
เลือดใหม่'จิราธิวัฒน์'ลุยห้างหรูเมืองมะกะโรนี
เลือดใหม่'จิราธิวัฒน์'ลุยห้างหรูเมืองมะกะโรนี
ถ้าให้เอ่ยถึงบ้านจิราธิวัฒน์ คำว่า "เซ็นทรัล" เห็นจะลอยมาให้นึกถึงเป็นอันดับแรก เพราะตระกูลนี้เกิดจากการทำธุรกิจค้าปลีก ที่เริ่มจากเปิดห้างเซ็นทรัลวังบูรพา ที่ทำเอาคนกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมรได้สนุกสนานคึกคักกับการจับจ่าย จนตอนนี้มีห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเกือบทั่วราชอาณาจักร ไล่เรียงไปจนถึงการเปิดธรุกิจโรงแรมและอื่นๆ อีกมากมายจนประสบความสำเร็จกลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นของเมืองไทยและติดลิสต์รายชื่อมหาเศรษฐีของโลกกับเขาด้วย
ล่าสุดเซ็นทรัลรีเทล กลุ่มบริษัทค้าปลีกและห้างสรรพสินค้า สร้างความยิ่งใหญ่อีกครั้งด้วยการประกาศซื้อกิจการทั้งหมดของห้างเก่าแก่สุดหรูอันดับ 1 ของอิตาลีและนับว่าเป็นห้างที่ดีที่สุดของยุโรป "ลา รีนาเซนเต" จึงเป็นเหตุให้ ยุวดี จริาธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด จัดทริปโดยให้ "ผึ้ง" สิริยส เทพหัสดิน ณ อยุธยา ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด พาคณะสื่อมวลชนจากเมืองไทยไปเยี่ยมชมกิจการ
นัดหมายกันแต่เช้าตรู่ตั้งแต่ห้างลา รีนาเซนเต ซึ่งตั้งอยู่กลางย่านช็อปปิ้งของเมืองมิลาน และอยู่ตรงกันข้ามกับวิหารประจำเมือง "มิลาน ดูโอโม" งานนี้ อัลเบอร์โต้ บาวเด้นท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารวิ่งมารอรับคณะของเราด้วยตัวเอง พร้อมกับพา ฌอน ฮิลล์ ผู้ประสานงานคนสำคัญจนได้ห้างหรูนี้มาบริหาร ซึ่งตอนนี้นั่งเก้าอี้ผู้จัดการด้านการขยายธุรกิจค้าปลีก ลา รีนาเซนเต โดยเจเนอเรชั่นที่ 3 ของบ้านจิราธิวัฒน์ เล่าให้ฟังถึงเรื่องราวตัวเองว่า ส่วนตัวเป็นหลานตา สัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ โดยเป็นลูกชายของ สุวิมล ฮิลล์ เกิดที่เมืองไมอามี่ สหรัฐอเมริกา
"สมัยเด็กผมตามอากง(ตาสัมฤทธิ์) เข้าประชุมอยู่ตลอด ตาไปไหนผมไปด้วย เรื่องการจัดการบริหารหรือเรื่องค้าปลีกมันจึงอยู่ในสายเลือดตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งที่ตามไปไม่ใช่อะไรเลย พอประชุมตอนกลางวันก็จะมีข้าวให้กิน ผมก็ไปด้วย เข้าไปด้วยได้กินข้าวฟรี(หัวเราะ) หรือเวลาตามาที่อเมริกาทุกปีก็จะพาผมไปดูห้างต่างๆ เจออะไรตาก็ถ่ายรูปเก็บไว้ แล้วสอนว่าเดินห้างใช่ว่ามาเดินเล่น ต้องดูว่าเขามีอะไร ทำอย่างไรจึงขายดี เราจะได้ไปพัฒนาของตัวเอง มันอยู่ในสายเลือดเพราะเราอยู่กับญาติๆ อยู่กับธุรกิจตลอด จนโตอีกนิดผมก็ได้อยู่กับน้าทศ (ทศ จิราธิวัฒน์) ก็ได้ใกล้ชิด ได้เห็นความตั้งใจ สิ่งเหล่านี้ก็ติดตัวมาอย่างไม่ตั้งใจ" ฌอน เล่าที่มาที่ไป
พร้อมกับกล่าวต่อว่า ก่อนที่จะมานั่งดูงานที่นี่ส่วนตัวก็เรียนมาทางด้านกฎหมาย พอเรียนจบก็เป็นทนายให้กับธนาคารแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา จนถูกมอบหมายให้ดูเรื่องการตรวจ ร่างสัญญา เจรจา ต่อรอง ประเภทต่างๆ แม้กระทั่งที่ ลา รีนาเซนเตก็เป็นส่วนหนึ่งที่จัดการเจรจาและศึกษาในทุกๆ ด้านก่อนส่งต่อให้ผู้บริหารระดับสูงเป็นคนตัดสินใจ
