
'ปู'ร่วมยินดีทหารเลื่อนชั้นสัญญาบัตร
'ยิ่งลักษณ์' แสดงความยินดีนายทหารประทวนเลื่อนฐานะเป็นนายทหารสัญญาบัตร จ่า1,249 นายเฮ! ทบ.ประดับยศร้อยตรี ด้าน'ผบ.ทบ.'แนะอยู่บนพื้นฐานพอเพียง
ที่บริเวณลานเอนกประสงค์ ศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 1 เม.ย.2556 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีแสดงความยินดีแก่นายทหารประทวนที่ได้รับการเลื่อนฐานะเป็นนายทหารสัญญาบัตร 3 เหล่าทัพ จำนวน 2,595 นาย โดยมี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัติ รมว.กลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.และผู้นำเหล่าทัพร่วมในพิธีดังกล่าว โดยแบ่งเป็นสำนักรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม 1 นาย สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม 26 นาย กองบัญชาการกองทัพไทย 341 นาย กองทัพบก 1,249 นาย กองทัพเรือก 319 นาย และกองทัพอากาศ 659 นาย
โดยพิธีแสดงความยินดีจัดขึ้นบริเวณลานเอนกประสงค์ ศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม โดยเป็นครั้งแรกที่มีประกาศเจตนารมย์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ให้ข้าราชการประทวน ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละตลอดชีวิตราชการ เลื่อนฐานะจากนายทหารชั้นประทวนเป็นนายทหารสัญญาบัตรก่อนเกษียณอายุราชการ เพื่อเป็นเกียรติแก่ตนเอง และ วงศ์ตระกูล ซึ่งนายทหารประทวนดังกล่าวจะต้องมีคุณสมบัติโดยเป็นนายทหารประทวนซึ้งดำรงตำแหน่งยศจ่าสิบเอก พันจ่าเอก พันจ่าอากาศเอก ที่มีอัตราเงินเดือน จ่าสิบเอกพิเศษ พันจ่าเอกพิเศษ และจ่าอากาศเอกพิเศษ ที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป
จ่า1,249นายเฮ!ทบ.ประดับยศร้อยตรี
ขณะที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานพิธีประดับยศเลื่อนฐานะนายทหารประทวนที่อายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไปเป็นนายทหารสัญญาบัตรในสังกัดกองทัพบก จำนวน 1,249 นาย ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวให้โอวาทตอนหนึ่งว่า ขอแสดงความยินดีกับนายทหารทุกคน ซึ่งเป็นผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่รับใช้ชาติและถือเป็นกลไกหลักสำคัญในการขับเคลื่อนกองทัพบกได้บรรลุผลสำเร็จตามความมุ่งหมาย สามารถสร้างสรรค์ความสงบสุขและความมั่นคงให้กับสังคมและประเทศชาติ อีกทั้งได้นำความเชื่อมั่นและศรัทธากลับมาสู่กองทัพบกได้อย่างแท้จริง ผู้บังคับบัญชาการทุกระดับตระหนักดีถึงผลงานที่ทุกคนได้ทำไว้ แต่ด้วยข้อจำกัดหลายๆด้าน กองทัพบกไม่สามารถตอบแทนคุณงามความดีของกำลังพลได้ทั้งหมดในเวลาเดียวกัน การประดับยศครั้งนี้เป็นเครื่องหมายว่าทุกท่านได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงและยอมรับในผลการดำเนินงานในกองทัพบกในฐานะทหารของชาติและประชาชน ขอให้ภาคภูมิใจในภาระหน้าที่ ในฐานะนายทหารสัญญาบัตรของกองทัพบกและพร้อมอุทิศตนทำงานอย่างเต็มความสามารถ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นสำคัญ ตลอดจนเทิดทูนชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ที่มีความมั่นคงและยั่งยืน
“ทุกคนต้องอยู่บนพื้นฐานของความพอเพียงตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ใช่เป็นนายทหารต้องเปลี่ยนของใช้ไปหมดทุกอย่าง ต้องมีอยู่อย่างพอเพียงและต้องมีความรู้ คุณธรรม มีสติยั้งคิด จะทำอะไรของให้นึกถึงกองทัพบกไว้ก่อน สิ่งที่สำคัญที่ทหารทุกคนต้องระลึกถึงคือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน เพราะประเทศไทยต้องมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นที่ยึดเหนี่ยว ซึ่งแตกต่างกับประเทศอื่นๆ ทั้งนี้ขอฝากกองทัพไว้กับพวกเราทุกคน” ผบ.ทบ. กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องการปรับเงินเดือนให้กับนายทหารชั้นประทวนที่เลื่อนฐานะครั้งนี้นั้น ตนได้เรียนกับรมว.กลาโหมแล้วเรื่องการจัดการโครงสร้าง ซึ่งงบประมาณโดยรวมของกองทัพบกที่ดูเหมือนกับว่าจะได้จำนวนมากนั้น แบ่งเป็นเบี้ยเลี้ยงเงินเดือนประมาณ 70% ส่วนที่เหลือเป็นงบประมาณในการดำเนินงาน และการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์บางส่วน ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการจัดทำแผนให้กองทัพมีความกะทัดรัดมากขึ้น โดยจะต้องมีกำลังพลบางส่วนลดน้อยลง ส่วนที่เป็นกำลังรบจะเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้กองทัพบกเป็นกองทัพที่มีขนาดใหญ่จะลดขนาดกองทัพมากนักไม่ได้ เพราะเรามีภารกิจหลายประการ ไม่ใช่เฉพาะเพียงแค่การสู้รบ การเป็นทหารขอให้คิดว่ามีชีวิตอยู่เพื่อคนอื่น ส่วนการปรับเงินเดือนขึ้นนั้นไม่สามารถดำเนินการได้ทันที เพราะเงินเราผูกพันกับกระทรวงอื่นๆด้วย ถ้าเราขึ้น เขาก็ต้องขึ้น แล้วประเทศชาติจะเอาเงินมาจากที่ไหน วันนี้เราต้องพยายามดูแลเขาว่าจะทำอย่างไรให้เขาอยู่อย่างพอเพียง ทั้งสวัสดิการ สหกรณ์ อาชีพเสริม เป็นต้น