ข่าว

รวบ!แก๊งทองปลอมตุ๋นจำนำร้านทอง

รวบ!แก๊งทองปลอมตุ๋นจำนำร้านทอง

01 พ.ค. 2556

ตำรวจรวบ!ยกแก๊งทองปลอมตุ๋นจำนำร้านทอง ทำมา 13 ปี กวาดเงิน 15 ล้าน

               เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 1 พ.ค. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ชาญ แสงเสียงฟ้า รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. และนายสมศักดิ์ ตัณฑชน กรรมการสมาคมค้าทองคำ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการการแก้ไขปัญหาทองปลอม ร่วมกันแถลงผลจับกุมแก๊งตุ๋นทองปลอม ประกอบด้วย 1.นายสมบัตร พวงเพชร อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงธนบุรี ลงวันที่ 25 มี.ค.2556 ในข้อหา ฉ้อโกง 2.นายสายันต์ หรือเนตร พูลเกิด อายุ 32 ปี 3.นายวรวุฒิ หรือเจ้า ไกรจันทร์ อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงธนบุรี ในข้อหา ฉ้อโกง 4.นายกิตติ หรือหนึ่ง สระปัญญา อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ลงวันที่ 23 พ.ย.2556 และ 5.น.ส.อนุสรา หรือเกตุ ปั้นขุนทด อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ลงวันที่ 8 ม.ค.2556 โดยจับกุม นายสมบัติ นายสายันต์ และนายวรวุฒิ ได้ที่ อ.หนองแค จ.สระบุรี จากนั้นได้ขยายผลจับกุม นายกิตติ และน.ส.อุสรา ได้ที่บริเวณหมู่บ้านพุทธชาด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมของกลาง สร้อยคอทองคำปลอม หนัก 2 บาท จำนวน 3 เส้น

                พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากสมาคมผู้ค้าทองคำ ได้ประสานขอความร่วมมือมายัง บช.น. ในการสืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับแก๊งทำทองปลอม ที่ผลิตทองปลอมขึ้นมาแล้วตระเวนขายตามร้านทอง หรือโรงรับจำนำ สร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก ต่อมา บก.สส.บช.น. ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายสมบัติ เป็นหัวหน้าแก๊ง โดยจะนำสร้อยคอทองคำปลอมที่ยัดไส้ในด้วยโลหะชนิดต่างๆ จนมีน้ำหนักเท่ากับของจริง และประทับตราสัญลักษณ์ของร้านทองชื่อดังต่างๆ ลงบนทอง ก่อนจะให้ลูกน้องนำไปจำนำกับร้านขายทอง ซึ่งกลุ่มของนายสมบัติ มักจะรวมตัวกันอยู่ที่โต๊ะสนุ๊กเกอร์แห่งหนึ่ง ย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี และจะตระเวนก่อเหตุตามร้านทองทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี 2543 ต่อเนื่องมาเป็นเวลา 13 ปี แก๊งของนายสมบัติ สามารถนำทองปลอมหนัก 2 บาท ไปจำนำได้เดือนละประมาณ 10 เส้น มีรายได้ถึง 1 แสนบาท หลังหักจากต้นทุนแล้ว รวมมูลค่าความเสียหาย 15 ล้านบาท

                ด้าน พล.ต.ต.ประยนต์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.นพศิลป์ ได้นำกำลังติดตามแก๊งของนายสมบัติ กับพวก จากโต๊ะสนุ๊กเกอร์ ย่านบางบัวทอง ไปจนถึง อ.หนองแค จ.สระบุรี ซึ่งนายสมบัติ กับพวกได้นำทองปลอมไปหลอกขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งในตลาดหนองแค จึงจับกุมพร้อมกับยึดของกลางสร้อยคอทองคำปลอมดังกล่าว จากนั้นจึงขยายผลไปจับกุม นายกิตติ และน.ส.อนุสรา ที่ย่านบางบัวทอง จากการสอบสวน นายสมบัติ ให้การว่า สร้อยคอทองคำปลอมที่นำไปจำนำนั้น เป็นของนายโจ้ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง โดยนำมาขายให้ในราคาเส้นละ 20,000 บาท หากจำนำจะได้เส้นละ 32,000 - 35,000 บาท

