ข่าว

เงื่อนไข5ข้อ'BRN'ชนวนเดือด...เลื่อนเจรจา!

เงื่อนไข5ข้อ'BRN'ชนวนเดือด...เลื่อนเจรจา!

01 พ.ค. 2556

เงื่อนไข5ข้อ'บีอาร์เอ็น' ชนวนเดือด...เลื่อนเจรจา! : ทีมข่าวความมั่นคงรายงาน

 

               วงพูดคุยเพื่อสันติภาพระหว่างตัวแทนของรัฐบาลไทยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นเมื่อวันที่ 29 เมษายน ที่ผ่านมา ร้อนระอุยิ่งกว่าการพูดคุยทุกครั้งที่ผ่านมา หลังการเดินเกมกดดัน และฉีกหน้ารัฐบาลไทยด้วยแถลงการณ์ข้อเรียกร้อง 5 ข้อของแกนนำบีอาร์เอ็น โดย นายฮัสซัน ตอยิบ และนายอับดุลการิม คาลิบ ก่อนหน้าการเจรจาเพียง 1 วัน ที่เปรียบเสมือนระเบิดลูกใหญ่เขย่าโต๊ะเจรจา


               สำหรับผู้นำคณะฝ่ายไทย จำนวน 10 คน ยังคงเป็น พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยตัวแทนฝ่ายไทยอีก 1 คนที่เพิ่มเติมเข้ามาจากรอบที่แล้ว คือพล.ต.ชรินทร์ อมรแก้ว เสนาธิการกองทัพภาคที่ 4 ในฐานะตัวแทนจากกองทัพภาคที่ 4

               ส่วนฝ่ายบีอาร์เอ็นมี นายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็นฝ่ายการเมือง ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะเช่นเดิม แต่คราวนี้ได้มีการเพิ่มสมาชิกบีอาร์เอ็นอีก 1 คน คือ นายอาหวัง ซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มเยาวชนและมีถิ่นฐานอยู่ในพื้นที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส รวมแล้วมีตัวแทนกลุ่มบีอาร์เอ็นเข้าร่วมเจรจาด้วย จำนวน 7คน


               การพูดคุยครั้งนี้ใช้เวลาพูดคุยกันยาวนานค่อนวันไม่ต่างจากครั้งก่อน โดยใช้เวลาไป 11 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. บรรยากาศช่วงแรกเป็นไปด้วยดี โดยเป็นการต่อยอดจากการประชุมรอบที่แล้วเมื่อวันที่ 28 มีนาคม โดยประเด็นหลักของฝ่ายไทย คือ การลดเหตุความรุนแรง หยุดกระทำต่อเป้าหมายอ่อนแอ และพื้นที่เศรษฐกิจ ส่วนบีอาร์เอ็นเสนอขอในเรื่องของความยุติธรรม

               หลังจากนั้นบรรยากาศเริ่มร้อนระอุขึ้น เมื่อฝ่ายบีอาร์เอ็นได้หยิบเอาเงื่อนไข 5 ข้อที่แถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ยูทูบไปพูดคุยบนโต๊ะเจรจาด้วย เพื่อแลกกับการยุติการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
 
               แต่เมื่อฝ่ายไทยปฏิเสธที่จะรับ 5 ข้อเสนอดังกล่าว จึงทำให้บรรยากาศอึมครึมขึ้นมาทันที เพราะฝ่ายบีอาร์เอ็นยืนกรานในข้อเสนอของตน ซึ่งฝ่ายไทยไม่อาจตอบสนองให้ได้ เพราะผิดหลักการในการพูดคุยครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ และขัดรัฐธรรมนูญของไทย จนต้องมีการเลื่อนประชุมไปในวันที่ 13 มิถุนายน เนื่องจากไม่อาจหาข้อสรุปร่วมกันได้


               ต่อมาบรรยากาศในช่วงบ่ายถึงค่ำก็มีการโต้แย้งกันอย่างดุเดือดเป็นระยะ โดยเฉพาะประเด็นที่ฝ่ายไทยถามกลุ่มกลุ่มบีอาร์เอ็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ที่ไม่ได้ลดลงในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาโดยเฉพาะการใช้ระเบิด และการซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่จนเสียชีวิตไปแล้วหลายนาย และบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก

               ขณะที่ฝ่ายบีอาร์เอ็นชี้แจงเรื่องเหตุความรุนแรงที่ยังเกิดขึ้นต่อเนื่องว่า ที่ผ่านมาได้มีการส่งสัญญาณไปยังพื้นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นยังคงเป็นปัญหาเดิมๆ ที่ยังไม่สามารถควบคุมกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่ได้ เพราะบางส่วนยังไม่ยอมรับการเจรจา แต่ก็รับปากที่จะเร่งดำเนินการเพื่อให้เกิดสันติสุขในพื้นที่โดยเร็ว


               จากนั้นฝ่ายบีอาร์เอ็นได้ถามตัวแทนรัฐบาลไทยในเรื่องความยุติธรรม โดยเฉพาะเรื่องการ "ยกเลิกหมายจับ" โดยไม่มีเงื่อนไข ซึ่งฝ่ายไทยได้ชี้แจงว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบสืบสภาพและกำลังดำเนินการอยู่ เพราะจะต้องพิจารณาจากหลายส่วนงาน เพราะเป็นเรื่องของกฎหมาย


