ข่าว

ปปง.ยึดทรัพย์บ่อนเตาปูน

ปปง.ยึดทรัพย์บ่อนเตาปูน

04 เม.ย. 2556

"ปปง." แถลงยึดทรัพย์บ่อนเตาปูน เร่งสอบเส้นทางการเงินบ่อนแม่โห้ บ่อนเยาวราช พร้อมเปิดสายด่วนรับแจ้งเบาะแสฟอกเงินลวงเหยื่อโอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม


          วันที่ 4 เม.ย.56  พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงความคืบหน้าการยึดอายัดทรัพย์บ่อนการพนัน 3 แห่ง ประกอบด้วย บ่อนเตาปูน บ่อนแม่โห้ คลองตัน และบ่อนเยาวราชหรือบ่อน 369 ถนนผดุงด้าว ย่านสัมพันธวงศ์ ว่า  สำหรับบ่อนเตาปูน ปปง.ได้ส่งสำนวนให้อัยการยื่นฟ้องให้ศาลมีคำสั่งยึดที่ดินตามโฉนดเลขที่ 156026 เขตบางซื่อ กทม.เนื้อที่ 2 งาน 40 ตารางวา พร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นอาคารพาณิชย์ ราคาประเมิน 12.4 ล้านบาท ให้ตกเป็นของแผ่นดิน เพราะปรากฎหลักฐานเชื่อได้ว่า ทรัพย์สินดังกล่่าวได้มาจากกการกระทำความผิด
 
          เลขาธิการปปง. กล่าวต่อว่า ส่วนบ่อนแม่โห้ คลองตัน หลังจากศาลมีคำพิพากษาจำคุกเจ้ามือและนักพนันกว่า 100 คน ทำให้คดีเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน อีกทั้งยังมีบุคคลที่อยู่เบื้องหลังไม่ต่ำกว่า 5 ราย ปปง.จึงเร่งรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการทางทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐานต่อไป
 
          พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวถึงการตรวจสอบการลักลอบเล่นพนันในบ่อนเยาวราชว่า บ่อนดังกล่าวเปิดให้เล่นพนันรายใหญ่มีวงเงินพนันสูง ขณะเข้าจับกุมมีนักพนัน 246 คน ภายในบ่อนแบ่งเป็นห้องโถงรวมและห้องวีไอพี ยึดของกลางที่ใช้เป็นทรัพย์วางเดิมพันพนันได้ 17 รายการ อาทิ เงินสด แหวนอัญมณี ทองรูปพรรณ และพระเหลี่ยมทอง มูลค่ากว่า 130 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ปปง.เข้าไปตรวจสอบพบว่า บริเวณรอบนอกอาคารที่เปิดเป็นบ่อนพนันมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อตรวจสอบบุคคลแปลกหน้า และมีพ่อค้า แม่ค้า และจิ๊กโก๋ปากซอยคอยดูต้นทาง ขณะนี้ปปง.ยังรอผลการตรวจสอบจากหน่วยงานและสถาบันการเงินเพื่อวิเคราะห์เส้นทางการเงินของผู้ที่ได้รับผลประโยชน์แท้จริงจากบ่อนเยาวราช
 
          นอกจากนี้พ.ต.อ.สีหนาทยังเปิดศูนย์คอลเซ็นเตอร์ สายด่วน ปปง. 1710 เพื่อเป็นศูนย์กลางในการรับแจ้งเบาะแสและรับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชนและผู้เสียหายที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม เนื่องจากมิจฉาชีพได้ใช้ระบบโทรศัพท์ผ่านอินเตอร์เน็ตหรือวีโอไอพี สวมทับ หมายเลขโทรศัพท์ของหน่วยราชการต่างๆ รวมทั้งปปง.จนทำให้ประชาชนกว่า 100 รายหลงเชื่อและโอนเงินกว่า 50 ล้านบาท ไปให้แก่มิจฉาชีพที่ไปตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงอยู่ในต่างประเทศ