"ถามว่าผมเป็นคนเริ่มเรื่องการซื้อ ลา รีนาเซนเต หรือเปล่า ตอบเลยว่าเปล่า ระดับผู้บริหารเขาคุยกันก่อนแล้ว แล้วก็หลังจากนั้นเรียบร้อยแล้วก็ได้รับมอบหมายให้มาดู ลา รีนาเซนเต ดูเรื่องสถานที่ที่จะไปซื้อต่อไป หรือจะไปซื้อ เช่า หรือทำอะไร หรือเรียกว่าการหาทำเลที่เหมาะสมเพื่อเปิดสาขาใหม่ ผมเป็นคนที่ดูสถานที่ เตรียมและวิเคราะห์ข้อมูลการตลาด แผนธุรกิจในอนาคต แล้วนำไปเสนอน้าๆ ถามว่าพูดเก่งหรือไม่โดยบุคลิกคิดว่าเป็นคนพูดเก่งนะ ถ้าคุยไม่เก่งทำงานนี้ไม่ได้แน่ ซึ่งทั้งหมดก็ได้มาจากการซึมซับจากคนในครอบครัว โดยเฉพาะอากง (คุณตา) ที่จะสอนและซีเรียสมากกับการเรียนของเด็กๆ ทุกคน และทุกคนก็ทำงานหนัก ผมว่ามันอยู่ในสายเลือด อย่างผมมาทำงานทีนี่ก็เริ่มงานตั้งแต่ตี 3 ต้องอ่านอีเมล์ และถ้าด่วนก็จะตอบเลย เพราะที่ยุโรปเวลาจะเร็วกว่า แต่ก็ชินอยู่แล้วเพราะตอนเป็นทนายก็ทำงานวันละ 15-16 ชั่วโมง และทุกคนในบ้านก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้นทำงานกันตลอด" เจเนอเรชั่นที่ 3 ของบ้านจิราธิวัฒน์ เล่า
สำหรับ ลา รีนาเซนเต เมื่อเซ็นทรัลรีเทลได้เข้ามาบริหารจัดการได้มีการปรับปรุงชั้นต่างๆ พร้อมแบรนด์ระดับโลกให้อยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ "ช็อปอินช็อป" ที่สามารถมิกซ์แอนด์แมทช์ได้ทุกความต้องการ โดยมีแบรนด์จากทั้งประเทศอิตาลีและทั่วโลก อย่างเสื้อผ้าสตรีกว่า 280 แบรนด์ เสื้อผ้าบุรุษกว่า 150 แบรนด์ เสื้อผ้าเด็กกว่า 50 แบรนด์ เครื่องใช้ในบ้านและสินค้าที่มีดีไซน์กว่า 450 แบรนด์ และผลิตภัณฑ์อาหารกว่า 1,000 ชนิด และแน่นอนอยู่แล้วเมื่อห้างสรรพสินค้าตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ (ถือเป็นเกณฑ์สำคัญในการตัดสินใจเข้าซื้อของกลุ่มเซ็นทรัลรีเทล) ชาวต่างชาติที่มาช็อปปิ้งส่วนมากคือนักท่องเที่ยว อย่าง รัสเซีย จีน สวิตเซอร์แลนด์ บราซิล และญี่ปุ่น
อีกหนึ่งไฮไลท์ของห้างสรรพสินค้านี้คือในชั้นบนสุดคือชั้นที่ 7 ได้จัดให้เป็นแผนกอาหารและร้านอาหารที่สามารถชมความสวยงามของวิหารดูโอโม สถานที่ท่องเที่ยวอันดับ 1 ของเมืองมิลานได้อย่างชัดเจน ด้วยตั้งอยู่ขนานกับห้างสรรพสินค้ากันเลยทีเดียว
"ผมก็สนุกกับการทำงานกิจการครอบครัว แต่ถามว่าอยากทำอย่างอื่นหรือไม่ ก็อยากเป็นอเมริกันฟุตบอล (หัวเราะ) เพราะตอนเด็กๆ โรงเรียนที่เรียนอยู่มีนักกีฬาที่เก่งด้านอเมริกันฟุตบอลมาสอนด้วย กีฬานี้ก็สอนให้เล่นกันเป็นทีม ซึ่งก็เหมือนกันกับการทำธรุกิจที่ต้องทำงานกันเป็นทีม และต้องเป็นทีมที่เก่ง ซึ่งเราก็ต้องเก่งก่อนด้วย แต่ถ้าตอบจริงและอาจจะทำแน่คือในอนาคตก็อยากทำโรงแรมเหมือนญาติๆ หลายคนทำอยู่ตอนนี้ (หัวเราะ)" ฌอน ฮิลล์ นักธุรกิจรุ่นใหม่จากครอบครัวจิราธิวัฒน์ กล่าวปิดท้ายการพูดคุย ก่อนจะพาทีมไปรับประทานที่ชั้น 7 พร้อมกับชมความสวยงามของวิหารดูโอโมไปพร้อมกัน