจ หวังมุทิตากุล" นายกเทศมนตรีนครสุราษฎร์ธานี ระบุว่า หลังโครงการขุดลอกพรุคลองควาย เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ถูกปรับเป็นแก้มลิงแก้ปัญหาน้ำท่วมตามโครงการของรัฐบาลแล้วเสร็จสมบูรณ์ ทางเทศบาลนครสุราษฎร์ธานีเองยังมีโครงการต่อเนื่องเพื่อปรับสภาพภูมิทัศน์ส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบครบวงจร โดยที่หวังจะเป็นปอดอีกแห่งหนึ่งของเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เชื่อมั่นว่าจะทำได้ไม่ยาก เพียงแต่อาจจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมากพอสมควรและต้องใช้เวลา ซึ่งตอนนี้ได้ทำโครงการและแผนงานไว้แล้ว

                         โครงการขุดลอกพรุคลองควายตามนโยบายของรัฐบาลครั้งนี้จะเสร็จสิ้นช่วงหน้าฝนพอดี มั่นใจว่าเมื่อถึงช่วงน้ำหลากหรือฝนตกชุก คงจะสามารถรองรับและระบายน้ำได้ดี คงไม่มีปัญหาน้ำท่วมขังในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานีอย่างแน่นอน

                         ขั้นตอนต่อไปที่เทศบาลนครสุราษฎร์ธานีจะสานต่อนอกจากปรับระบบภูมิทัศน์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศแล้ว ในอนาคตอาจจะเป็นศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศหรือเป็นสวนสาธารณะอีกแห่งหนึ่งของเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในตัวเมืองสุราษฎร์ธานีได้ไม่ยาก เพราะมีจุดขายในตัวเอง เชื่อมั่นว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาได้ไม่ยาก ทำให้สภาพเศรษฐกิจของตัวเมืองสุราษฎร์ธานีดียิ่งขึ้นไปอีก

                         สำหรับโครงการปรับปรุงและพัฒนาแหล่งน้ำตามนโยบายรัฐบาลที่ดำเนินการโดยกองทัพบก ในส่วนของกองทัพภาคที่ 4 ในปี 2556 นี้ รัฐบาลได้ให้ความสำคัญต่อการป้องกันแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งแบบยั่งยืนโดยได้กำหนดยุทธศาสตร์และแผนแม่บทในการบริหารน้ำในภาพรวม ทั้งพื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ มีสาระสำคัญได้แก่ น้ำต้องมีแหล่งรองรับและที่ระบายอย่างเหมาะสม ประชาชนทุกระดับต้องได้รับการดูแลทั้งพื้นที่ชุมชนและพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ มีการป้องกันพื้นที่เกษตรกรรม จัดให้มีทุ่งรับน้ำหรือแก้มลิง พื้นที่ที่ใช้ผันน้ำหลากจะต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมเป็นธรรม โดยรัฐบาลมอบให้หน่วยงานต่างๆ ร่วมกันรับผิดชอบดำเนินการเพื่อให้การแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

                         ภารกิจหลัก คือ กองทัพภาคที่ 4 ดำเนินการโครงการปรับปรุงและพัฒนาแหล่งน้ำ ตามนโยบายรัฐบาลที่ดำเนินการโดยกองทัพบก ครอบคลุมพื้นที่ 6 จังหวัด คือ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สตูล สงขลา และปัตตานี จำนวน 18 แผนงาน วงเงินทั้งสิ้น 137,235,536 บาท การดำเนินการดังกล่าว แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและเสริมสร้างการมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาแหล่งน้ำ และเพื่อเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนตามนโยบายของรัฐบาลกองทัพภาคที่ 4 จึงได้น้อมนำแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเรื่องโครงข่ายอ่างเก็บน้ำหรืออ่างพวง มาปรับใช้ในการปฏิบัติงาน ทั้งยังให้ความสำคัญต่อการรณรงค์ปลุกจิตสำนึกในการอนุรักษ์และหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติควบคู่ไปด้วย

                         โครงการขุดลอกสระเก็บน้ำพรุคลองควาย เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เป็นโครงการหนึ่งที่ทางรัฐบาลเห็นความสำคัญและมอบให้กองทัพภาค 4 ดำเนินการ โดยที่กำลังทหารทุกหน่วยได้จัดกำลังและยุทโธปกรณ์เข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนพฤษภาคมนี้ ส่วนพื้นที่อื่นก็เช่นเดียวกันคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน ปัจจุบันงานมีความก้าวหน้าไปมากแล้ว เมื่อโครงการเสร็จเรียบร้อย จะมีผลต่อการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งให้พี่น้องประชาชนจำนวนไม่น้อยหรือไม่ต่ำกว่า 13,383 ครัวเรือน

                         นับว่าเป็นโครงการที่รัฐบาลเห็นความสำคัญของภัยธรรมชาติที่ส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจากน้ำมือมนุษย์ แต่หากมีการแก้ไขปรับปรุงโดยยึดตามแนวพระราชดำริ ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง โดยที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชนในพื้นที่ให้ความร่วมมือ เชื่อมั่นว่าความอยู่ดีกินดีจะกลับคืนมาได้ไม่ยาก

 

 

---------------------

(ขุดลอกพรุคลองควายเป็นแก้มลิง...แก้น้ำท่วมเทศบาลนครสุราษฎร์ : สุวรรณี บัณฑิศักดิ์ ... รายงาน)