               หนึ่งในคณะร่วมเจรจาครั้งนี้ยอมรับว่า สำหรับ 5 ข้อเรียกร้องของกลุ่มบีอาร์เอ็น ถือเป็นข้อเรียกร้องที่ใหญ่มาก และแต่ละข้อที่เสนอมาคณะทำงานคงตัดสินใจไม่ได้ ต้องนำกลับมาพิจารณากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน โดยเฉพาะอำนาจการตัดสินใจที่เป็นของรัฐบาล โดยเรายืนยันว่า การพูดคุยกันจะต้องอยู่บนพื้นฐานภายใต้รัฐธรรมนูญ ถ้าขัดรัฐธรรมนูญคงไม่สามารถทำได้

               เขามองว่า เงื่อนไข 5 ข้อของกลุ่มบีอาร์เอ็นจะทำให้กระบวนการพูดคุยล่าช้า เพราะจะต้องกลับไปแก้ไขกฎกติกาที่ได้ลงนามเมื่อครั้งที่ผ่านมา โดยข้อตกลงเดิมกำหนดไว้ชัดเจน เช่น ให้มาเลเซียเป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุยเท่านั้น หากมีการยกระดับให้มาเลเซียเป็น "ตัวกลาง" คงผิดวัตถุประสงค์เพราะเรายืนยันว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่เป็นปัญหาภายในประเทศเท่านั้น


               "เมื่อการพูดคุยยังไม่สามารถตกลงกันได้ จึงจำเป็นต้องเลื่อนการพูดคุยเพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ออกไปในวันที่ 13 มิถุนายน ซึ่งการเลื่อนครั้งนี้ไม่ได้เป็นการล้มโต๊ะการเจรจา เพียงแต่ให้ทั้งสองฝ่ายกลับมาทบทวนว่าข้อเสนอที่แต่ละฝ่ายยื่นเงื่อนไขนั้น จะสามารถผลักดันให้เกิดผลสำเร็จได้มากน้อยแค่ไหน"หนึ่งในคณะผู้ร่วมเจรจา กล่าวย้ำ

               คณะผู้ร่วมเจรจาฝ่ายไทยคนเดิมชี้ว่า เงื่อนไข 5 ข้อดังกล่าวถือเป็นการ "เดินเกมรุก" ของกลุ่มบีอาร์เอ็น เพราะเป็นการวางระบบการพูดคุยด้วยการ "ยกระดับ" เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น ว่าเป้าหมายสุดท้ายของกลุ่มบีอาร์เอ็น คือ ต้องการ "การปกครองตนเอง" และการพูดคุยกันต่อจากนี้คงจะมาพูดคุยกันเฉยๆ ไม่ได้ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องยกระดับการพูดคุยให้สูงขึ้นไปอีกขั้น


               “โรดแม็พ 5 ข้อจะนำไปสู่การเจรจาต่อรองในอนาคต โดยข้อ 1.ต้องการการยกระดับมาเลเซียให้เป็นผู้ไกล่เกลี่ย และเป็นสักขีพยาน เพราะถ้าตกลงกันไป แต่ไม่มีใครรับรองก็เท่านั้น ส่วนข้อ 4-5 โดยเฉพาะข้อ 3 ที่ให้องค์กรภายนอกประเทศเข้ามาเราอย่าตกหลุมพรางเด็ดขาด เพราะทุกอย่างต้องปฏิบัติภายใต้กฎหมาย และรัฐธรรมนูญของไทยเท่านั้น”

               จากบทวิเคราะห์ และเสียงเตือนจากคณะผู้ร่วมเจรจาฝ่ายไทยดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า หนทางสู่สันติภาพที่พลันสว่างวาบขึ้นมาก่อนหน้านี้ ชักจะริบหรี่ลงเรื่อยๆ เสียแล้ว


เงื่อนไข 5 ข้อของบีอาร์เอ็น

               1.นักล่าอาณานิคมสยามต้องยอมรับให้ประเทศมาเลเซียเป็นคนกลางผู้ไกล่เกลี่ย (mediator) ไม่ใช่แค่ผู้ให้ความสะดวก (facilitator)


               2.การพูดคุยเกิดขึ้นระหว่างชาว (bangsa) ปาตานี ที่นำโดยบีอาร์เอ็น กับนักล่าอาณานิคมสยาม

               3.ในการพูดคุย จำเป็นต้องมีพยานจากประเทศอาเซียน องค์กร โอไอซี และองค์กรเอ็นจีโอ

               4.นักล่าอาณานิคมสยามต้องปล่อยผู้ที่ถูกควบคุมตัวทุกคนและยกเลิกหมายจับทั้งหมด (ที่เกี่ยว

ข้องกับคดีความมั่นคง) โดยไม่มีเงื่อนไข

               5.นักล่าอาณานิคมสยามต้องยอมรับว่า องค์กรบีอาร์เอ็นเป็นขบวนการปลดปล่อยชาว (bangsa)

ปาตานี ไม่ใช่กลุ่มแบ่งแยกดินแดน

................

(หมายเหตุ : เงื่อนไข5ข้อ'บีอาร์เอ็น' ชนวนเดือด...เลื่อนเจรจา! : ทีมข่าวความมั่นคงรายงาน)