ย้อนรอยแบรนด์หรู'กุชชี่' | คมชัดลึก

 

                           ปิดท้ายการเฉลิมฉลองครบ 90  ปีของแบรนด์หรูอย่าง "กุชชี่" (Gucci) ยิ่งใหญ่ด้วยการเปิดตัวพิพิธภัณฑ์เดอะ กุชชี่ มูซีโอ (The Gucci Museo) อนุสรณ์เพื่อเป็นเกียรติแก่ผลงานอันเป็นประวัติศาสตร์และมรดกแห่งความสร้างสรรค์ของแบรนด์ ภายในพระราชวังพาลาซโซ่  เดลล่า เมอเคนเซีย (Palazzo della Mercanzia) ซึ่งตั้งอยู่ บริเวณ จตุรัส เปียซซ่า ซินญอเรีย (Pizzaria Signoria )ในกรุงฟลอเรนซ์ (Florexu nce) โดยเมื่อปี 1921 กุชชิโอ กุชชี่ (Guccio Gucci) ได้เปิดบริษัท และร้านค้าแห่งแรกของเขาขึ้นในกรุงฟลอเรนซ์ ด้วยความฝันและวิสัยทัศน์อันแรงกล้าที่ยังคงสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้ ผ่านทางมรดกแห่งเอกลักษณ์และคุณค่าที่ยังคงเป็นแรงบันดาลใจหลักให้กับแบรนด์เสมอมา

                           กุชชี่ มูซีโอ ถือกำเนิดขึ้นจากความคิดของ ฟรีดา จิอานินี่ (Frida Giannini) ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของกุชชี่ (Gucci) เป็นพื้นที่ซึ่งห่อหุ้มปรัชญาหลัก ปัจจุบันคือนิรันดร์  (Forever Now) ของแบรนด์ไว้อย่างลงตัว นิทรรศการถาวรรวบรวมทั้งความรุ่มรวย ความสำคัญทางวัฒนธรรม ที่ทางแบรนด์ได้ถนอมรักษาและขยายให้กว้างไกลขึ้นผ่านวันเวลายาวนานอยู่เคียงข้างกับชิ้นงานศิลปะร่วมสมัยที่ได้รับการสนับสนุนจาก มูลนิธิปิโนลต์ (Pinault Foundation) นอกจากนี้ ยังมีสโตร์อันเป็นเอกลักษณ์ ร้านหนังสือ ร้านกาแฟและร้านจำหน่ายของที่ระลึกที่จะเติมเต็มพื้นที่นิทรรศการให้สมบูรณ์ เพื่อให้ที่นี่เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวอย่างแท้จริง

                           กุชชี่ มูซีโอมีพื้นที่ 1,715 ตารางเมตร และมีทั้งหมด 3 ชั้น ซึ่งแบ่งออกเป็นห้องตามธีมที่แตกต่างกัน โดยได้แรงบันดาลใจมาจากลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์และสัญลักษณ์ของแบรนด์ ในขณะที่ชั้นล่างและชั้นบนของอาคารเปิดให้สาธารณชนเข้าชมได้ ชั้นใต้ดินส่วนตัวของอาคารเป็นห้องนิรภัย กุชชี่  อาร์ไคฟส์ (Gucci Archive) ที่รวบรวมผลงานจากคอลเลกชั่น เรย์ดี้ ทู แวร์ แอคเซสเซอรี่ ข้าวของต่างๆ เอกสาร และภาพถ่ายที่ถูกรวบรวมไว้อย่างใส่ใจ แยกแยะเป็นหมวดหมู่ และเก็บรักษาไว้เพื่อเป็นเครื่องบันทึกถึงจักรวาลแห่งความสร้างสรรค์และอิทธิพลทางวัฒนธรรมอันเป็นมรดกของแบรนด์

                           เริ่มกันด้วยห้องนิทรรศการ ห้อง “การเดินทาง” (Travel) ซึ่งเป็นคอลเลกชั่นแรกของ กุชชิโอ กุชชี่ ซึ่งเขาได้แรงบันดาลใจมาจากกระเป๋าเดินทางมากมายที่เขาได้เห็นระหว่างทำงานเป็นเด็กยกกระเป๋าที่ โรงแรม เดอะ ซาวอย ลอนดอน (London’s Savoy Hotel) นั่นเอง เดิมทีทางร้านจะผลิตกระเป๋าเดินทางสไตล์อังกฤษโดยเฉพาะ  และกระเป๋าชิ้นที่เก่าแก่ที่สุดในที่พิพิธภัณฑ์นี้ทำขึ้นเมื่อยุคเตอร์ตี้ (30s)โดยเริ่มแรกเป็นสีขาวทำจากไม้เคลือบหนังอยู่ชั้นบน ซึ่งกระเป๋าใบนี้เป็นใบเดียวที่ใช้หนังม้าลายแท้ๆ และหาไม่ได้ในสมัยนี้ 

                           ต่อด้วยชั้นหนึ่ง “พื้นที่จัดแสดงศิลปะร่วมสมัย”  แสดงงานศิลปะร่วมสมัย มีห้องฉายวิดีโอและจัดแสดงภาพยนตร์ ซึ่งมีตั้งแต่ชิ้นงาน "ศิลปะภาพยนตร์" ดั้งเดิมและร่วมสมัย ห้องแสดงงานศิลปะจาก ซินดี้ เชอร์แมน  ช่างภาพชาวอเมริกัน นำโชว์งานศิลปะถ่ายรูป โดยการแสดงอารมณ์ในบทบาทและตัวละครต่างๆ  พื้นที่แสดง “กระเป๋าถือ” เป็นที่ที่ได้รวบรวมกระเป๋ารุ่นประวัติศาสตร์หลายรุ่น ที่เป็นวัตถุแห่งยุคสมัยที่ผู้คนยังคงอยากครอบครองมาจนถึงทุกวันนี้

                           ห้อง”ราตรี” (Evening) สื่อถึงภาพฝันอันงดงามของชุดราตรี และมนต์เสน่ห์ของชุดราตรีในงานพรมแดงที่เหล่าคนดังสวมใส่ในค่ำคืนทรงคุณค่า ห้องแสดงสินค้า“เลอค่า” (Precious) จัดแสดงกระเป๋าคลัทช์ที่โดดเด่น และชิ้นงานหายากอื่นๆ  ในขณะที่ชั้นสอง เป็นห้องจัดแสดงธีม “หลงใหลในโลโก้” (Logomania) พื้นที่เก็บบันทึกพัฒนาการของลายพิมพ์ดับเบิ้ล จี (Double G) สืบย้อนกลับไปถึงเรื่องราวในประวัติศาสตร์

                           ปิดท้ายด้วยพื้นที่แสดงธีม “ไลฟ์สไตล์” (Lifestyle) และ “กีฬา” (Sport) เติมเต็มการเดินทางของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ให้สมบูรณ์ด้วยสัญลักษณ์และผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ที่ได้แรงบันดาลใจจากโลกของกีฬาและการพักผ่อน โดยการนำรายละเอียดของอุปกรณ์กีฬามาเป็นแรงบันดาลใจในการนำเสนอสินค้า เช่นหัวเข็มขัดต่างๆ บัคเคิ้ลรองเท้า ส่วนกระเป๋าลายสีเขียวและแดงสุดคลาสสิกที่คุ้นตากันเป็นอย่างดี โดยแรงบันดาลใจจากความหลงใหลในการขี่ม้า และท้ายสุดก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ กุชชี่ ในเวลาต่อมา

                           มีโอกาสไปฟลอเรนซ์คราวหน้าไม่ควรพลาด โดยเฉพาะสาวกแบรนด์กุชชี่

 

 

---------------------

(แฟชั่นวันอาทิตย์ : ย้อนรอยแบรนด์หรู 'กุชชี่' : โดย...มะนาวหวาน)