ข่าว

วัยโจ๋วอนสงกรานต์ไม่แต๊ะอั๋ง

วัยโจ๋วอนสงกรานต์ไม่แต๊ะอั๋ง

10 เม.ย. 2556

วัยโจ๋วอนสงกรานต์ไม่แต๊ะอั๋ง

 

                         ด้วยจุดมุ่งหมายที่ต้องการสะท้อนปัญหาคุกคามทางเพศในเทศกาลสงกรานต์ ขณะเดียวกันก็ต้องการกระตุ้นให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมแก้ปัญหาดังกล่าว สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดย เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ ร่วมกับ มูลนิธิชายหญิงก้าวไกล พร้อมด้วย ศูนย์ฝึกและอบรมเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก ได้จัดกิจกรรมรณรงค์หยุดการคุกคามทางเพศของวัยรุ่นช่วงสงกรานต์ ภายใต้แคมเปญ "สาด..ไม่แต๊ะอั๋ง...แมนโคตรๆ" ที่บริเวณลานใต้สะพานพระราม 8 เมื่อวันก่อน

                         ในงานนอกจากจะมีกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ชุด "ขอมือเธอหน่อย" การปล่อยขบวนรถมอเตอร์ไซค์-รถตุ๊กตุ๊กรวม 50 คัน ตระเวนแจกเอกสารกับลูกโป่งยุติการเล่นสาดน้ำที่ไม่ให้เกียรติกัน รวมถึงการนั่งโต๊ะเสวนาในหัวข้อ "สงกรานต์กับการคุกคามทางเพศของวัยรุ่น" ซึ่งมีการเปิดผลสำรวจ "มุมมองของวัยรุ่นชายต่อปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศช่วงสงกรานต์" นำโดย "บาส" ศุภชัย ใจยอง เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ "มิวค์" ดวงกมล ทองมาอิ่ม ตัวแทนเครือข่ายเยาวชนสร้างสรรค์รู้ทันแอลกอฮอล์ "เอ" ตัวแทนจากศูนย์ฝึกและอบรมเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก และ อังคนา อินทสา มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล

                         "บาส" ศุภชัย เปิดเผยว่า ผลจากการสำรวจความคิดเห็นเยาวชนชายอายุระหว่าง 15-25 ปี จำนวน 664 ชุดในพื้นที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 26-30 มีนาคม 2556 พบว่ากลุ่มตัวอย่างกว่า 72 เปอร์เซ็นต์ มองว่า เทศกาลสงกรานต์เป็นเทศกาลที่วัยรุ่นไทยให้ความสำคัญที่สุด รองลงมาคือ วันปีใหม่ วันวาเลนไทน์ และวันลอยกระทง ทั้งนี้วัยรุ่นส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับวันสงกรานต์ในเรื่องการสาดน้ำประแป้งถึง 54 เปอร์เซ็นต์ การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่มีเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ เมื่อถามถึงปัญหาการลวนลาม คุกคามทางเพศของวัยรุ่นในช่วงสงกรานต์ ปรากฏว่า กลุ่มตัวอย่างถึง 57 เปอร์เซ็นต์ มองว่า เป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข ในขณะที่ 26 เปอร์เซ็นต์ มองว่าเป็นเทศกาลแห่งโอกาส ใครๆ ก็ทำได้ไม่ต้องสนใจกฎหมาย ส่วนอีก 17 เปอร์เซ็นต์ มองว่า เป็นเรื่องปกติ และถ้าหากถามถึงปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว กลุ่มตัวอย่าง 59 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่า มาจากการดื่มสุรา 14 เปอร์เซ็นต์ ค่านิยมแบบผิดๆ คือการไม่ให้เกียรติกัน ไม่เคารพสิทธิของผู้อื่น 9 เปอร์เซ็นต์ เจ้าหน้าที่รัฐปล่อยปละละเลย 6 เปอร์เซ็นต์ การยุยงส่งเสริมของเพื่อน 6 เปอร์เซ็นต์ การพึ่งพายาเสพติด 5 เปอร์เซ็นต์

                         ขณะที่ "มิวค์" ดวงกมล กล่าวว่า เมื่อนึกถึงสงกรานต์ อันดับแรกคือ การเล่นน้ำ การแต่งตัววาบหวิว แต่สิ่งที่เห็นทุกปีคือ การเล่นสาดน้ำที่ไม่สร้างสรรค์ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นหญิงต้องตกอยู่ในสภาพการถูกลวนลาม อนาจาร คุกคามทางเพศ และหากจะเปรียบเทียบพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ที่เสี่ยงและอันตรายมากที่สุดในกรุงเทพฯ คือ ถนนสีลม รองลงมาคือ ถนนข้าวสาร เพราะยังควบคุมการจำหน่ายสุราไม่ได้ ทั้งที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดปัญหา

                         "จริงอยู่ที่วัยรุ่นหญิงบางคนแต่งตัวล่อแหลม แต่ก็ถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่เขาสามารถทำได้ โดยที่ผู้ชายไม่มีสิทธิฉวยโอกาสหรือเข้ามาลวนลามจับเนื้อต้องตัว อีกทั้งยังเชื่อว่า ปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหาดังกล่าวล้วนมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ขาดความยับยั้งชั่งใจ บวกกับเมื่อมีพวกพ้องเยอะ ยิ่งทำให้เกิดความคึกคะนอง จึงอยากฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ให้ช่วยดูแลสอดส่องอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันก็อยากบอกไปถึงเพื่อนผู้หญิงว่า เพื่อความปลอดภัยควรแต่งกายให้มิดชิด และเมื่อถูกกระทำการล่วงละเมิดก็อยากให้ลุกขึ้นปกป้องสิทธิและศักดิ์ศรีของตัวเอง อย่ามัวแต่อายเพราะจะทำให้อีกฝ่ายได้ใจ" ดวงกมล แสดงความเห็น

                         ปิดท้ายที่ อังคนา กล่าวว่า จากผลการสำรวจในข้างต้น สะท้อนว่า วัยรุ่นส่วนใหญ่ต้องการให้เร่งแก้ไขปัญหาการคุกคามทางเพศและต้องการให้สร้างจิตสำนึก เปลี่ยนค่านิยม ปรับทัศนคติใหม่ให้เกียรติซึ่งกันและกัน โดยไม่ควรใช้เงื่อนไขของเทศกาลสงกรานต์มาเป็นข้ออ้างเพื่อฉวยโอกาส ซึ่งไม่ใช่แค่ลงมือกระทำ แต่ยังรวมถึงการพูดจาและการใช้สายตาจับจ้องอีกด้วย และเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น จึงอยากให้เจ้าภาพหลักของการจัดงานแต่ละแห่งจัดโซนนิ่ง เช่น เขตเล่นน้ำต้องปลอดจากแอลกอฮอล์ เป็นต้น