                พล.ต.ต.ประยนต์ กล่าวต่อว่า สมาชิกในแก๊งที่ทำหน้าที่ดูต้นทาง และนำทองปลอมไปจำนำ จะได้ค่าจ้างเส้นละ 1,500 -2,000 บาท ส่วนนายสมบัติ ได้ส่วนแบ่งเส้นละ 8,000 -10,000 บาท โดยนายสมบัติ กับพวกจะใช้วิธีการนำทองปลอมไปจำนำ ไม่ใช้วิธีการขาย เพราะร้านค้าจะใช้การทดสอบแค่ชั่งน้ำหนัก และดูสภาพภายนอก ไม่สามารถใช้วิธีการเผาไฟ หรือการตะไบเนื้อทอง เหมือนการขายขาดได้ เพราะจะทำให้ทองที่นำมาจำนำเสียหายมาก ทำให้พนักงานร้านทอง หรือโรงรับจำนำที่ขาดความชำนาญหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อ

                "ผมอยากให้ร้านทองระมัดระวังในการรับซื้อ หรือรับจำนำ โดยขอให้ตรวจสอบดูน้ำหนัก และตรวจสอบความยืดหยุ่นของทอง หากเป็นของจริงจะมีความยืดหยุ่น หากเป็นทองปลอมจะยัดไส้แข็ง ไม่สามารถบิดได้เหมือนของจริง และหากสงสัยให้ตะไบบริเวณเส้นของทอง หรือใช้ไฟเป่า หากเป็นทองปลอมจะพบโลหะสีอื่นอยู่ด้านใน" พล.ต.ต.ประยนต์ กล่าว

                ขณะที่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การที่กลุ่มมิจฉาชีพนำทองปลอมมาหลอกจำนำตามร้านทองต่างๆ นั้น ทำให้แต่ละร้านได้รับความเสียหาย มูลค่า 2 แสนบาทต่อปี ร้านทองที่มีอยู่ในประเทศไทยกว่า 6,000 ร้าน รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมดก็อยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อปี ทางสมาคมผู้ค้าทองคำจึงประสานมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ช่วยเร่งรัดจับกุมแก๊งทำทองปลอม ซึ่งก่อนหน้านี้มีการทลายแหล่งผลิตทองปลอมไปแล้ว 2 แห่ง และจับกุมผู้ต้องหาได้หลายราย ต้องขอขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างมาก

                " จุดอ่อนของร้านทอง คือ การขายฝาก ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบด้วยวิธีการตะไบ หรือเผาไฟได้ คนที่ทำจะต้องเป็นช่างทอง คนทั่วไปไม่สามารถทำได้ ทองปลอมที่แก๊งมิจฉาชีพทำขึ้นมาข้างนอกจะเป็นทองจริง ข้างในเป็นเงิน ใช้วิธีการหุ้ม จึงอยากให้ร้านทอง และโรงรับจำนำต่างๆ ตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพ" นายสมศักดิ์ กล่าว

                จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหา พบว่า นายสายันต์ มีหน้าที่นำทองปลอมไปจำนำ โดยก่อเหตุมาแล้ว 3 ครั้ง ที่ จ.สุพรรณบุรี อยุธยา และสระบุรี ส่วนนายวรวุฒิ มีหน้าที่ดูต้นทางและนำทองปลอมไปจำนำ ก่อเหตุมาแล้วทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี 2553 สำหรับนายกิตติ มีหน้าที่นำทองปลอมไปจำนำ ก่อเหตุมาแล้ว 3 ครั้ง ในพื้นที่ สน.ประเวศ สน.ลาดพร้าว และสภ.ประตูน้ำจุฬา จ.ปทุมธานี ในส่วนของ น.ส.อนุสรา มีหน้าที่นำทองปลอมไปจำนำเช่นกัน ก่อเหตุมาแล้ว 2 ครั้ง ในพื้นที่ สน.ลาดพร้าว และ สน.บางขุนเทียน

                เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ฉ้อโกง และปลอมแปลงเครื่องหมายการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งท้องที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งทำการสืบสวนขยายผลถึงต้นตอที่เป็นผู้ผลิตทองปลอม เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป